บทนำ
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นเทคโนโลยีบล็อกเชนและนวัตกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องมากมายกลายเป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงและมีคนให้ความสนใจกันอย่างแพร่หลายจนอาจเรียกได้ว่ากลายเป็นกระแสหลักไปแล้ว ซึ่งสังเกตได้จากการที่มีเงินทุนมากมายหลั่งไหลเข้ามา รวมถึงการเข้ามาของผู้เล่นรายใหญ่ทั้งหลาย โดยมีตั้งแต่การที่นักลงทุนสถาบันเข้ามาในโลกคริปโทเคอร์เรนซีไปจนถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับ blue chip ต่าง ๆ ที่ได้เข้าไปเป็นเจ้าของ Non-fungible tokens หรือ NFTs และอีกเรื่องหนึ่งที่ถูกพูดถึงกันอย่างมากในช่วง 2-3 ปีมานี้นั่นคือการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ Decentralized Finance หรือ DeFi ซึ่งเป็นระบบที่ให้บริการผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่าง ๆ บนบล็อกเชนสาธารณะ (public blockchain) และ Total Value Locked (TVL) ที่เป็นค่าค่าหนึ่งที่นิยมใช้ชี้วัดมูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมดที่หมุนเวียนอยู่ในระบบ DeFi บนเครือข่ายต่าง ๆ นั้นได้เติบโตอย่างรวดเร็วในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งปีจนมี TVL สูงสุดอยู่ที่ประมาณ 86,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในกลางเดือนพฤษภาคมปี 2021 จากในเดือนมิถุนายนปี 2020 ที่มี TVL เพียง 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น
หนึ่งในผลิตภัณฑ์ทางการเงินแรก ๆ ของโลก DeFi ได้เกิดขึ้นมาในรูปแบบของ Decentralized Exchanges (DEXs) ซึ่งเป็นระบบที่ให้ผู้ใช้งานสามารถเข้ามาซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซีกันได้โดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง โดยในช่วงเริ่มต้นนั้น ผู้ใช้จำเป็นต้องค้นหาด้วยตัวเองว่า DEX ไหนสามารถให้อัตราแลกเปลี่ยนได้ดีที่สุด เนื่องจากแต่ละ DEX ให้อัตราแลกเปลี่ยนได้ไม่เท่ากัน ด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นที่มาของ 1INCH Aggregation Network ซึ่งเป็น DEX ตัวแรก ๆ ที่พยายามแก้ปัญหาจุดนี้โดยการทำระบบที่รวบรวมข้อมูลของ DEX ต่าง ๆ เพื่อหาอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งาน
1INCH token ถูกสร้างขึ้นมาเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2020 เพื่อเป็น governance token สำหรับ DAO ซึ่งเป็นระบบที่ให้ผู้ถือโทเคนสามารถลงคะแนนเสียงสำหรับข้อเสนอต่าง ๆ เพื่อเปลี่ยนแปลงระบบได้
ประวัติ 1INCH
1INCH Network ถูกก่อตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2019 โดยนักพัฒนาชาวรัสเซียสองคนที่มีชื่อว่า Serjez Kunz และ Anton Bukov ที่มีเชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยของ Smart Contract
และทั้งสองคนได้ร่วมกันสร้างผลงานชิ้นแรกที่งาน ETH Hackatron นั่นก็คือ DEX aggregator ที่จะคอยค้นหาว่า DEX ไหนให้อัตราแลกเปลี่ยนได้ดีที่สุด
ชื่อ “1INCH” นั้นมาจาก “หมัดหนึ่งนิ้ว” ซึ่งเป็นหนึ่งเทคนิคของกังฟูที่ Bruce Lee ชอบใช้ พร้อมกับแนวความคิดที่ว่า “การออกแรงเพียงเล็กน้อยก็สามารถสร้างผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ได้ หากออกแรงได้ตรงจุดและแม่นยำ”
นับตั้งแต่เปิดตัว 1INCH Aggregation Protocol จนถึงเดือนพฤศจิกายน 2021 ทาง 1INCH Network ได้เงินจากการระดมทุนสะสมแล้วประมาณ 14.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ก่อนที่จะได้รับอีก 175 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือน ธันวาคม 2021 ซึ่งชี้ให้เห็นว่าการเริ่มต้นเล็ก ๆ ในตอนแรกนั้นสามารถกลายมาเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นในโลก DeFi ได้
