ข้อได้เปรียบของคริปโทเคอร์เรนซี 10 ข้อท่ามกลางเศรษฐกิจขาลงแบบหมีๆ (Bearish Economy)
นับเป็นเวลาสิบปีมาแล้วตั้งแต่โลกประสบสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ครั้งล่าสุด อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเรากำลังจะก้าวเข้าสู่สภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอีกครั้งเสียแล้ว เมื่อพูดถึงคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งนับว่าเป็นสินทรัพย์รูปแบบใหม่ คุณอาจจะสงสัยว่า สกุลเงินดังกล่าวจะมีอนาคตเป็นอย่างไรในสภาวะเศรษฐกิจขาลง หรือที่เรียกกันว่า เศรษฐกิจแบบหมี (Bearish Economy) ที่สำคัญ ถ้าหากว่าสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำเกิดขึ้นจริง คริปโทเคอร์เรนซีจะทำให้นักลงทุนพ้นจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำได้หรือไม่?
ถ้าไม่นับว่า บิตคอยน์เป็นผลพลอยได้อันเกิดจากสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกในปี 2008 แล้วละก็ สภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่อาจจะเกิดขึ้นจะถือเป็นวิกฤตการณ์ด้านการเงินครั้งแรกในยุคของคริปโทเคอร์เรนซีเลยทีเดียว ปัจจุบัน ผู้คนมีการคาดคะเนผลตอบรับของคริปโทเคอร์เรนซีในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำแตกต่างกันมากมายหลายรูปแบบ โดยอ้างอิงจากเทรนด์และความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญหลายๆท่าน อย่างไรก็ตาม เรามองเห็นข้อได้เปรียบ 10 ข้อที่จะช่วยให้คริปโทเคอร์เรนซีอยู่รอดท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน
1. ความเป็นอิสระ
คริปโทเคอร์เรนซี โดยเฉพาะบิตคอยน์ ไม่ได้ถูกควบคุมโดยใครและนับว่าค่อนข้างเป็นอิสระจากแรงกดดันที่มาจากระบบการเงินแบบดั้งเดิม ดังนั้น คุณค่าโดยรวมที่บิตคอยน์สามารถมอบให้เจ้าของนับเป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะทำให้เจ้าของบิตคอยน์อยู่รอดท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
2. ความสะดวกสบาย
กระบวนการถือครองบิตคอยน์นับว่าง่ายมากเมื่อเทียบกับกระบวนการถือครองสกุลเงินเฟียตทั่วไป คุณสามารถซื้อขายบิตคอยน์ผ่านผู้ให้บริการซื้อขายบิตคอยน์โดยเฉพาะ ซึ่งนับเป็นข้อได้เปรียบในกรณีที่สกุลเงินอื่นๆประสบภาวะตกต่ำ พูดง่ายๆก็คือ ไม่ว่าใครก็สามารถเป็นเจ้าของเงินสกุลดิจิทัลได้ในปัจจุบัน
3. ความปลอดภัยจากสภาวะเงินเฟ้อ
ท่ามกลางสถานการณ์เงินเฟ้อ การลงทุนกับเงินสกุลเฟียตมักจะไม่ได้รับความนิยมเนื่องจากการลงทุนในรูปแบบดังกล่าวนับว่าเป็นการลงทุนที่ไม่มีความมั่นคง นักลงทุนจึงหันไปลงทุนกับเงินสกุลดิจิทัลแทนเนื่องจากพวกเขามองเห็นว่าการลงทุนในรูปแบบนี้ปลอดภัยกว่า นี่เป็นสาเหตุที่การลงทุนบิตคอยน์พุ่งสูงถึง 40% ท่ามกลางสถานการณ์เงินเฟ้อในประเทศเวเนซุเอลาและแอฟริกาใต้
4. มูลค่าที่แท้จริง
ในเวลาเดียวกันกับที่ประเทศต่างๆประสบสภาวะสกุลเงินอ่อนตัว คริปโทเคอร์เรนซี โดยเฉพาะบิตคอยน์ กลับมีมูลค่าที่แท้จริง (Intrinsic Value) สูงเทียบเท่ากับทอง เนื่องจากบิตคอยน์ไม่ได้เป็นของใคร และไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของนโยบายการเงินใดๆ ทำให้บิตคอยน์กลายเป็นตัวเลือกที่ดีในการนำมาใช้แทนเงินสด
