ชำแหละ 10 วิธีในการสร้างรายได้จากคริปโต
ยินดีต้อนรับเข้าสู่วงการ Crypto (คริปโท) ในตอนนี้คุณอาจจะมี Crypto(คริปโท) บ้างแล้ว ซึ่งมันอาจจะไม่ใช่งานอดิเรกเพราะคุณต้องการหารายได้จากการลงทุนของคุณ อย่างไรก็ตามในตอนนี้เราอาจจะพูดได้ว่านักลงทุนส่วนใหญ่ในวงการนี้ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเท่าไรนัก
ในความเป็นจริงมันอาจจะเป็นเรื่องน่าเบื่อในการอ่านกราฟ ซึ่งพวกเราได้รวบรวมวิธีการลงทุนในรูปแบบต่างๆที่จะการทำให้การลงทุนของคุณได้ผลตอบแทนที่ดีที่สุด
1. ซื้อและถือมันซะ
ซื้อถูกขายแพงนั้นเป็นหลักการที่สามารถใช้ในการลงทุนในทุนๆแบบ ด้วยการที่คุณซื้อสินทรัพย์ใดๆสำหรับการลงทุน และถือมันจนกว่ามันจะมีมูลค่าที่จนคุณจะพอใจและขายมันเพื่อทำกำไรในตลาด ซึ่งมันก็เป็นแนวคิดเดียวกันกับการลงทุนใน Crypto (คริปโท) แต่คำถามคือผลตอบแทนต้องมากแค่ไหนคุณถึงจะพอใจ ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่แต่ละบุคคลจะรับได้ เพราะฉะนั้นถ้าคุณชอบวิธีนี้คุณก็แค่ซื้อและถือไว้จนกว่าคุณจะพอใจในผลตอบแทนและขายมันซะ
2. กินปันผล
มี Cryptocurrency (คริปโทเคอร์เรนซี) บางชนิดที่คุณสามารถได้ปันผลด้วยการถือมันเป็นเวลาหนึ่ง ซึ่งมันเป็นวิธีที่ค่อนข้างปลอดภัยโดยวิธีนี้ถูกเรียกว่า Staking (สเตกกิ้ง) ซึ่งคุณสามารถทำได้โดยการถือ Cryptocurrency(คริปโทเคอร์เรนซี) ไว้ใน Wallet (กระเป๋าเงินดิจิทัล) ที่รองรับในระยะเวลาหนึ่งคุณก็จะได้ปันผล คล้ายๆกับการที่คุณได้เงินปันผลจากหุ้น
3. Arbitrage (อาร์บิทราจ)
เป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วในการทำกำไรจากการลงทุนใน Cryptocurrency(คริปโทเคอร์เรนซี) ด้วยการซื้อเหรียญที่มีราคาถูกในตลาดหนึ่งและนำไปขายอีกตลาดหนึ่งที่ราคาสูงกว่า ซึ่งเป็นวิธีที่สามารถทำกำไรอย่างง่ายดายโดย โดยวิธีนี้ถูกเรียกว่า Arbitage (อาร์บิทราจ)
4. ลงทุนในเหรียญหลายชนิด
ในขณะที่ Bitcoin (บิทคอยน์) นั้นเหมือนพี่ใหญ่ในวงการ Cryptocurrency(คริปโทเคอร์เรนซี) ถึงกระนั้นก็ยังมีเหรียญอื่นๆ (Altcoin) ที่มีแนวทางของตัวเอง อย่าง Ethereum (เอเธอเรียม) หรือ Ripple (ริปเปิล) ที่น่าลิ้มลองในการลงทุน Crypto (คริปโท) ของคุณ
5. การขุด
การลงทุนในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ในการขุด Cryptocurrency(คริปโทเคอร์เรนซี) อาจจะเป็นเป็นสิ่งที่หนักหนาสำหรับเงินในกระเป๋าของคุณ แต่มันก็คุ้มค่าถ้าคุณต้องการจะหาผลกำไรจาก Crypto (คริปโท) โดยพื้นฐานของการขุดคือการที่คุณมีส่วนร่วมในการสร้างธุรกรรมที่จะบันทึกลงบน Blockchain (บล็อกเชน) และได้รับรางวัลในการมีส่วนร่วมกับระบบ Cryptocurrency (คริปโทเคอร์เรนซี)
