สรุปประเด็น Special Live AMA | Bitazza Invites: Klaytn

สรุปประเด็นเป็นภาษาไทยจาก คุณอาท กวิน​ พงษ์​พันธ์​เดชา​ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ คุณดีดี้ วิมลพรรณ วิบูลย์มา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการสื่อสารของบิทาซซ่า ที่พูดคุยถามตอบทุกสิ่งที่คุณอยากรู้กับคุณ เดวิด ชิน หัวหน้าฝ่ายการยอมรับระดับสากลของ Klaytn จากเกาหลีใต้

ทำความรู้จักกับ Klaytn

คุณ เดวิด ชิน หัวหน้าฝ่ายการยอมรับระดับสากลจาก Klaytn กล่าวว่า Klaytn เป็นเครือข่ายบล็อกเชนที่พัฒนาโดย Kakao หนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเกาหลีโดยเป็นบริษัทที่เติบโตอย่างรวดเร็วและผันตัวออกมาเป็น SuperApp อีกทั้งยังเคยช่วยพัฒนา WeChat ในช่วงแรกของการก่อตั้ง

Klaytn ทำอะไรบ้าง?

ณ ปัจจุบัน Klaytn ทำบล็อกเชนและมุ่งความสนใจไปยัง Metaverse โลกเสมือน แต่ในช่วงปี 2019-2021 มี Klaytn 1.0 ซึ่งทำแพลตฟอร์มต่างๆ เกี่ยวกับ DeFi มาก่อนโดยมี TVL ในระบบกว่า 2 พันล้านเหรียญ
ซึ่งหลังจากที่คุณเดวิดคาดการณ์ว่าในอนาคต Metaverse เป็นหนึ่งในสิ่งที่น่าจับตามองจากโปรเจกต์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็น GameFi, P2E และ NFT อีกทั้งตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 เกิดขึ้นคนสามารถเจอกันได้น้อยลงยกตัวอย่างเช่นการจัดงานคอนเสิร์ต คนไม่สามารถไปคอนเสิร์ตได้แต่ถ้าหากเราสามารถเปลี่ยนให้กลายเป็นคอนเสิร์ตโลกเหมือนให้คนมีประสบการณ์เข้ามาใช้บริการทั้งออฟไลน์และออนไลน์โดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนและออกตั๋วเป็น NFT เข้าไปดูคอนเสิร์ตได้ รวมไปถึงการปรับใชกับบริษัทเอกชนและรัฐวิสาหกิจ เรื่องการเลือกตั้ง โดยใช้ NFT ออกเป็นตั๋วเพื่อให้สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีความโปร่งใสใน Metaverse เป็นเมืองกรณีศึกษา และทำให้คนมีเห็นว่าใช้ได้จริงเพื่อสร้างความเชื่อมั่นของคนในเทคโนโลยีมากขึ้น จึงเป็นที่มาของ Klaytn ว่าทำไมถึงเปลี่ยนมาทำเกี่ยวกับ Metaverse อีกทั้งยังมีการทำเกี่ยวกับ Game, Dapps, บริการ DeFi ที่อยู่บนเครือข่ายต่างๆ มี ตลาดสำหรับ NFT เป็นระดับ Enterprise Level พร้อมให้บริการองค์กรระดับสูง

พันธมิตรทางธุรกิจของ Klaytn?

SM entertainment, Netmarble, WeMade, เกมสตูดิโออื่นๆ รวมถึงบริษัททำเกมชื่อดังของอินเดียที่ใช้ Klaytn อีกทั้งยังเป็นพันธมิตรกับระดับภูมิภาคอย่างเครือบริษัท Salim group จากอินโดนีเซีย และ GMO Internet จากญี่ปุ่นรวมถึงตั้งใจขยายมาฝั่ง South East Asia และมาลิสต์ที่บิทาซซ่า

โปรเจกต์ที่จะเกิดขึ้นกับ Klaytn มีความน่าสนใจอย่างไรในการติดตาม

คุณเดวิดมองว่า GameFi หรือ P2E ในประเทศที่กำลังพัฒนามีศักยภาพที่จะเติบโตต่อ ยกตัวอย่างเช่น Axie Infinity ในฟิลิปปินส์ที่โด่งดังเลยมีความคิดที่อยากจะทำเกมให้น่าเล่นขึ้นทำเป็นเกรด AAA โดยการเอาเกมที่ดีอยู่แล้วมาใส่ในบล็อกเชนเพื่อต่อยอด ซึ่งการเริ่มสร้างเกมจากศูนย์อาจจะไม่มีมูลค่าเพราะต้องไปสร้างคอมมูนิตี้เพิ่มในการทำเกมให้ดี แต่ถ้าเป็นเกมที่มีฐานอยู่แล้ว และนำบล็อกเชนมาต่อยอดจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้มาก เปรียบเป็นหลักทรัพย์เสมือน หรือ Synthetic Equities ที่ให้คนมีความเป็นเจ้าของในสินทรัพย์ต่างๆ ในเกมได้ และการสร้าง Metaverse ได้ไปทำงานร่วมกับบริษัทเกมที่อยุ่ในเว็บ2.0 เก่าๆ ตั้งใจให้บริษัทมาใช้เทคโนโลยีตัวนี้ และ Klaytn เป็น 1 ใน 3 บล็อกเชน ที่ถูกติดตั้งเข้ากับ OpenSea และจะมีงาน Expo ร่วมกันในอนาคตที่ตั้งใจจะทำให้ใหญ่ที่สุดใน Asia

