ชวนชาวบิทาซซ่ามารู้จักกับองค์กรอัตโนมัติแบบกระจายศูนย์ (DAO)
.
A decentralized autonomous organization (DAO) องค์กรอัตโนมัติแบบกระจายศูนย์คืออะไร?
องค์กรอัตโนมัติแบบกระจายศูนย์คือ รูปแบบองค์กรรูปแบบหนึ่งที่มีกลุ่มคนหรือสมาชิกที่มีเป้าหมายร่วมกัน โดยปราศจากรูปแบบการบริหารแบบรวมศูนย์ ซึ่ง DAO นั้นถูกสร้างผ่านสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contracts) บนเทคโนโลยีบล็อกเชนซึ่งได้นำเสนอรูปแบบการกระจายศูนย์และอิสระในสิทธิของตนเอง
.
ทำไมองค์กรอัตโนมัติแบบกระจายศูนย์อาจกลายมาเป็นสิ่งสำคัญในอนาคต?
ในโลกของอินเทอร์เนตนั้น มันยากที่จะเชื่อใจคนที่คุณไม่เคยพบมาก่อนและยังต้องมีการทำกิจกรรมร่วมกันแบบออนไลน์ ด้วยเหตุนี้ DAO ได้เข้ามาเป็นจุดเปลี่ยนของความไม่เชื่อใจระหว่างทั้งสองฝ่ายโดยการสร้างโค้ด DAO ขึ้นมาเพื่อตั้งกฏและข้อตกลงร่วมกันบนบล็อกเชน ซึ่งวิธีนี้จะทำให้เกิดความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้จากทุกคน
3 ขั้นตอนการสร้าง DAO
ก่อนที่จะเจาะลึกการสร้าง DAO เรามาทำความเข้าใจรูปแบบของ “องค์กร” แบบดั้งเดิมก่อน ซึ่งประกอบไปด้วยกลุ่มคนที่มีเป้าหมายเดียวกัน รวมตัวกันเพื่อนทำกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่ง ที่มีการแบ่งลำดับชั้นเช่น ผู้บริหาร ผู้จัดการ ทีมงาน และมีกฏระเบียบหรือสัญญาต่างๆที่เขียนเป็นรายลักษณ์อักษรเพื่อควบคุมคนในองค์กรทั้งหมด
.
ในขณะที่ DAO นั้นไม่มีโครงสร้างทางกายภาพ พวกเขาแทนที่ลำดับชั้นแบบเดิมด้วยสัญญาอัจฉริยะบนบล็อกเชน ด้วยเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ (Decentralized) ทำให้ทุกคนที่อยู่ในเครือข่ายมีโอกาสเข้าถึงข้อมูลได้อย่างเท่าเทียม โดย DAO บางตัวจะมี Native Token เพื่อใช้แทนสิทธิ์ในการออกเสียงโหวตข้อเสนอต่าง ๆ หรือเป็นรางวัลสำหรับผู้มีส่วนร่วมภายในเครือข่าย ซึ่งโทเคนเหล่านี้ก็สามารถนำไปแลกเปลี่ยนเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ผ่านการใช้บริการในระบบนิเวศได้ โดยมีขั้นตอนการสร้าง DAO คร่าวๆ 3 ขั้น
.
การสร้างสัญญาอัจริยะ: สมาชิกในชุมชนจะแสดงการมีส่วนร่วมผ่านกฏเกณฑ์ที่ถูกบันทึกในสัญญาอัจฉริยะบนบล็อกเชน ทำให้มีความชัดเจนอย่างยิ่ง ตรวจสอบได้ เป็นการกระจายอำนาจให้สมาชิกที่มีศักยภาพทุกคนเข้าใจวิธีการทำงานของโปรโตคอล
.
การหาทุนและจัดสรรโทเคน: หลังจากมีการกำหนดกฏเกณฑ์สร้างบนบล็อกเชนแล้ว DAO จะต้องหาเงินทุนจัดสรรโทเคน เช่น การออกเหรียญเพื่อซื้อขาย ซึ่งโปรโตคอลจะแจกจ่ายโทเคนไปยังชุมชนเพื่อเป็นสิทธิในการออกเสียงตามสัดส่วนการถือครอง
.