6. การอ่านกราฟ
มันอาจจะเป็นสิ่งที่ยากสำหรับมือใหม่ แต่มันก็คุ้มที่คุณจะเรียนรู้การอ่านกราฟและมองหาโอกาส เป็นเรื่องธรรมชาติของ Cryptocurrency(คริปโทเคอร์เรนซี) ที่จะมีความผันผวนและมูลค่าของมันมีความผันผวนอย่างมากในทุกๆวัน ทำให้คุณสามารถอ่านกราฟและหาจุดเข้าซื้อและจุดที่ต้องการจะขายที่ถูกต้องได้
7. เหรียญที่ถูกแจก
แน่นอนว่าเราไม่ได้กำลังพูดถึงการลงทุนแบบ Snoop Dogg (สนูป ดอก) แต่เรากำลังพูดถึง Airdrop (แอร์ดรอป) ซึ่งมันคือเหรียญ Crypto(คริปโท) จำนวนหนึ่งที่จะแจกให้แบบฟรีๆ ซึ่งโดยทั่วไปคนที่แจกคือ Start up (สตาร์ทอัพ) ที่มีโปรเจคต์ Cryptocurrency(คริปโทเคอร์เรนซี) เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้คนสนใจในตัวโปรเจคต์ มันคล้ายกับการที่บริษัทนั้นออกโปรโมชั่นสำหรับบริการหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าติดตามแต่อย่าลืมระวังเหรียญ Airdrop (แอร์ดรอป) ที่มาจาก Scam (แสกม) ด้วย
8. รูปแบบการระดมทุน (ICO)
เราอาจจะได้เคยยินสิ่งที่เรียกว่า IPO ในโลกของธุรกิจซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่คล้ายๆกันในวงการ Crypto (คริปโท)นี้แต่เราจะเรียกมันว่า ICO ลองหาเหรียญที่เพิ่งเริ่มระดมทุนและมีมูลค่าต่ำกว่าที่ควรจะเป็นหรืออยู่ในอันดับต่ำและลงทุนกับมัน คุณอาจจะได้เจอเหรียญที่มีคุณภาพโดยที่ยังมี Demand (ความต้องการซื้อ) ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น
9. การปล่อยกู้
Crypto (คริปโท) นั้นกำลังค่อยๆขยายอิทธิพลของมันไปยังระบบการเงินต่างๆของธนาคาร ซึ่งการปล่อยกู้ก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่มันสามารถทำได้ โดยคุณสามารถปล่อยกู้ Bitcoin(บิทคอยน์) ให้แก่คนอื่นๆและได้รับดอกเบี้ยมา แต่อย่างไรก็ตามมีแพลทฟอร์มการปล่อยกู้ที่หลอกลวงมากมายอยู่เช่นกันคุณจึงควรตรวจสอบให้ดีไม่อย่างนั้นเงินของคุณอาจจะกลายเป็นเงินค่าท่องเทียวของใครบางคน
10. การพนัน
ในบางครั้งคุณอาจจะอยากใช้การพนันในการเพิ่มผลกำไรของคุณ ซึ่งคุณสามารถไปยัง Bitcoin casino(บิทคอยน์ คาสิโน) และทอยลูกเต๋าได้ โดนตอนนี้มีคาสิโนออนไลน์ที่คุณสามารถเดิมพันด้วย Bitcoin (บิทคอยน์)ได้ ซึ่งถ้าคุณโชคดีคุณอาจจะสามารถทำเงินได้อย่างง่ายๆ แต่ถ้าโชคร้ายคุณอาจจะหมดตัวก็เป็นได้ และนี้เป็นสิ่งสุดท้ายที่เราจะกล่าวถึง
ข้อควรระวัง: บทความนี้เป็นการให้ความรู้ทั่วไปไม่ใช่การแนะนำการลงทุน การลงทุนนั้นมีความเสี่ยงซึ่งคุณควรทำการศึกษาความเสี่ยงด้วยตัวเองหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนที่จะทำการลงทุน
More from การค้าขาย
วิธีการแก้ไขอาการกลัวตกรถ (FOMO)
