เปรียบเทียบบิตคอยน์ (BITCOIN) และเหรียญทางเลือก (ALTERNATIVE TOKENS)
ดูเผินๆ โลกแห่งสินทรัพย์ดิจิทัลอาจเป็นโลกที่เข้าถึงยาก เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยศัพท์เทคนิคมากมายหลากหลายรูปแบบ ฟังดูยากต่อการทำความเข้าใจ ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีศัพท์เทคนิคใหม่ๆผุดขึ้นมาอยู่ตลอดเวลาราวกับดอกเห็ด ทำให้ผู้ใช้ต้องเรียนรู้กันอยู่ตลอดเวลา
ดังนั้น เมื่อนักลงทุนและผู้ซื้อขายสินทรัพย์เริ่มพูดถึง แดช (Dash) โมเนโร (Monero) หรือคาวา (Kava) ผู้ที่ยังใหม่กับโลกแห่งสินทรัพย์ดิจิทัลได้ยินแล้วอาจจะเกิดอาการสงสัย ว่านักลงทุนเหล่านี้พูดถึงอะไร โดยเฉพาะในกรณีที่คนส่วนมากมีความเชื่อว่า บิตคอยน์ (BITCOIN) มีความหมายเทียบเท่ากับคำว่าสกุลเงินดิจิทัล ในวันนี้ เราจะมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างคอยน์และโทเคน เพื่อช่วยให้คุณมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโลกแห่งสินทรัพย์ดิจิทัลมากยิ่งขึ้น
อะไรเป็นอะไร?
คอยน์และโทเคนนับเป็นรูปแบบของสกุลเงินดิจิทัล ในทางปฏิบัติ ทั้งสองอย่างมีความแตกต่างกันเล็กน้อย ถ้าจะให้พูดง่ายๆ ก็คือ คอยน์ต่างๆ อาทิ บิตคอยน์ ไลท์คอยน์ และอีเธอเรียม นับเป็นบล็อกเชนที่แยกออกจากกัน โดยมูลค่าของคอยน์แต่ละอันขึ้นอยู่กับความกระตือรือร้นที่ตลาดและผู้คนมีต่อคอยน์นั้นๆ
ในทางตรงกันข้าม โทเคนถูกสร้างขึ้นบนบล็อกเชนหรือแพลตฟอร์มที่มีอยู่ก่อนแล้ว อาทิ อมนิ อีเธอเรียม และทรอน โดยมูลค่าของโทเคนมาจากจุดมุ่งหมายของการใช้สอยโทเคนนั้นๆ
ยกตัวอย่าง บิตคอยน์นับเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ต้องผ่านการเข้ารหัสเพื่อการนำไปซื้อขายสินค้าและบริการต่างๆ ในทางตรงกันข้าม โทเคนนับเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่สามารถนำไปแลกเปลี่ยนได้ทันที ปัจจุบันมีสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมด 4201 สกุล (รวมทั้งคอยน์และโทเคน) ที่ได้รับการรวบรวมโดย CoinMarketCap
อย่างไรก็ตาม สกุลเงินดิจิทัลไม่ได้เป็นส่วนประกอบอันน่าสนใจของเทคโนโลยีบล็อกเชนเพียงอย่างเดียว สมาร์ท คอนแทรค (Smart Contract) ก็เป็นอีกองค์ประกอบที่น่าจับตามอง เพราะสมาร์ท คอนแทรคช่วยพัฒนาการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลขึ้นไปอีกขั้น โดยทำหน้าที่สเมือนสัญญาบนบล็อกเชนที่มาพร้อมกับข้อตกลงที่ได้รับการอนุมัติโดยอัตโนมัติเมื่อการซื้อขายแลกเปลี่ยนเป็นไปตามข้อตกลงนั้นๆ
ลักษณะการทำงานแบบอัติโนมัติของสมาร์ท คอนแทรค ช่วยให้ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียแต่ละฝ่ายสามารถดำเนินการในส่วนของตนเองได้จนสำเร็จลุล่วงโดยไม่ต้องใช้คนกลางหรือบุคคลที่สาม ยิ่งไปกว่านั้น ระบบการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงของบล็อกเชนยังช่วยเพิ่มระดับความปลอดภัยให้แก่สมาร์ท คอนแทรค ทำให้การซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นไปได้อย่างปลอดภัย ถูกต้อง และโปร่งใส
แล้วคุณจะลงทุนกับสกุลเงินดิจิทัลตัวไหนดีล่ะ?