5. ความสามารถในการเคลื่อนย้าย
บิตคอยน์มักจะถูกนำไปเปรียบเทียบกับทอง หรือแม้แต่ทองรูปแบบดิจิทัลในบางกรณี ทองนับเป็นที่พึ่งทางการเงินอันแข็งแกร่งของผู้คนมานานหลายศตวรรษและจะยังคงเป็นที่พึ่งอันแข็งแกร่งในสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนย้ายทองไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การเคลื่อนย้ายเงินสกุลดิจิทัลทำได้อย่างง่ายดายผ่านกระเป๋าสตางค์แบบฮาร์ดแวร์ กระเป๋าสตางค์แบบกระดาษ และกระเป๋าสตางค์ออนไลน์รูปแบบอื่นๆ
6. การขุดที่ง่ายกว่า
การขุดบิตคอยน์นับเป็นการขุดที่ง่ายกว่าการขุดทองอย่างมาก เนื่องจากบิตคอย์สามารถขุดจากที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ ขอแค่คุณมีอินเตอร์เน็ตและอุปกรณ์พื้นฐาน อีกทั้งยังใช้ต้นทุนน้อยกว่าการขุดทองอีกด้วย
7. การป้องกันความเสี่ยงจากค่าเงิน
สงครามการค้าจีน–สหรัฐเริ่มก่อตัวขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ค่าเงินเหรินหมินปี้ตกต่ำ ในเวลาเดียวกัน ค่าเงินบิตคอยน์กลับพุ่งสูงเกิน 150% ส่งผลให้ผู้เชี่ยวชาญมองว่าบิตคอยน์นับเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยต่อการลงทุน
8. ปัจจัยความเชื่อมั่น
หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้บิตคอยน์ถือกำเนิดขึ้น สืบเนื่องมาจากความเชื่อมั่นที่ผู้คนมีต่อธนาคารและรัฐบาลในแต่ละประเทศตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ในเวลาเดียวกันกับที่การลงทุนกับสกุลเงินปกติและทองถูกควบคุมโดยศูนย์กลาง คริปโทเคอร์เรนซีกลับถูกควบคุมโดยเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งได้รับการดูแลโดยตนเองและผู้ลงทุน
9. แรงผลักดันของอุปสงค์และอุปทาน
การทำความเข้าใจเศรษกิจเบื้องต้นจะต้องเริ่มด้วยความรู้ที่ว่า ในภาวะที่มีอุปสงค์ส่วนเกินพร้อมกันกับอุปทานส่วนขาด สินค้าและบริการต่างๆจะมีราคาสูงขึ้นทันที ดังนั้น เนื่องจากมูลค่าของบิตคอยน์ผูกติดอยู่กับอุปทานซึ่งมีจำนวนแน่นอน และลักษณะตามธรรมชาติของบิตคอยน์ที่มีการแบ่งครึ่ง ยิ่งมีผู้คนและสถาบันเข้ามาลงทุนกับบิตคอยน์มากเท่าไหร่ อุปสงค์หรือความต้องการบิตคอยน์ก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันกับที่อุปทานยังคงมีจำนวนเท่าเดิม ส่งผลให้มูลค่าของบิตคอยน์มีแนวโน้มที่จะพุ่งสูงขึ้นในสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
10. ความสนใจจากสื่อ
ท่ามกลางการคาดการณ์ด้านเศรษฐกิจติดลบจากผู้เชี่ยวชาญ ใครๆก็กำลังพูดถึงบิตคอยน์ในฐานะสกุลเงินซึ่งมีศักยภาพและมีแนวโน้มว่าจะอยู่รอดท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ความสนใจจากผู้คนและสื่ออย่างต่อเนื่องนี้เองที่จะทำให้คนจำนวนมากหันมาลงทุนกับคริปโทเคอร์เรนซีมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้มูลค่าของสกุลเงินดังกล่าวพุ่งสูงขึ้นในเวลาเดียวกัน
You might also like
More from การค้าขาย
วิธีการแก้ไขอาการกลัวตกรถ (FOMO)