ตั้งแต่กำเนิดโปรโตคอลทาง 1INCH ได้ผ่านการพัฒนาและขยายโปรโตคอลมากมาย หนึ่งในนั้นคือการเปิดตัว Mooniswap/1INCH liquidity protocol ในเดือนสิงหาคม 2020 ซึ่งเป็น DEX แบบ Automated Market Maker (AMM) ที่ถูกออกแบบมาให้มีความล่าช้าด้านราคาประมาณ 5 นาที เพื่อลดการทำกำไรจากราคาที่แตกต่างกัน (arbitrage) และไปเพิ่มรายได้ให้กับผู้ที่มาเพิ่มสภาพคล่องแทน นอกจากนี้ในเดือนพฤศจิกายน 2020 ทาง 1INCH Aggregation Protocol ได้มีการอัปเกรดระบบด้วยการเปิดตัวอัลกอริทึมสำหรับการหาเส้นทางการแลกเปลี่ยนตัวใหม่ที่มีชื่อว่า Pathfinder โดยจะต่างกับรุ่นก่อนตรงที่ Pathfinder จะสามารถแบ่งการ swap ผ่านแหล่งสภาพคล่องต่าง ๆ ได้ พร้อม ๆ กับการการคำนึงถึงค่าธรรมเนียมที่จะเกิดขึ้นด้วย รวมถึงการขยายขอบเขตของแหล่งสภาพคล่องที่รองรับจาก 3 เป็น 24 แหล่ง และหลังจากนั้นในเดือนธันวาคมปี 2020 ได้มีการเปิดตัว 1INCH token และ 1INCH DAO
เกี่ยวกับ 1inch
1INCH Network ที่เป็น DEX Aggregator นั้นจะประกอบด้วย 3 สิ่งที่สำคัญ คือ Aggregation Protocol, Liquidity Protocol และ Limit Order Protocol
Aggregation Protocol
1INCH Aggregation Protocol ใช้อัลกอริทึมสำหรับการหาเส้นทางการแลกเปลี่ยนที่ชื่อว่า Pathfinder ที่จะทำให้ 1INCH สามารถเสาะหาสภาพคล่องข้าม DEX ต่าง ๆ ได้เพื่อการแลกเปลี่ยน (swap) นั้น ๆ หรือแบ่งการ swap ที่จำเป็นข้ามไปยังแหล่งสภาพคล่องอื่น ๆ ที่แตกต่างกันเพื่อให้ได้อัตราการแลกเปลี่ยนโดยรวมออกมาดีที่สุด โดยส่วนประกอบหลักของโปรโตคอลนี้คือ 1INCH V4 smart contracts ที่มีการทำยืนยันธุรกรรมต่าง ๆ ด้วยระบบอัลกอรึทึมแบบเฉพาะตัว (runtime verification) เพื่อให้แน่ใจได้ว่าเงินของผู้ใช้บริการได้รับการปกป้องแม้จะมีการสื่อสารกับแหล่งสภาพคล่องที่ไม่ปลอดภัย ซึ่ง 1INCH V4 smart contracts นี้ก็เป็นส่วนประกอบหลักของ Pathfinder อีกทีหนึ่ง
Pathfinder เป็นซอฟต์แวร์ที่ถูกออกแบบเพื่อค้นหาเส้นทางการ swap ที่ดีที่สุดจากตลาดต่าง ๆ โดยจะมีการคำนึงถึงค่าธรรมเนียมด้วย ซึ่ง 1INCH ยืนยันว่า Pathfinder นี้จะช่วยประหยัดค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม (gas fee) ได้สูงสุดถึง 40% ไม่ว่าจะบน Ethereum หรือ Binance Smart Chain (BSC)
Pathfinder จะสามารถแยกหนึ่งคำสั่ง swap ไปยังแหล่งสภาพคล่องต่าง ๆ ที่รองรับและ Pathfinder สามารถใช้ความแตกต่างของสภาพคล่อง (market dept) ในโปรโตคอลดียวกันได้ โดยการรวม market dept นี้เป็นการอัปเกรดครั้งสำคัญจาก Pathfinder v1 และจะช่วยลดค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ใช้งาน 1INCH
Diagram 1: 1INCH Aggregation Protocol ทำงานได้อย่างไร
อีกสองสิ่งที่โดดเด่นเช่นเดียวกับ market dept คือระบบ partial fill mechanism และ dynamic fill mechanism โดยแบบ partial นี้สามารถทำให้การ swap ที่สำเร็จแล้วบางส่วนสามารถถูกยกเลิกได้และทำการหาเส้นทางการ swap ใหม่หากอัตราแลกเปลี่ยนที่ได้มาก่อนหน้านั้นมีการเปลี่ยนแปลงก่อนการ swap จะสำเร็จในหน้า User Interface ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ใช้งานได้อัตราแลกเปลี่ยนที่สูงกว่าที่ตั้งใจไว้ และ/หรือ ไม่ให้เจอความล้มเหลวในการทำธุรกรรม และเหรียญที่ยังไม่ได้ถูก swap จะถูกคืนสู่กระเป๋าของผู้ใช้งานโดยจะเสียค่าธรรมเนียมการ swap เล็กน้อย
ส่วนแบบ dynamic fill mechanism นั้นจะช่วยในการป้องกันความล้มเหลวในการทำธุรกรรมโดยการนำส่วนหนึ่งของการ swap สลับไปอีก protocol ทันที
API ของ Pathfinder จะสามารถทำให้สร้าง aggregator บน blockchain อื่น ๆ ได้ เช่น BSC และยังสามารถเชื่อมโยงกับ Centralized Exchange (CEX) ได้ นอกจากนี้ ยังให้ผู้ใช้งานสามารถ swap โดยใช้โทเคนที่เป็นหลักประกัน (collateralized token) บน AAVE และ Compound ได้อีกด้วย