การใช้งาน: เมื่อกฏเกณฑ์สร้างบนบล็อกเชนแล้วจะไม่สามารถแก้ไขได้อีก ทางเดียวที่จะเปลี่ยนแปลงกฏได้คือการที่ผู้ที่ถือโทเคนจะใช้โทเคนโหวตเพื่อแก้ไข โดยต้องได้ฉันทามติจากชุมชนเท่านั้น
4 ตัวอย่างการใช้งานจริงของ DAO
การระดมทุน
การระดมทุนเป็นหนึ่งในสิ่งที่ DAOs เข้ามามีบทบาทสำคัญสู่โลกแห่งความจริง โดยโปรเจกต์ต่างๆที่เกิดขึ้นต่างก็ต้องการเม็ดเงินในการลงทุน เจ้าของโปรเจกต์จะหาจำนวนของคนที่อยากจะร่วมลงเงิน ซึ่งการใช้โทเคน DAO จะเข้ามามีบทบาทในการกำหนดคุณลักษณะของนักลงทุนในโปรเจกต์นั้นๆว่ามีสิทธิ์ในการออกเสียงและกำหนดทิศทางของโปรเจกต์มากหรือน้อยเพียงใด หากโปรเจกต์ประสบความสำเร็จ ราคาของโทเคนก็จะเพิ่มสูงมากขึ้นและนักลงทุนก็จะได้รับผลตอบแทนอย่างงาม
ในทางเดียวกัน DAO ก็สามารถจะใช้เพื่อระดมทุนสร้างแอปพลิเคชันแบบกระจายอำนาจ (dApps) หรือแม้แต่โปรเจกต์ที่เกี่ยวกับคริปโตได้ด้วย ตัวอย่างคือ MetaCartel Ventures ระดมทุนผ่าน dApps เช่นเดียวกับ Moloch DAO และ LAO ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงในการใช้ DAO เพื่อระดมทุนในการสร้างโปรเจกต์ขึ้นมา
.
แอปพลิเคชันแบบกระจายอำนาจเพื่อโปรเจกต์ (dApp governance)
อีกที่หนึ่งที่ DAO จะเข้าไปมีบทบาทอย่างมากคือการกำหนดทิศทางขององค์กรต่างๆได้ในอนาคต โดยจะใช้การกระจายอำนาจผ่าน แอปพลิเคชันแบบกระจายอำนาจเพื่อโปรเจกต์ หรือ dApp governance
เนื่องจากการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของวงการ DeFi ในระบบต่างๆ นักพัฒนาทั้งหลายจึงอยากที่จะขยายขีดจำกัดของโปรเจกต์ตัวเองให้รองรับผู้ใช้งานและอยู่เหนือมาตรฐานให้ได้มากที่สุด DAOs สามารถทำให้ผู้ใช้งานเชื่อถือในระบบมากกว่าตัวนักพัฒนาได้ โดย DAOs จะผสานร่วมกับ dAPPs ในการให้ผู้ใช้งานสามารถที่จะเสนอทางแก้ไขแบบกระจายศูนย์อำนาจด้วยการโหวตครอบคลุมได้ถึงเรื่องความอิสระในการบริหาร, ความโปร่งใส, ความปลอดภัย หรือสิ่งที่อยากให้คงไว้
นอกจากนี้ยังมีตัวอย่างของการใช้ DAO ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากนั่นก็คือ Curve DAO ที่ใช้ผู้ดูแลสภาพคล่องอัตโนมัติ (AMM) ในการให้รีวอร์ดแก่ผู้ถือโทเคน
.
การลงทุนใน NFT
DAO ถูกใช้ในวงการนักลงทุน NFT ในลักษณะแชร์ความเป็นเจ้าของร่วมกัน ซึ่งส่งผลให้ตลาด NFT ขยายตัวอย่างมากเพราะนักลงทุนไม่จำเป็นต้องใช้สินทรัพย์ที่มากจนเกินไปในการเป็นเจ้าของ ตอกย้ำลักษณะเด่นของ DAO คือการเชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน ดังเช่นกรณีนี้ที่เชื่อมโยงนักลงทุนที่เทรด NFTs อยู่แล้วให้สะดวกมากยิ่งขึ้น ผู้ถือ NFT ส่วนมากสามารถสเตก NFTs เพื่อการโหวตและสร้างผลตอบแทนเป็นโทเคนตามการแบ่งสรรปันส่วนของสินทรัพย์ของกลุ่มได้อีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมี DAO ที่โด่งดังจากการสนับสนุนการลงทุน NFT โดยเฉพาะที่ชื่อว่า HeadDAO ซึ่งสมาชิกสามารถเก็บสะสมความเป็นเจ้าของใน blue-chip NFTs ได้อีกด้วย ซึ่ง DAO เข้ามามีส่วนทำให้เกิดความโปร่งใสและสามารถให้สมาชิกตัดสินใจร่วมกันได้อย่างเด็ดขาดในการหาข้อมูลในสินทรัพย์ NFTs ที่ถืออยู่ร่วมกัน
.