อะไรทำให้โปรเจกต์ Klaytn มีมูลค่าอย่างยั่งยืน?

คุณเดวิดกล่าวว่า การทำโปรเจกต์ให้ยั่งยืนและเกิดมูลค่าจริงๆ เป็นเรื่องที่สำคัญจึงอยากร่วมงานกับคนที่สามารถไปสร้างคุณค่าและใช้งานได้จริง เลยเปลี่ยนจากการทำ DeFi เป็นไปสร้าง Creator Market บน Metaverse ทำให้บริษัทเทคโนโลยีดั้งเดิมต่างๆในเว็บ2.0 เข้ามาติดต่อเพื่อจะสร้างอะไรบางอย่าง มีเรื่อง disruption การเปลี่ยนจากเว็บ2.0 สู่ 3.0 เปลี่ยนจากโลกเก่าไปใหม่แทนที่จะสร้างผลิตภัณฑ์ที่จะเป็นเก็งกำไร อยากทำให้เป็นกรณีศึกษาที่ใช้ได้จริง

เทคโนโลยีเว็บ1.0, 2.0 และ 3.0 คืออะไร

เว็บ1.0 Read only internet เว็บที่สามารถใช้หาข้อมูลอย่างเดียวอ่านได้อย่างเดียว
เว็บ2.0 Interactive Web เป็นเว็บที่สามารถใช้บริการ อ่าน ปรับข้อมูลให้ตรงกับที่เราอยากเห็น มีการใช้อัลกอริทึม (Algorithm) และ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาเกี่ยวข้อง สามารถพูดคุยกับเพื่อนได้ แต่มีบริษัทยักษ์ใหญ่เป็นเจ้าของข้อมูล และเอาข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในโฆษณา ยกตัวอย่างเช่น Facebook, Amazon, Netflix
เว็บ3.0 Interactive Web + Ownership ผู้ใช้งานเป็นเจ้าของข้อมูลของตัวเองและเป็นเจ้าของสินทรัพย์ ข้อมูลที่อยู่บนโลกนั้นด้วย ไม่ใช่บริษัทยักษ์ใหญ่ที่เป็นเจ้าของ

ทำไม Klaytn ถึงกล้าเปลี่ยนแปลงตัวเอง?

Kakao รู้จักเว็บ2.0 และ Super apps เป็นอย่างดี รู้ทุกรายละเอียด พบทั้งจุดดีและจุดอ่อนของตัวเองไม่ต้องรอให้ผู้เล่นบนเว็บ3.0 มาพบจุดอ่อนเพื่อเปลี่ยนแปลงแทน Klaytn เลยสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองก่อนได้โดยเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส ชวนคนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงมาเป็นพันธมิตรและเติบโตไปด้วยกัน

Klaytn มีความแตกต่างจากเครือข่ายอื่นอย่างไร?

เป็นการสร้างระบบนิเวศใหม่และมีการสนับสนุนจากทีมงาน ดึงคนเก่งๆ เข้ามาช่วยพัฒนาให้สเกลใหญ่ขึ้น มีกองทุนกว่า 1 พันล้านเหรียญเพื่อสนับสนุนนักพัฒนาบนระบบ มีการสร้าง Trend ใหม่อย่าง Move to Earn เช่นโปรเจกต์ที่น่าติดตามของ Sneakers เป็นวิธีการสร้างรายได้ใหม่ๆ เกิดขึ้น
อีกทั้ง Klaytn เป็น Ethereum Virtual Machine (EVM) มาจาก Ethereum นำโค้ดมาดัดแปลง เปลี่ยนอัลกอริทึมหลังบ้านจำกัดจำนวนคนให้ Centralized มากขึ้น เพื่อให้บล็อกเชนเร็วขึ้นรวมถึงต้องคัดสรรโปรเจกต์ดีๆ มาช่วงและสร้างสรรค์แต่สิ่งที่มีมูลค่าจริงๆ เพราะคนที่ใช้มัน อาจจะใช้มันในมูลค่ามากกว่าการที่จะใช้เพื่อการเก็งกำไรอย่างเดียว ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณเดวิดเน้นย้ำ

เกมประเภทใดบ้างที่กำลังถูกสร้างบน Klaytn ที่จะสามารถดึงดูดผู้ใช้งานได้ หรือในขณะเดียวกันสร้างฐานผู้เล่นเกมและในอนาคตการเติบโตของเว็บ3และMetaverseจะส่งผลกระทบต่อชีวิตการทำงานอย่างไร?