และสุดท้ายนี้ Pathfinder ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกได้ระหว่าง “ผลตอบแทนสูงสุด” สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีที่สุด กับ “ค่าธรรมเนียมต่ำที่สุด” โดยไม่ใช้เส้นทางการ swap ที่ซับซ้อน
Liquidity Protocol
ปัญหาที่มีอยู่ในหลาย ๆ Decentralized Exchange แบบ AMM นั่นคือ front-running หรือก็คือการที่ผู้ไม่หวังดีเห็นธุรกรรมการ swap ที่กำลังถูกประกาศก่อนที่จะมีการดำเนินการ และทำการวางธุรกรรมของตนเองตัดหน้าธุรกรรมนั้นที่รอดำเนินการเพื่อรับประโยชน์จากราคาที่เพิ่มขึ้นหลังธุรกรรมนั้นสำเร็จโดย จากการค้นคว้าของ Imperial College พบว่า front-runners เหล่านี้สามารถใช้ช่องโหว่นี้ทำกำไรไปได้ 28.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงเดือนธันวาคม 2018 – สิงหาคม 2021
Liquidity Protocol นั้นเป็น Automated Market Maker (AMM) ที่สร้างความแตกต่างด้วยการกำหนด decay period และ price impact fee เพื่อที่จะเพิ่มผลกำไรให้กับผู้วางสภาพคล่อง (Liquidity Providers) และลดกำไรของ arbitrager ลง
decay period คือช่วงเวลาหลังจากที่ผู้ใช้งานได้เปิดคำสั่งซื้อ ระหว่างที่คำสั่งซื้ออีกฝั่งหนึ่งกำลังได้รับอัตราแลกเปลี่ยนเสมือนที่ยังไม่ได้มีผลกับคำสั่งซื้อของผู้ใช้งานนั้น
ยิ่ง decay period กินระยะเวลานานเท่าไร บทบาทของอัตราแลกเปลี่ยนเสมือนที่ทำหน้าที่เหมือนอัตราแลกเปลี่ยนจริงก็จะยิ่งนานขึ้น รวมถึงจะทำให้โอกาสสำหรับการทำกำไรด้วยวิธี front-running จาก bot ลดน้อยลง ซึ่ง decay period นี้จะถูกกำหนดโดย 1INCH DAO
Decentralized Exchange แบบ AMM ตัวแรกถูกเปิดตัวเมื่อปี 2017 โดย Bancor จากนั้นการออกแบบเชิงนวัตกรรมต่าง ๆ ก็เกิดตามขึ้นมาในโลกของ DeFi อย่างเช่น Uniswap และ Curve โดยแต่ละ DEX ก็พยายามแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับระบบ อย่าง Curve ได้พัฒนาฟังก์ชันการกำหนดราคาที่มีการใช้ค่าผลรวมคงที่ (constant sum) และผลคูณคงที่ (constant product) ซึ่งจะทำให้การทำงานของ AMM สามารถสลับระหว่างสองสมการได้ตามความเหมาะสมเพื่อที่จะหาราคาที่ดีที่สุดให้กับ stablecoin
ตามที่ระบุไว้ในภาคผนวก มีหลายสูตรที่สามารถสร้าง Automated Market Maker (AMM) ได้ ตั้งแต่การใช้โมเดลที่เป็นพื้นฐานมาก ๆ อย่าง linear invariant model จนถึง constant product formula ที่ Uniswap ใช้ โดยสูตรต่าง ๆ นั้นจะให้ผลลัพธ์ของเส้นราคาต่างกัน ซึ่งจะคล้าย ๆ ของ Curve ที่ถูกออกแบบให้มีสภาพคล่องเยอะกว่าในบางราคา เช่น $1 สำหรับ stablecoin เนื่องจาก AMM เดี่ยว ๆ จะไม่มีการปรับราคาตามตลาดเพียงเพื่อที่จะคงสูตรการคำนวณไว้เหมือนเดิม และเมื่อการซื้อขายเกิดขึ้นใน AMM อื่น ๆ ที่มีสูตรและอัตราส่วนการสำรองโทเคนที่ต่างกันนั้น จะทำให้มีโอกาสในการ arbitrage มากขึ้น และในขณะที่โอกาสในการ arbitrage มีอยู่ในทุก ๆ ตลาด AMM ที่เป็นมีพื้นฐานเป็น blockchain นั้น ธรรมชาติของคำสั่งซื้อขายและความเป็นไปได้ที่จะเกิดการใช้บอทเทรดจะทำให้เกิดปัญหามากขึ้นสำหรับผู้ใช้งานรายย่อย ซึ่งการปรับใช้ decay period และ price impact fees นั้น จะทำให้ Liquidity Protocol ช่วยลด slippage ที่เกิดจาก arbitrager และ frontrunner ได้
สำหรับ 1INCH Liquidity Protocol กำไรที่คนทำ arbitrage ได้ จะถูกลดลงจาก A-Q เหลือ B-C, D-E, Z-Q โดยส่วนหนึ่งของกำไรที่คน arbitage ได้จะถูกเปลี่ยนเส้นทางไปให้ผู้วางสภาพคคล่องแทน จากการคำนวณของ 1INCH เอง Mooniswap/1inch สามารถทำให้ผู้วางสภาพคล่องได้รายได้เพิ่มขึ้นถึง 50%-200% หากเทียบกับ Uniswap V2 เนื่องจากมีการกระจายของกำไร price slippage
Diagram 2 : ผลลัพธ์ต่อกำไรของ arbitragers จากการใช้ decay period และ virtual price
*สังเกตได้ว่า A/C/E/Q ทั้งหมดนี้อยู่บนเส้นเดียวกันและมีราคาเท่ากัน โดยกราฟจะแสดงลำดับเส้นทางการซื้อขายที่จะเกิดขึ้นจนกว่าความสมดุลจริงจะเข้าใกล้จุด Q.