ความแตกต่างในความคล้ายคลึง
ถ้าจะให้พูดตามตรง ไม่มีสกุลเงินไหนที่ตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการ สิ่งที่สำคัญคือการเลือกสกุลเงินที่จะทำหน้าที่ได้ในแบบที่คุณต้องการต่างหาก ผู้คนจำนวนมากเลือกที่จะลงทุนกับบิตคอยน์ อาทิ เหล่า Bitcoin maximalist หรือผู้ที่สนับสนุนและเชื่อมั่นในบิตคอยน์เพียงอย่างเดียว
คนกลุ่มนี้มีความเชื่อมั่นในบิตคอยน์ เนื่องจากพวกเขาเชื่อว่าบิตคอยน์เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียว นอกจากนี้ยังมีกลุ่มคนที่มุ่งมั่นเก็บโทเคนเป็นหลักเพราะต้องการจะก้าวข้ามสกุลเงินดิจิทัลขึ้นไปอีกขั้น
สุดท้ายนี้ ความเสี่ยงในการลงทุนเป็นสิ่งที่มาพร้อมกับการลงทุนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลหรือการลงทุนปกติ ลองดูสถานการณ์บิตคอยน์ในปีนี้เป็นตัวอย่าง
มีขึ้นก็ต้องมีลง
ในปีนี้ เราเห็นมูลค่าของบิตคอยน์สูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาตั้งแต่ยุคทองของบิตคอยน์ในปี 2017 ในเดือนมิถุนายนปี 2019 มูลค่าของบิตคอยน์พุ่งสูงถึง $10,000 ต่อคอยน์ นับเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับมูลค่าเพียง $5000 ต่อคอยน์ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน มูลค่าของบิตคอยน์กลับลดลงเป็น $8,000 ต่อคอยน์ นับเป็นเป็นการลดลงมากถึง 31% เมื่อเทียบกันกับการคาดการณ์ผลตอบแทนจากการลงทุนที่พุ่งสูงถึงเกือบ $13,000 ต่อคอยน์
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด
ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโลกแห่งสินทรัพย์ดิจิทัล การทำงานและมูลค่าของบิทคอยน์และโทเคน นับพื้นฐานเพื่อการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างชาญฉลาด (คุณสามารถเข้ามาหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโลกแห่งสินทรัพย์ดิจิทัลได้ที่ คลังข้อมูล ของเรา) ทั้งหมดนี้นับเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถเดินหน้าลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างชาญฉลาดยิ่งขึ้น
Disclaimer: เนื้อหาข้างต้นมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเพียงเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำเพื่อการลงทุน
You might also like
More from การค้าขาย
วิธีการแก้ไขอาการกลัวตกรถ (FOMO)