คุณเดวิดสนใจเรื่อง UGC (User Generated Content) เกมที่ผู้สร้างได้สร้างเกมเอง เป็นโลกเปิด มีอิสรภาพในการทำ สร้างของขึ้นมาในโลก มีตัวตน และสามารถเอาไปขายต่อในโลกนั้นๆ แบบ Open World โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ที่กำลังสร้างตัวในการสะสมความมั่งคั่งในรูปแบบใหม่ ลงทุนในโลกใหม่ที่ถูกจริตมากกว่า ปรับตัวให้เข้ากับคนรุ่นใหม่ ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนและ NFT เข้ามาช่วย และที่ขาดไม่ได้เลย การควบคุมดูแลปกครองทรัพย์สิน รวมถึงสนับสนุนการใช้ DAO กำกับดูแลและมาใช้ใน โลกของ Klaytn สร้างกฏเกณฑ์ยังไงในรูปแบบองค์กรไร้คนกลาง และจะทำอย่างไรให้คนที่ไม่รู้จักกันมาอยู่ร่วมกันสามารถตัดสินใจไปในทิศทางเดียวกันได้

ประเทศเกาหลีมีโครงสร้างพื้นฐาน Soft Power ที่แข็งแกร่งและส่งออกวัฒนธรรม ออกมาในรูปแบบที่คนสนุกไปกับมันได้ ไม่ว่าจะเป็น เพลง หนัง หรืออาหาร แล้ว Klaytn มีกลยุทธ์อะไรในการใช้จุดแข็งตรงนี้ให้เป็นประโยชน์ในการสร้างเนื้อหาผ่านบล็อกเชนไปในที่ต่างๆ?

คุณเดวิดกล่าวว่า จริงๆ แล้วมีพันธมิตรหลายคนที่อยากสร้าง NFT แต่ไม่อยากให้สร้างขึ้นมาครั้งเดียวละทิ้งไป จึงต้องการสร้างในรูปแบบของเนื้อหาที่เคลื่อนไหวให้มีคุณค่ามากกว่าการที่จะถืออย่างเดียว เช่น การเอาโทเคนไปเข้าคอนเสิร์ต เข้าคอมมูนิตี้ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตัวเนื้อหา และ Soft Power มาต่อยอด
รวมถึงฝั่ง Asia เรามี Creator สร้าง Art เยอะ จะไปจับมือกับอีกหลายเจ้าเพื่อสร้างโปรเจกต์ใหม่ๆ เช่น โปรเจกต์คอนเสิร์ตในโลกเสมือน

อะไรที่ทำให้คุณเดวิดอยากตื่นขึ้นมาทำงานในทุกๆวัน?

คุณเดวิดกล่าวว่า อยากเห็นการนำทฤษฎีการกระจายศูนย์ไปต่อยอดในชีวิตจริง การกระจายศูนย์​เอาไปต่อยอดกับโลกนี้อย่างไรได้อีกบ้าง นอกจากเรื่องการเงิน มนุษยชาติ เริ่มรู้สึกว่าเสียความเชื่อมั่นจากการปกครอง
ไม่ใช่แค่ในเอเชียแต่ทั่วโลกผุ้คนมองหาวิธีการอื่นๆในการหาทางดูแลกันเองได้โดยไม่ต้องฝากชีวิตกับรัฐบาลแต่ตัวคนที่เข้ามาเป็นตัวแทนอาจจะมาพร้อมกับความคิดชุดเก่ามาสานต่อในสิ่งที่มีอยุ่แล้ว
แต่ในอนาคตเป็นไปได้ไหมที่ใช้ DAO กับรัฐบาล การปกครอง ประชามติ ฉันทามติ จากในชุมชนต่างๆ ตรวจสอบได้บนบล็อกเชน โปร่งใส่ ตรวจสอบได้ทั้งหมด โดยอนาคตของการปกครอง สามารถขยายจากเมืองเล็กๆ แล้วกลายเป็นฐานไปสู่เมืองใหญ่ๆ และเป็นสิ่งที่คุณเดวิดอยากให้เกิดขึ้นจริง ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นในการทำให้ตื่นขึ้นมาทำงานในทุกๆ เช้า

More from บิทาซซ่าบล็อกส์

---