Limit Order Protocol
1INCH Limit Order Protocol ได้ถูกเปิดตัวเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2021 โดยเป็นการเข้ามาแทนที่ Limit Order Protocol อันเดิมที่มีพื้นฐานเป็น external 0x protocol แต่ประหยัดค่าธรรมเนียมมากกว่า และมี solution ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้
Limit Order Protocol จะทำให้ผู้ใช้งานซื้อคริปโทได้ที่ราคาเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น 1INCH Limit Order Protocol จะไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียม ซึ่งจะทำให้ค่าธรรมเนียมที่ผู้ใช้งานต้องจ่ายลดลง โดยใช้ features ต่าง ๆ ดังนี้
Dynamic Pricing คือการที่ราคาจะถูกคำนวณตามอุปสงค์และอุปทาน (Demand & Supply) ด้วยสัญญาอัจฉริยะหรือ Smart Contract ที่สามารถปรับแต่งได้ตามผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็กการใช้อุปสงค์และอุปทานหรือการใช้ Oracle
อีกหนึ่ง feature ที่โดดเด่นคือ การทำงานแบบมีเงื่อนไข (conditional execution) ที่ทำให้ความเฉพาะเจาะจงของเงื่อนไขสามารถทำงานได้ตามลำดับ นอกจากนี้ผู้ใช้งานสามารถเก็บ Request for quotations (RFQs) สำหรับคริปโทเคอร์เรนซีจำนวนหนึ่งได้
การที่โปรโตคอลถูกออกแบบมาให้สามารถปรับแต่งได้อยู่แล้วจะช่วยให้นักเทรดสามารถใช้กลยุทธ์การซื้อขายพื้นฐาน เช่น คำสั่ง stoploss และคำสั่ง trailing stop ได้อย่างง่ายดาย
Dynamic Pricing feature สามารถใช้ในการทำการประมูลและทำให้ทำงานร่วมกับโปรโตคอลอื่น ๆ ได้ เช่น Liquidation 2.0 ของ Maker DAO
1INCH Limit Order Protocol สามารถใช้ได้ในทุก ๆ blockchain ที่เชื่อมต่อกับทาง 1INCH Network ซึ่งตอนนี้มี Ethereum, Binance Smart Chain และ Polygon รวมถึงมีการรองรับมาตรฐานโทเคน ERC-20/BEP20, ERC721 และ ERC115529
1INCH Tokenomics
โทเคน 1INCH เป็นทั้ง Governance token และ Utility token โดยที่ผู้ใช้งานสามารถ stake โทเคนของตัวเองเพื่อใช้ในการโหวตเพื่อการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เกี่ยวกับ liquidity pool ผ่าน DAO เช่น เรื่องของค่าธรรมเนียมและ decay time เป็นต้น
1INCH token นี้เป็นโทเคนที่อยู่บนหลาย ๆ blockchain โดยส่วนมากจะอยู่บนบล็อกเชน Ethereum แต่ก็จะมีโทเคนจำนวน 10 ล้านโทเคนที่อยู่บน Binance Smart Chain (BSC) ที่อยู่ภายใต้มาตรฐาน BEP-2 เนื่องจากทาง Binance มีการลงทุนในรอบ seed กับทาง 1INCH ในเดือนสิงหาคม 2020
โดย 10 ล้านโทเคนที่อยู่บน BSC นั้นจะทำให้ผู้ใช้งาน 1INCH สามารถเข้าถึงแหล่งสภาพคล่องของทาง Binance ผ่าน Binance Bridge ได้ และตั้งแต่ที่ออกโทเคนบน BSC มา จากการร่วมมือกับทาง Binance เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2021 นั้นก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงจำนวนโทเคน (total token supply) เลย
ข้อมูลเมื่อเดือนธันวาคม 2021 พบว่า 1INCH มีแหล่งสภาพคล่องในเครือข่ายมากมาย โดยเฉพาะ Ethereum นั้นมีทั้งหมด 68 แหล่ง ตามมาด้วย BSC ที่มี 39 แหล่ง และบน Polygon มี 24 แหล่ง
โทเคน 1INCH ได้มีการเปิดตัวผ่านการ airdrop โดยมีอุปทานหมุนเวียนเริ่มต้น (initial circulating supply) 90,000,000 โทเคน ที่ถูกจัดสรรเพื่อการดำเนินงานและความปลอดภัยของระบบ การตลาด รวมถึงการพัฒนา community ของ 1INCH โดยจำนวนโทเคนที่ถูกจัดสรรไว้ดังกล่าวคิดเป็น 6% ของอุปทานทั้งหมด (total supply) ที่ 1,500 ล้านโทเคน และส่วนที่เหลือจะถูกกำหนดให้มีการปลดล็อกตามตารางเวลาในช่วง 4 ปีต่อจากนี้จนถึงเดือนธันวาคม 2024 และการจัดสรรในช่วงระยะเวลา 4 ปีนี้จะมีดังต่อไปนี้ โดยสัดส่วนที่มากที่สุดที่ได้รับการจัดสรรคือ 30% ซึ่งเป็นส่วนสำหรับแรงจูงใจให้ผู้ใช้งาน