วิธีการแก้ไขอาการกลัวตกรถ (FOMO) ในโลกของคริปโตจะมีปรากฎการณ์ที่ราคาเหรียญถูกเก็งกำไรขึ้นไปอย่างรวดเร็วจนทำให้นักเทรดบางกลุ่มเกิดอาการกลัวที่จะตกรถหรือ FOMO (Fear Of Missing Out) เข้าไปรีบซื้อตามจนทำให้เกิดความเสียหาย มาดูกันว่าจะมีวิธีการแก้ไขอาการกลัวตกรถได้อย่างไร ทำการบ้านก่อนล่วงหน้า การที่จะห้ามตัวเองไม่ให้รีบเข้าไปเก็งกำไรในเหรียญที่มีการพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วคือการทำการบ้านในการคัดเลือกเหรียญที่จะลงทุนก่อน เพราะถ้าหากไม่มีการทำการบ้านหรือคัดเลือกเหรียญใน Waiting List จะทำให้นักเทรดไม่มีสมาธิจดจ่ออยุ่กับแนวทางการเทรดของตัวเอง แต่จะไปเน้นเทรดตามเหรียญที่เก็งกำไรแต่ละวันมากกว่าซึ่งเป็นแนวทางที่ไม่ทำให้เกิดผลการเทรดที่ดี หลักการทำการบ้านหรือคัดเลือกเหรียญที่จะเทรดควรจะคัดเลือกด้วยปัจจัยพื้นฐานเป็นปัจจัยแรกเพื่อที่จะได้เหรียญที่มีแรงซื้อเข้ามาด้วยการมี Use Case จริงมากกว่าการปั่นราคาเพียงชั่วคราว จากนั้นก็วิเคราะห์แนวโน้มทางเทคนิค มองหาจุดซื้อ จุดขายและจุดตัดขาดทุนไว้ล่วงหน้า …
Bitazza แพลตฟอร์มนายหน้าเทรดคริปโตที่ให้คุณมากกว่าแค่การซื้อขายเหรียญ
Cryptocurrency ที่คนไทยส่วนใหญ่เรียกกันสั้นๆ ว่าคริปโตนั้น แท้จริงแล้วเป็นสกุลเงินดิจิทัลหรือสกุลเงินเสมือนประเภทหนึ่งที่ต้องอาศัยการเข้ารหัสเพื่อความปลอดภัย สร้างขึ้นบนเทคโนโลยีบล็อกเชนที่ถูกออกแบบมาเป็นเทคโนโลยีแบบกระจายศูนย์ไม่ขึ้นกับส่วนกลาง หรือที่เรียกว่า decentralized technology จนถึงตอนนี้ คุณอาจรู้แล้วว่าในปัจจุบัน คริปโตมีแนวโน้มการใช้งานโดยผู้คนทั่วไปเพิ่มขึ้นแบบต่อเนื่อง โดยเมื่อพิจารณาจากข้อมูลของ Statista ที่คาดการณ์ไว้ว่าตลาดสกุลเงินดิจิทัลของไทยจะมีมูลค่าสูงถึง 256.4 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 8.9 พันล้านบาท ภายในปี …
รู้จัก Copy Trade กลยุทธ์ตัวช่วยนักเทรดแบบง่ายๆ ก้อปปี้ตามได้!
รู้จัก Copy Trade กลยุทธ์ตัวช่วยนักเทรดแบบง่ายๆ ก้อปปี้ตามได้! ธรรมชาติของการลงทุนโดยเฉพาะในโลกของคริปโตที่มีความเสี่ยงสูง นักเทรดส่วนน้อยเท่านั้นที่จะสามารถอยู่รอดและประสบความสำเร็จ ผู้ที่ยังไม่มีประสบการณ์มากพออาจจำเป็นต้องมีเครื่องมือที่จะช่วยให้ประสบความสำเร็จในการเทรดหรือเรียนรู้จากผู้มีประสบการณ์ Copy Trade คือฟีเจอร์หนึ่งที่จะเปิดทางให้นักเทรดทั่วไปซึ่งยังไม่มีประสบการณ์หรือความมั่นใจในการลงสนามมีโอกาสได้ติดตามนักเทรดที่มีความสามารถ โดยหลักการทำงานของ Copy Trade คือผู้ใช้งานสามารถเลือกที่จะกดติดตามนักเทรดที่เป็นผู้นำ โดยตัดสินใจจากผลงานที่ทำได้หรือมีกลยุทธ์การเทรดที่ตรงกับสไตล์ส่วนตัว Copy Trade จึงเป็นตัวช่วยสำหรับนักเทรดที่ยังไม่มีประสบการณ์สามารถสร้างผลตอบแทนจากการเทรดได้และอาจจะใช้การติดตามผู้นำเป็นการเรียนรู้การเทรดไปในตัวด้วย เมื่อมีประสบการณ์ที่มากพอ อนาคตจากเดิมที่เป็นผู้ติดตามก็สามารถที่จะพัฒนาตัวเองเป็นผู้นำเทรดได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามแม้จะได้ชื่อว่าเป็นนักเทรดมืออาชีพแต่ไม่สามารถที่จะการันตีได้ว่าจะไม่เกิดผลขาดทุน ก่อนจะใช้งาน Copy …