วิธีการแก้ไขอาการกลัวตกรถ (FOMO) ในโลกของคริปโตจะมีปรากฎการณ์ที่ราคาเหรียญถูกเก็งกำไรขึ้นไปอย่างรวดเร็วจนทำให้นักเทรดบางกลุ่มเกิดอาการกลัวที่จะตกรถหรือ FOMO (Fear Of Missing Out) เข้าไปรีบซื้อตามจนทำให้เกิดความเสียหาย มาดูกันว่าจะมีวิธีการแก้ไขอาการกลัวตกรถได้อย่างไร ทำการบ้านก่อนล่วงหน้า การที่จะห้ามตัวเองไม่ให้รีบเข้าไปเก็งกำไรในเหรียญที่มีการพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วคือการทำการบ้านในการคัดเลือกเหรียญที่จะลงทุนก่อน เพราะถ้าหากไม่มีการทำการบ้านหรือคัดเลือกเหรียญใน Waiting List จะทำให้นักเทรดไม่มีสมาธิจดจ่ออยุ่กับแนวทางการเทรดของตัวเอง แต่จะไปเน้นเทรดตามเหรียญที่เก็งกำไรแต่ละวันมากกว่าซึ่งเป็นแนวทางที่ไม่ทำให้เกิดผลการเทรดที่ดี หลักการทำการบ้านหรือคัดเลือกเหรียญที่จะเทรดควรจะคัดเลือกด้วยปัจจัยพื้นฐานเป็นปัจจัยแรกเพื่อที่จะได้เหรียญที่มีแรงซื้อเข้ามาด้วยการมี Use Case จริงมากกว่าการปั่นราคาเพียงชั่วคราว จากนั้นก็วิเคราะห์แนวโน้มทางเทคนิค มองหาจุดซื้อ จุดขายและจุดตัดขาดทุนไว้ล่วงหน้า …
Bitazza แพลตฟอร์มนายหน้าเทรดคริปโตที่ให้คุณมากกว่าแค่การซื้อขายเหรียญ
Cryptocurrency ที่คนไทยส่วนใหญ่เรียกกันสั้นๆ ว่าคริปโตนั้น แท้จริงแล้วเป็นสกุลเงินดิจิทัลหรือสกุลเงินเสมือนประเภทหนึ่งที่ต้องอาศัยการเข้ารหัสเพื่อความปลอดภัย สร้างขึ้นบนเทคโนโลยีบล็อกเชนที่ถูกออกแบบมาเป็นเทคโนโลยีแบบกระจายศูนย์ไม่ขึ้นกับส่วนกลาง หรือที่เรียกว่า decentralized technology จนถึงตอนนี้ คุณอาจรู้แล้วว่าในปัจจุบัน คริปโตมีแนวโน้มการใช้งานโดยผู้คนทั่วไปเพิ่มขึ้นแบบต่อเนื่อง โดยเมื่อพิจารณาจากข้อมูลของ Statista ที่คาดการณ์ไว้ว่าตลาดสกุลเงินดิจิทัลของไทยจะมีมูลค่าสูงถึง 256.4 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 8.9 พันล้านบาท ภายในปี …
รู้จัก Copy Trade กลยุทธ์ตัวช่วยนักเทรดแบบง่ายๆ ก้อปปี้ตามได้!
รู้จัก Copy Trade กลยุทธ์ตัวช่วยนักเทรดแบบง่ายๆ ก้อปปี้ตามได้! ธรรมชาติของการลงทุนโดยเฉพาะในโลกของคริปโตที่มีความเสี่ยงสูง นักเทรดส่วนน้อยเท่านั้นที่จะสามารถอยู่รอดและประสบความสำเร็จ ผู้ที่ยังไม่มีประสบการณ์มากพออาจจำเป็นต้องมีเครื่องมือที่จะช่วยให้ประสบความสำเร็จในการเทรดหรือเรียนรู้จากผู้มีประสบการณ์ Copy Trade คือฟีเจอร์หนึ่งที่จะเปิดทางให้นักเทรดทั่วไปซึ่งยังไม่มีประสบการณ์หรือความมั่นใจในการลงสนามมีโอกาสได้ติดตามนักเทรดที่มีความสามารถ โดยหลักการทำงานของ Copy Trade คือผู้ใช้งานสามารถเลือกที่จะกดติดตามนักเทรดที่เป็นผู้นำ โดยตัดสินใจจากผลงานที่ทำได้หรือมีกลยุทธ์การเทรดที่ตรงกับสไตล์ส่วนตัว Copy Trade จึงเป็นตัวช่วยสำหรับนักเทรดที่ยังไม่มีประสบการณ์สามารถสร้างผลตอบแทนจากการเทรดได้และอาจจะใช้การติดตามผู้นำเป็นการเรียนรู้การเทรดไปในตัวด้วย เมื่อมีประสบการณ์ที่มากพอ อนาคตจากเดิมที่เป็นผู้ติดตามก็สามารถที่จะพัฒนาตัวเองเป็นผู้นำเทรดได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามแม้จะได้ชื่อว่าเป็นนักเทรดมืออาชีพแต่ไม่สามารถที่จะการันตีได้ว่าจะไม่เกิดผลขาดทุน ก่อนจะใช้งาน Copy …