ผู้ที่ stake โทเคน 1INCH จะสามารถโหวตพารามิเตอร์ของ protocol ที่สำคัญต่าง ๆ ซึ่งตอนนี้มีทั้งหมด 6 พารามิเตอร์ โดยการโหวตนั้นจะเป็นแบบทันที (real time) ซึ่งจะทำให้การปรับเปลี่ยนสิ่งต่าง ๆ บน 1inch ให้ผลแบบ real time ตัวอย่างเช่น เจ้าของโทเคน 1INCH สามารถ stake โทเคนของเขาและโหวตเพื่อที่จะเปลี่ยนตารางการแจกจ่าย Spread Surplus จาก x วันเป็น y วัน ได้ และสำหรับคนที่ stake บน governance blockchain จนถึงเดือนพฤศจิกายน 2021 ที่มีการเปิดตัว Treasury จะได้รับโทเคน 1INCH เป็นรางวัล
ตัวอย่างการใช้ระบบการโหวตแบบ real time ของ 1INCH สำหรับการลงคะแนนเพื่อเปลี่ยนแปลงการกระจายรางวัลของ Aggregation Protocol

แหล่งรายได้ของ 1inch
โปรโตคอลของ 1inch network จะได้รับรายได้จากสองแหล่งหลักก็คือ ค่าธรรมเนียมคงที่จากทุก ๆ การ swap ที่เกิดขึ้นในโปรโตคอลและค่าธรรมเนียมจาก variable price impact ที่จะถูกเก็บทุก ๆ การ swap เช่นกันซึ่งจะถูกคิดจาก price impact ที่เกิดขึ้น โดยตลาดที่มีสภาพคล่องน้อยกว่าจะมี impact fee ที่มากขึ้นจากการเทรดที่ได้รับการกระตุ้นจากด้านที่มากเกินไป/น้อยเกินไป ตามลำดับ
รายได้ที่เกิดขึ้นจะถูกแจกจ่ายผ่านทางสองช่องทาง คือเป็นรางวัลสำหรับ governance staking และ liquidity provider (LP) โดย 1INCH DAO จะควบคุมการแจกจ่ายรายได้จากทั้งสองช่องทางให้คนที่ถือโทเคน 1INCH คนที่มาช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับ Liquidity Protocol หรือ AMM จะถูกจูงใจด้วยโทเคนจากทั้งสองช่องทาง
Current Market Position
จากที่ได้กล่าวไปด้านบน หากมองจาก Total Value Locked (TVL) แล้ว DeFi นั้นได้เติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และจากตารางที่ 1 ด้านล่างแสดงให้เห็นว่า ตอนนี้ 1inch มีปริมาณการซื้อขายที่มากที่สุดในบรรดา DEX aggregator และ 1inch ก็ยังมี TVL ที่มากที่สุดเช่นกัน ซึ่งอยู่ที่ 38.53 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
Valuation Methodology
เหรียญ 1INCH เป็นทั้งเหรียญ governance และ utility โดยคนที่ฝากเหรียญนี้ในระบบหรือ stake ไว้สามารถมีส่วนร่วมในการกำกับเครือข่ายของ 1INCH ได้ด้วยการโหวตผ่านทั้งช่องทางการโหวตแบบทันทีและทาง 1INCH DAO เพื่อที่จะกำหนดโครงการสำคัญและนโยบายระยะยาวต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับโปรโตคอล Aggregation และ Liquidity ผู้ที่ฝากเหรียญไว้เพื่อร่วมกำกับทิศทางจะได้รับรางวัลจากรายได้ของโปรโตคอลอีกด้วย
ความเห็นของสถาบันแบบดั้งเดิมกล่าวว่า security token หรือเหรียญที่มีการผูกมูลค่า สามารถประเมินมูลค่าได้ผ่านการวิเคราะห์รายได้ด้วยวิธี security analysis โดยเจาะจงไปที่การประเมินมูลค่าด้วยวิธีคิดลดกระแสเงินสด (Discounted Cash Flow: DCF) โดยที่คุณสมบัติที่ชัดเจนของเหรียญที่มีการผูกมูลค่าคือการให้สิทธิ์ในการตัดสินใจและสิทธิ์ในการแจกจ่าย ซึ่งจากการตรวจสอบ tokenomics ก็ทำให้เห็นว่าทั้งสิทธิ์ในการตัดสินใจและในการแจกจ่ายเป็นคุณสมบัติของเหรียญ 1INCH
อย่างที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นว่าเจ้าของเหรียญ 1INCH สามารถฝากเหรียญแล้วโหวตผ่านช่องทางต่าง ๆ และมีสิ่งที่แตกต่างจากโปรโตคอลอื่น ๆ เช่น Dash ที่ให้ความสำคัญกับการโหวตโดย Masternodes แต่เจ้าของโทเคน 1INCH ทั้งหมดจะได้รับสิทธิ์ในการออกเสียงเท่ากันตามสัดส่วนของโทเคนที่ฝากไว้ และมีสิทธิ์เข้าถึงพารามิเตอร์เดียวกันเพื่อลงคะแนน ยิ่งไปกว่านั้น แผนงานในอนาคตคือการกระจายอำนาจเครือข่ายของ 1INCH อย่างสมบูรณ์ภายในต้นปี 2022 เพื่อให้สิทธิ์ในการตัดสินใจกลายเป็นเรื่องที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
หากจะกล่าวถึงเรื่องการกระจายรายได้ ตัวเหรียญ 1INCH ให้คุณค่าในด้านเศรษฐกิจกับผู้ถือครองเหรียญโดยมีสามวิธีหลัก ได้แก่
- การนำผลตอบแทนจาก governance ที่ออกให้กับผู้ถือโทเคนมาลงในกองทุน Treasury ที่มี 1INCH DAO เป็นผู้จัดการ โดย 90% ของผู้มีสิทธิ์โหวตได้จัดตั้ง Treasury ขึ้นภายใต้ความเป็นเจ้าของของทุก ๆ คนและถูกควบคุมโดย DAO และรายได้จากโปรโตคอลทั้งหมดจะถูกนำเข้าไปที่ Treasury ของ 1INCH โดยอนุญาตให้คนที่ถือและฝากโทเคนไว้ได้มีส่วนร่วมในการโหวต
