โดย คุณอาท กวิน พงษ์พันธ์เดชา CEO ของบิทาซ่า แบ่งปันหลักจัดการความคิดนี้ไว้ใน AMA Session ถามอะไรก็ได้กับบิทาซซ่า ตอน “โทเคน BTZ และ ทีมบิทาซซ่า” สามารถดูคลิปเต็มได้ที่นี่ https://youtu.be/42AuG20k2CY
เชื่อว่านักลงทุนส่วนใหญ่ เมื่อพูดถึงการลงทุนในคริปโต นอกจากเหรียญไหนน่าซื้อแล้วก็จะเจาะเทคนิคทำเงิน เพราะแน่นอนทุกคนอยากทำกำไรในระยะเวลาที่สั้นที่สุด
เราจึงอยากชวนคุณเปิดใจ สร้างรากฐานการลงทุนให้มั่นคงด้วยการศึกษาโครงสร้างพื้นฐานของสินทรัพย์ดิจิทัลให้แข็งแรง
เมื่อคุณเข้าใจที่มาที่ไปแล้ว คุณจะเริ่มมองเห็นวงจรของตลาดช่วงที่ตลาดขึ้นคุณสามารถแบ่งขายเพื่อทำกำไรได้ และในช่วงตลาดลงก็สามารถแบ่งซื้อเพื่อเกงกำไรได้สุดท้ายจึงค่อยปรับใช้เทคนิก เครื่องมือ หรือตัวเลขสถิติย้อนหลังมาร่วมวิเคราะห์เพื่อหาจุดลงทุน
1. เชื่อในโครงสร้างพื้นฐานของสินทรัพย์ดิจิทัล | ความถี่ในการลงทุน: น้อย
คริปโทเคอร์เรนซีทุกชนิดสร้างขึ้นบนเทคโนโลยีบล็อกเชนด้วยกลไกที่ไม่พึ่งพาบุคคลหรือหน่วยงานใดในการทำงาน แต่ใช้คณิตศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นตัวกลาง จึงโปร่งใสตรวจสอบได้และเข้าถึงได้อย่างทั่วถึง อีกทั้งสัญญาอัจฉริยะ (Smart contract) ที่สามารถเขียนกฏขึ้นมาถือร่วมกันได้โดยมีผลบังคับใช้ที่เป็นกลางและแน่นอน
ข้อเท็จจริงเหล่านี้ไม่สามารถเปลี่ยนได้ง่ายๆ หากคุณเชื่อมั่นในเทคโนโลยีว่านี่อาจจะเป็นธุรกรรมแห่งอนาคต คุณก็สามารถวางใจลงทุนระยะยาวได้ โดยไม่ต้องกังวลกับความผันผวนของตลาดที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว
2. เข้าใจสภาพแวดล้อมการลงทุน | ความถี่ในการลงทุน: ปานกลาง
สถานการณ์รอบโลกและเศรษฐกิจปัจจุบัน มีผลต่อตลาดคริปโตเสมอ เช่น โควิดระบาดทั่วโลก รัฐจำเป็นจะต้องหาเงินทุนเพื่อสนับสนุนการดำรงชีวิตคนแต่ละประเทศ วิธีหนึ่งที่รัฐทำคือ QE หรือการพิมพ์ธนบัตร จึงมีเงินที่พิมพ์เข้ามาในระบบมากเป็นประวัติการณ์
ซึ่งเงินต้องไหลไปยังที่ใดที่หนึ่ง เช่น ตลาดทองคำ ตลาดหุ้น ตลาดคริปโทเคอร์เรนซี และ Bitcoin สกุลเงินดิจิทัลตัวแรกของโลกก็ได้รับผลกระทบโดยตรง คุณจึงเห็นราคาวิ่งขึ้นในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ตามมาด้วย Ethereum บล็อกเชน เลเยอร์ 1 ที่เปิดให้สร้างผลิตภัณฑ์การเงินมากมาย จึงเกิดพัฒนาการของการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) เช่น Compound, AAVE, UNISwap, MakerDAO โดยปัจจุบันมีผู้ท้าชิงตำแหน่งเลเยอร์ 1 อีกมากมาย เช่น Cardano, Solana
รวมถึงการพัฒนาการใช้งานรูปแบบอื่นๆนอกจากธุรกรรมการเงิน อย่างเกมออนไลน์ GameFi เช่น Axie Infinity (AXS และ SLP), The Sandbox (Sand) และ Star Atlas บน Solana
3. ปรับใช้เทคนิคการเทรด | ความถี่ในการลงทุน: มาก