วิธีการแก้ไขอาการกลัวตกรถ (FOMO) ในโลกของคริปโตจะมีปรากฎการณ์ที่ราคาเหรียญถูกเก็งกำไรขึ้นไปอย่างรวดเร็วจนทำให้นักเทรดบางกลุ่มเกิดอาการกลัวที่จะตกรถหรือ FOMO (Fear Of Missing Out) เข้าไปรีบซื้อตามจนทำให้เกิดความเสียหาย มาดูกันว่าจะมีวิธีการแก้ไขอาการกลัวตกรถได้อย่างไร ทำการบ้านก่อนล่วงหน้า การที่จะห้ามตัวเองไม่ให้รีบเข้าไปเก็งกำไรในเหรียญที่มีการพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วคือการทำการบ้านในการคัดเลือกเหรียญที่จะลงทุนก่อน เพราะถ้าหากไม่มีการทำการบ้านหรือคัดเลือกเหรียญใน Waiting List จะทำให้นักเทรดไม่มีสมาธิจดจ่ออยุ่กับแนวทางการเทรดของตัวเอง แต่จะไปเน้นเทรดตามเหรียญที่เก็งกำไรแต่ละวันมากกว่าซึ่งเป็นแนวทางที่ไม่ทำให้เกิดผลการเทรดที่ดี หลักการทำการบ้านหรือคัดเลือกเหรียญที่จะเทรดควรจะคัดเลือกด้วยปัจจัยพื้นฐานเป็นปัจจัยแรกเพื่อที่จะได้เหรียญที่มีแรงซื้อเข้ามาด้วยการมี Use Case จริงมากกว่าการปั่นราคาเพียงชั่วคราว จากนั้นก็วิเคราะห์แนวโน้มทางเทคนิค มองหาจุดซื้อ จุดขายและจุดตัดขาดทุนไว้ล่วงหน้า …
บทความเดียวครบ! ประเภทและประโยชน์ของกระดานเทรดคริปโตในไทย
กระดานเทรดคริปโต หรือแพลตฟอร์มสำหรับบริการซื้อขายเหรียญคริปโตหรือสินทรัพย์ดิจิทัลหรือที่เรียกว่า digital asset trading platform โดยกระดานนี้จะทำหน้าที่เป็นสื่อกลางให้ผู้ใช้งานสามารถ ซื้อ ขาย แลกเปลี่ยนเหรียญคริปโต โดยหนึ่งในบริการหลักที่น่าสนใจ คือ ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Exchange) และนายหน้าซื้อขาย (Broker) ซึ่งจะเป็นตัวแทนกลางผู้คอยอำนวยความสะดวกให้การทำการซื้อขายเป็นไปอย่างราบรื่น ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลของประเทศไทยก็เติบโตมาอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีมานี้ โดยรายงานจาก Statista ได้ระบุว่าจนถึงเดือนมิถุนายน …
Bitazza แพลตฟอร์มนายหน้าเทรดคริปโตที่ให้คุณมากกว่าแค่การซื้อขายเหรียญ
Cryptocurrency ที่คนไทยส่วนใหญ่เรียกกันสั้นๆ ว่าคริปโตนั้น แท้จริงแล้วเป็นสกุลเงินดิจิทัลหรือสกุลเงินเสมือนประเภทหนึ่งที่ต้องอาศัยการเข้ารหัสเพื่อความปลอดภัย สร้างขึ้นบนเทคโนโลยีบล็อกเชนที่ถูกออกแบบมาเป็นเทคโนโลยีแบบกระจายศูนย์ไม่ขึ้นกับส่วนกลาง หรือที่เรียกว่า decentralized technology จนถึงตอนนี้ คุณอาจรู้แล้วว่าในปัจจุบัน คริปโตมีแนวโน้มการใช้งานโดยผู้คนทั่วไปเพิ่มขึ้นแบบต่อเนื่อง โดยเมื่อพิจารณาจากข้อมูลของ Statista ที่คาดการณ์ไว้ว่าตลาดสกุลเงินดิจิทัลของไทยจะมีมูลค่าสูงถึง 256.4 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 8.9 พันล้านบาท ภายในปี …