ไม่เพียงแค่ Instant Governance และ DAO แต่ยังรวมถึง 1INCH Network Treasury ที่เพิ่งเกิดขึ้นมาเพื่อจัดการเงินใน Treasury อีกด้วย - การโหวตผ่าน Instant Governance และ DAO เจ้าของโทเคนจะมีผลต่อโดยตรงต่อรายได้ที่ตนได้จากเครือข่าย เช่น โดยการปรับค่าธรรมเนียม price impact และค่าธรรมเนียมในการแลกเปลี่ยนของผู้ใช้ที่เกิดขึ้น ซึ่งจะส่งผลถึงรายได้ของเครือข่ายและค่าธรรมเนียมของคนที่มาวางสภาพคล่อง
- กลไกที่รายได้จากเครือข่ายจะถูกแจกจ่ายให้กับผู้ฝากเหรียญ 1INCH ไว้ และปัจจุบันเป็น Treasury แทน หมายความว่ารายได้ของเครือข่ายส่งผลโดยตรงต่อราคาโทเคน 1INCH โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ส่วนหนึ่งของรายได้จากค่าธรรมเนียมเครือข่ายจะถูกนำไปซื้อโทเคน 1INCH จากตลาดแล้วแจกจ่ายโทเคนให้กับคนที่มา stake ไว้บนบล็อกเชน เมื่อมีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องก็จะทำให้เกิดภาวะเงินฝืดบนระบบเศรษฐกิจของ 1INCH
จากประเด็นต่าง ๆ ที่ได้กล่าวไป ผู้เขียนสังเกตว่าการถือเหรียญ 1INCH มีความคล้ายคลึงในหลายมิติกับการถือหุ้นที่ไม่มีการจ่ายปันผลของบริษัทต่าง ๆ แต่มีการซื้อกลับอย่างต่อเนื่อง และสิ่งนี้ก็เป็นหนึ่งสิ่งที่ทำให้เราสามารถใช้ DCF ในการประเมินพื้นฐานเพื่อหามูลค่าของโทเคนได้ ซึ่ง Messari ก็ใช้วิธีการที่คล้ายกันนี้ในการประเมินมูลค่าโทเคน MKR ของแพลตฟอร์ม MakerDAO
การประเมินมูลค่าด้วยวิธีคิดลดกระแสเงินสด (Discounted Cash Flow Analysis)
การประเมินมูลค่าด้วยวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) จะคำนวณจากรายได้ของคนที่ถือเหรียญ 1INCH เป็นระยะเวลา 10 ปี ภายใต้ทั้งสภาวะตลาดกระทิง ตลาดปกติ และตลาดหมี เพื่อที่จะสร้างมูลค่าที่เหมาะสมโดยยึดหลักความน่าจะเป็น การตัดสินใจที่ใช้ระยะเวลา 10 ปีเพื่อการคาดการณ์นั้นตรงกับมาตรฐานของอุตสาหกรรมว่าเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมที่บุคคลอาจจะมีรายได้เข้ามามากเกินไปสำหรับบริษัทที่อยู่ในช่วงเติบโตสูงและมีอุปสรรคในการแข่งขันสูง
หากจะกล่าวถึงเรื่องอัตราการคิดลด (discount rate) สำหรับโปรเจกต์ stablecoin ของ MakerDAO ทางทีม Messari ใช้อัตราอยู่ที่ 25% ในการวิเคราะห์ โดย stablecoin เป็นที่ถกเถียงว่าจะต้องเผชิญความเสี่ยงของสินทรัพย์ที่อยู่ข้างหลังมากกว่าตลาดคริปโททั่วไป เพราะตลาดทั่วไปขึ้นอยู่กับทั้งการเติบโตอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมคริปโทและความศรัทธาอย่างต่อเนื่องในสินทรัพย์ที่มาค้ำประกันของผู้ที่ออกเหรียญ อย่างไรก็ตาม ข้อมูล VC ด้านเทคโนโลยีก็ชี้ให้เห็นว่า 25% อาจจะน้อยเกินไป เนื่องด้วยคนวงในอุตสาหกรรมนี้เสนอให้ใช้ 10% เป็นอัตราการคิดลดสำหรับ SaaS และ 15-20% สำหรับ startup ที่เพิ่งเกิดใหม่ อีกทั้ง หลายคนอาจเห็นว่าอุตสาหกรรม cryptocurrency มีความเสี่ยงสูง จากการรวบรวมของ KPMG เห็นได้ว่าอัตราคิดลดน่าจะอยู่ในช่วง 30-35% เพราะบริษัทได้ผ่านการทำงานในขั้นที่สองมาแล้วในเรื่องการจัดการ แต่ยังทำงานอยู่ในความเสี่ยงที่สูง ดังนั้น เพื่อที่จะคงแนวคิดความอนุรักษ์นิยมไว้ ควรจะใช้อัตราคิดลดที่ 35%
มูลค่าธุรกิจหลังการประเมินจะถูกคำนวณด้วยวิธีการ Exit Multiple Model โดยตัวที่ใช้คูณของ FCF ในปีผ่านมาคือ 10 เท่าซึ่งตรงกับ Messari ที่ใช้กับ MakerDao และน้อยกว่าธนาคารทั่วไปเล็กน้อย
สำหรับการหามูลค่าที่เหมาะสมโดยการใช้วิธี DCF เราต้องใช้วิธีมาตรฐานโดยดูจากกระแสเงินสดอิสระต่อหุ้นของบริษัท อย่างไรก็ตาม สำหรับเครือข่ายของ 1INCH รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายแล้วจะถูกส่งไปที่ Treasury และส่วนที่เหลือจะถูกแจกจ่ายต่อไปตามความเห็นของผู้ถือเหรียญ 1INCH ดังนั้น กระแสเงินสดอิสระที่มีประสิทธิภาพหรือรายได้สู่ผู้ที่ถือเหรียญ 1INCH เป็นรางวัลของการกำกับดูแล (และตอนนี้ได้ถูกโหวตให้เป็นรายได้เข้าสู่ Treasury)