หยิบจับข้อมูลต่างๆมาวิเคราะห์เพื่อดูแนวโน้มในอนาคตโดยอาศัยความเข้าใจในการวิเคราะห์เชิงเทคนิคและผสมผสานหลักจิตวิทยาเข้าด้วยกัน เช่น เมื่อราคาคริปโตขึ้นสูงจนถึงระดับนึงแล้ว เป็นปกติที่เราจะขายเพื่อเก็งกำไรบ้าง โดยนำข้อมูลจากการอ่านบล็อกเชน เห็นเส้นทางของสินทรัพย์แล้วนำมาวิเคราะห์ หรือดูกราฟ ข้อมูลราคาย้อนหลัง บวกกับการใช้เครื่องมือการตีเส้นและอินดิเคเตอร์ต่างๆเพื่อหาจุดเข้าซื้อหรือขายออกทำกำไร
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาโครงสร้างของคริปโต ดูสถานการณ์ตลาด หรือการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ ไม่มีสิ่งใดสามารถชี้ชัดอนาคตของการลงทุนได้ ผู้ลงทุนจึงควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดและใช้วิจารณญาณในการลงทุนทุกครั้ง
เนื้อหาที่อยู่ในคลังความรู้ของบิทาซซ่ามีไว้ให้ข้อมูลเท่านั้น มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งเว็บไซต์และเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน
You might also like
More from บิทาซซ่าบล็อกส์
ประกาศแปลงโทเคน SingularityNET (AGIX) เป็น Fetch.ai (FET) จะเกิดขึ้นในวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 เวลา 10:00 น.
เรียน ชาวบิทาซซ่า บิทาซซ่าขอแจ้งกำหนดการในการแปลงโทเคนจาก SingularityNET (AGIX) เป็น Fetch.ai (FET) โดยการแปลงโทเคนจะมีผลในวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 เวลา 10:00 น. ซึ่งรวมถึงการเทรด การฝาก และถอนโทเคน SingularityNET (AGIX) จะถูกระงับตั้งแต่วันที่ …
พบกับฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด ภารกิจจาก Bitazza Thailand!
ขอแนะนำภารกิจใหม่จาก Bitazza Thailand! ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเทรดมืออาชีพหรือเพิ่งเริ่มต้น ก็ร่วมทำภารกิจเพื่อรับ Freedom Shards (FDS) และ XP ได้ทุกคน ซึ่งจะนำพาชาวบิทาซซ่าให้เข้าใกล้ขุมสมบัติรีวอร์ดที่มีให้แลกมากมาย ภารกิจต้อนรับผู้ใช้งานใหม่ เริ่มต้นภารกิจของคุณด้วย Welcome Missions! ภารกิจเหล่านี้จะนำทางไปสู่การรับรางวัล ตั้งแต่เริ่มทำภารกิจ จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย 1. ทำรายการฝากครั้งแรก ทำรายการฝากครั้งแรกกับเรา มีขั้นตอนดังนี้ ขั้นตอนที่ …
แอปเทรดคริปโตที่ดีต้องมีอะไรบ้าง ที่นี่มีคำตอบให้นักเทรดทุกคน
ช่วงนี้กระแสการซื้อขายคริปโตในไทยกำลังกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง เห็นได้ชัดจากรายงานของ Statista ที่ระบุไว้เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2567 ว่ามีนักเทรดหน้าใหม่เข้ามาเปิดบัญชีราว 120,000 บัญชี เพื่อใช้สำหรับการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลต่างๆ ที่มีหลายเหรียญกลับมามีความต้องการเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณการกลับตัวที่ดีหลังจากภาพรวมตลาดคริปโตทั้งโลกรวมถึงในไทย ด้วยความนิยมที่เพิ่มขึ้นของการเทรดคริปโต รวมถึงการที่กระทรวงการคลังได้ประกาศยกเว้น VAT ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อเตรียมดันประเทศไทยสู่การเป็น Digital Asset Hub …