การกระจายศูนย์อำนาจในเมตาเวิร์ส
เมตาเวิร์สคืออีกโลกที่ DAO จะเข้าไปปฏิวัติแกนกลางในการทำงาน โดยแพลตฟอร์มเมตาเวิร์สส่วนใหญ่มักจะใช้ DAO ในการสร้างระบบไร้ศูนย์เพื่อให้สมาชิกสามารถโหวตเพื่อเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆในเกมหรือแม้กระทั่งระบบต่างๆได้ รวมไปถึงการที่ให้ผู้ใช้มีความเป็นเจ้าของในสินทรัพย์ที่หาได้จากโลกเมตาเวิร์ส
อีกด้วย ตัวอย่างเช่น Decentraland DAO ให้สมาชิกโหวตเพื่อเปลี่ยนแปลงแพลตฟอร์มและระบบนิเวศได้
DAO ให้ประโยชน์ผู้ถือโทเคนอย่างไร?
องค์กรหรือสมาชิกชุมชนที่มีสิทธิ์สามารถสร้างข้อเสนอเกี่ยวกับการดำเนินการในอนาคตของระบบนิเวศ และมาร่วมกันลงคะแนน โดยข้อเสนอที่บรรลุฉันทามติในระดับที่กำหนดไว้ จะได้รับการยอมรับและบังคับใช้ในระบบนิเวศ
.
สรุปง่ายๆ คุณผู้ถือโทเคน คือผู้กำหนดทิศทางของระบบนิเวศที่แท้จริง! เพราะ ชุมชนสามารถออกเสียงคะแนนตามระดับของสมาชิกที่สะท้อนถึงน้ำหนักการลงคะแนนที่พวกเขามี หมายความว่า “ยิ่งคุณมีโทเคนมากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งมีพลังในการออกเสียงมากขึ้นเท่านั้น”
.
คำเตือน:
คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
You might also like
More from DAO
พบกับ METIS แอปบนบล็อกเชน Ethereum ต่อยอดได้ในราคาถูก
METIS คืออะไร Metis เป็นโซลูชันการต่อยอดเลเยอร์ 2 ที่เปิดให้ใช้สาธารณะ ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของบล็อกเชน Ethereum โดยให้แอปพลิเคชันกระจายศูนย์ (decentralized application - dApp) การเงินกระจายศูนย์ (decentralized finance - DeFi) และโปรเจกต์บล็อกเชนอื่น ๆ ได้มีโครงสร้างพื้นฐานที่กระจายศูนย์และสามารถขยายต่อยอดได้ดีขึ้น …
พบกับ 1000Sats (SATS) ร่างทรง Bitcoin ที่ใคร ๆ ก็เทรดได้
1000Sats (SATS) คืออะไร? 1000Sats (SATS) เป็นโทเคนบน BRC-20 ที่ออกแบบมาให้ทุกคนเข้าถึงคริปโทเคอร์เรนซีได้ง่ายขึ้น SATS ย่อมาจาก Satoshi หน่วยที่เล็กที่สุดของ Bitcoin ซึ่ง 1 SATS เท่ากับ 0.00000001 BTC โทเคน 1000Sats …
พบกับ Memecoin (MEME) อนาคตวัฒนธรรมมีมสุดฮา สู่ความเป็นอมตะ
Memecoin (MEME) คืออะไร Memecoin (MEME) เป็นโปรเจกต์สุดล้ำที่ผสานโลกของมีมและความคิดสร้างสรรค์เข้ากับพลังของเทคโนโลยีบล็อกเชนแบบกระจายศูนย์ MEME เป็นโทเคนในระบบนิเวศ Memeland ซึ่งเป็นสตูดิโอ Web3 ที่สร้างขึ้นโดย 9GAG แพลตฟอร์มมีมที่เป็นที่นิยมทั่วโลก Memeland มีเป้าหมายที่จะสร้างมิติใหม่ของโซเชียลมีเดียที่กระจายศูนย์และเติบโตขยายตัวใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ โทเคน MEME เป็นพลังขับเคลื่อนระบบนิเวศ อนุญาตให้ผู้ใช้ซื้อขาย …