จากการรวบรวมผลตอบแทนของ 1INCH ในปีแรกของการแจกจ่ายโทเคนพบว่า รายได้ทั้งปีที่คาดการณ์ไว้สำหรับผู้ฝากโทเคน 1INCH ไว้เพื่อการโหวตคือ 31.78 ล้านเหรียญสหรัฐ จากนั้น อัตราการเติบโตของรายได้นี้จะถูกคาดการณ์โดยใช้การเติบโตที่คาดการณ์ไว้สำหรับอุตสาหกรรม DeFi ในอีก 10 ปีข้างหน้าเป็นบรรทัดฐาน
ตารางที่ 2
จำนวนเงินที่อยู่ใน Defi บน Ethereum Chain (ETH และเหรียญ ERC-20 อื่น ๆ ที่ไม่มีการนับซ้ำ)
วันที่ | USD (ล้าน) | % การเติบโต |
02 มกราคม 2020 | 319.95 | |
02 มกราคม 2021 | 13,860.00 | 4232% |
07 ธันวาคม 2021 | 83,600.00 | |
02 มกราคม 2022 | 89,411.67 | 545% |
แหล่งที่มา: https://www.theblockcrypto.com/data/decentralized-finance/total-value-locked-tvl
แน่นอนว่าอัตราการเติบโตของ Net Value Locked ที่สูงเป็นพิเศษในช่วงสองปีที่ผ่านมาไม่สามารถนำมาคาดการณ์ได้ว่าการเติบโตจะคงอยู่ตลอดไปหรือแม้กระทั่งจะอยู่ถึง 10 ปี อย่างไรก็ตาม แม้อัตราการเติบโตจะลดลงอย่างต่อเนื่องในอัตราปัจจุบัน ระบบนิเวศของ Ethereum DeFi น่าจะยังคงเติบโตได้ถึง 626% ในอีก 10 ปีข้างหน้า หรือในอัตราการเติบโตต่อปีอย่างคงที่ (CAGR) ที่ 122% จากอัตราการเติบโตของ DeFI ในสภาวะตลาดกระทิงและตลาดหมี ได้มีการคาดการณ์ CAGR สำหรับรางวัลหรือรายได้ Treasury ของเหรียญ 1INCH (ในตารางที่ 3)
ตารางที่ 3:
การคาดการณ์อัตราการเติบโตของเครือข่าย 1INCH (CAGR ในเวลา 10 ปี) จากอัตราการเติบโตของ DeFi ที่คาดคะเนไว้
สภาวะปกติ | สภาวะกระทิง | สภาวะหมี | |
อัตราการเติบโตประจำปีของ DeFi | 60.96% | 121.92% | 30.48% |
สภาวะปกติ | สภาวะกระทิง | สภาวะหมี | |
ความยืดหยุ่นของรายได้ 1INCH ต่อรายได้ DeFi | 0.75 | 1.00 | 0.50 |
รางวัลเครือข่ายเหรียญ 1INCH (CAGR) | 45.72% | 121.92% | 15.24% |
สำหรับสภาวะตลาดกระทิงผลตอบแทนการลงทุนจะอยู่ที่ประมาณ 120% ถ้าเป็นสภาวะตลาดปกติจะอยู่ที่ ½ และสภาวะตลาดหมีอยู่ที่ ¼ ของผลตอบแทนของสภาวะตลาดตอนนี้
จากสมมุติฐานเหล่านี้ รางวัลของเหรียญ governance ภายใต้ทั้ง 3 สภาวะตลาดถูกคาดการณ์ไว้ในแผนภาพที่ 4 และมีการคำนวณมูลค่าปัจจุบันไว้ด้วยการลดมูลค่าสุดท้ายของเหรียญและ Treasury ของแต่ละสภาวะตลาดซึ่งหารมูลค่านี้ด้วยจำนวนเหรียญที่มีของ 1INCH จำนวน 1,500 ล้านเหรียญซึ่งจะเป็นจำนวนเหรียญหมุนเวียนทั้งหมดภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2024 เมื่อหารแล้วก็จะได้ราคาของเหรียญที่เหมาะสมสำหรับแต่ละสภาวะตลาด
แผนภาพที่ 4: ผลตอบแทนของเหรียญ (USD) ในแต่ละสภาวะตลาด
จากตารางที่ 4 จะเห็นว่าเพื่อหามูลค่าที่เหมาะสมด้วยวิธีการให้น้ำหนักตามความน่าจะเป็น ถ้าเป็นวิธีแบบเดิม ๆ จะใช้ความน่าจะเป็นสูงที่ 30% สำหรับสภาวะตลาดหมี
และ 10% สำหรับสภาวะตลาดพัง (blow-up) ที่จะส่งผลให้ 1INCH และตลาดคริปโทพังแบบถาวรและเหรียญก็จะไร้ค่า ผลของการให้น้ำหนักตามความน่าจะเป็นข้างตนจะได้ราคาที่เหมาะสมของเหรียญอยู่ที่ 128.4 USD/เหรียญ ซึ่งสูงกว่าราคาตลาดตอนนี้ที่ 2.49 USD อย่างเห็นได้ชัด
ตารางที่ 4:
การให้น้ำหนักราคาที่เหมาะสมตามสภาวะตลาดต่าง ๆ
มูลค่าต่อเหรียญ (USD) | % ความน่าจะเป็น | มูลค่าตามความน่าจะเป็น | |
สภาวะตลาดปกติ | 9.477 | 40% | 3.791 |
สภาวะตลาดกระทิง | 621.6 | 20% | 124.3 |
สภาวะตลาดหมี | 0.973 | 30% | 0.292 |
ตลาดพัง | 0.000 | 10% | 0.000 |
ราคาที่เหมาะสมของเหรียญ 1INCH | 128.4 |
ข้อควรระวัง
การใช้มูลค่าตลาด (Market Capitalisation) หารด้วยมูลค่าที่ล็อกอยู่ในแพลตฟอร์ม (TVL) เพื่อประเมินมูลค่าของ DEX นั้นเป็นวิธีที่พบบ่อยแต่อาจไม่ค่อยแม่นยำนัก เทียบกับ Uniswap ที่มีอัตราส่วนคือ 1.11 แล้ว 1INCH มีอัตราส่วนที่ 26.75 ซึ่งสูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนนี้ก็ยังสอดคล้องกับ aggregator ของ DEX เช่น Gnosis Protocol ที่มีอัตราส่วนเท่ากับ 24.4459 ความแตกต่างนี้อาจถูกมองว่าการอนุมานจำนวนที่เท่ากันของสินทรัพย์ถูกนำมาสร้างรายได้ได้มากขึ้นสำหรับ aggregator ของ DEX เมื่อเทียบกับ DEX ธรรมดา ซึ่งการสันนิษฐานนี้จะถูกหากเงินหรือโทเคนที่ฝากเข้ามาในแพลตฟอร์มของ aggregator ถูกใช้งานมากกว่าเงินที่นำไปฝากในแพลตฟอร์ม DEX แบบธรรมดา
นอกจากนี้ เครือข่าย 1INCH เพิ่งปิดการระดมทุนในรอบ Series B โดยทำเงินจากการขายโทเคนถึง 175 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามรายงาน เครือข่ายนี้ขายเหรียญไป 8% ของจำนวนโทเคน 1INCH ทั้งหมด ซึ่งนักลงทุนรอบ Private บางคนก็ได้ขายโทเคนออกมาในรอบนี้ด้วย ในการระดมนี้มีการขายโทเคนไปกว่า 120 ล้านโทเคนด้วยราคา 175 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 1.46 ดอลลาร์/โทเคน แน่นอนว่านักลงทุนนำมาซึ่งการติดต่อและการสร้างผลประโยชน์มากมายและอาจมีการคาดหวังที่จะได้รับโทเคนในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่ซื้อขายกันในตลาด ทั้งนี้การลงทุนที่เกิดขึ้นก็คำนึงถึงผลตอบแทนที่สูงด้วย
การพัฒนาที่สำคัญในอนาคต
ผู้ร่วมก่อตั้ง 1INCH คุณ Sergej Kunz ได้กล่าวไว้เมื่อตอนเปิดตัวโปรโตคอล 1INCH Limit Order ว่าสามารถใช้โปรโตคอลนี้เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจการกู้ยืมด้วยการนำเสนอตัวเลือกให้กับผู้ใช้งานในการแลกเปลี่ยนโทเคนที่แสดงจำนวนโทเคนที่กู้ยืม (debt tokens) ได้ 1INCH มีการขยายฐานผู้ใช้งานและ TVL ซึ่งแสดงถึงการขยายธุรกิจที่มีแนวโน้มทำกำไรได้งาม
ในวันที่ 1 ธันวาคม 2021 1INCH ได้ประกาศการระดมทุนในรอบ Series B เป็นจำนวนเงิน 175 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แทนที่จะขายโทเคนมูลค่า 175 ล้านดอลลาร์สหรัฐในตลาด 1INCH เลือกที่จะขายโทเคนเหล่านี้ให้กับนักลงทุนแบบ private ซึ่งโทเคนที่ได้ขายไปนั้นมาจากกองทุน Growth & Development ซึ่งคิดเป็น 14% ของจำนวนโทเคนทั้งหมดโดย 8% (จาก 14%) ถูกขายไปในรอบ Series B และจากนักลงทุนในรอบก่อน ๆ
การระดมทุนรอบนี้นำโดย Amber Group และมีนักลงทุนอีกประมาณ 50 รายที่มาเข้าร่วม อาทิ Jane Street, Alameda Research และ Gemini Frontier Fund สำหรับ Amber Group นั้นมีฐานอยู่ในประเทศฮ่องกงและถูกก่อตั้งในปี 2017 โดยกลุ่มนายธนาคารจาก Wall Street เช่น นายธนาคารจาก Goldman Sachs และ Morgan Stanley อีกทั้ง Amber Group ให้บริการการเงินด้านคริปโทอย่างหลากหลายโดยมีปริมาณการเทรดสะสมรวมกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เช่นเดียวกันกับ Alameda และ Gemini ที่เป็นนักลงทุนที่มีชื่อเสียงในแวดวงนี้ ในขณะที่ Jane Street นั้นเป็นผู้นำด้านการเงินสายหลักซึ่งทำเกี่ยวกับ quantitative trading ดังนั้น การระดมทุนครั้งนี้ทำให้ 1INCH สามารถเติบโตและกินส่วนแบ่งจากการแลกเปลี่ยนคริปโททั่วโลกได้มากมาย
การอัปเกรดที่โดดเด่นครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2021 นั่นคือการเปิดตัว 1INCH Treasury อย่างที่ได้กล่าวถึงไปแล้วก่อนหน้านี้ หลังจากการเปิดตัว ผลตอบแทนจากการ stake บน governance contract จะไปอยู่ที่ Treasury แทนที่จะแจกให้ผู้ถือโทเคนโดยตรง เนื่องจากในทางทฤษฎีแล้ว Treasury อยู่ภายใต้การควบคุมโดยสมบูรณ์ของ DAO ซึ่งถูกควบคุมโดยผู้ถือโทเคน 1INCH อีกทอดหนึ่ง ดังนั้น เหตุผลทางเศรษฐกิจสำหรับการประเมินมูลค่าพื้นฐานของโทเคน 1INCH ยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ความเสี่ยง
การเริ่มต้นของ Treasury ซึ่งเกิดจากการควบคุม smart contract wallet ของ Gnosis Safe บนเชน Ethereum mainnet ทำให้เครือข่าย 1INCH เกิดจุดอ่อนใหม่ต่าง ๆ ขึ้นเพราะในขณะนี้มี pool ของกองทุนแบบรวมศูนย์ซึ่งเป็นเป้าหมายการโจมตีจากผู้ไม่หวังดี ความเสี่ยงของแพลตฟอร์มนี้อาจลดลงได้บ้างด้วยการใช้ multi-signature ซึ่งสามารถช่วยยับยั้งกิจกรรมที่มุ่งร้ายได้
ความเสี่ยงที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือการที่เหรียญ USDC ซึ่งเป็นเหรียญหลักที่มีอยู่ใน Treasury จะสูญเสียมูลค่า ในขณะที่ USDC ได้รับการสนับสนุนโดย Coinbase และ Circle แต่เป็นที่รู้กันมานานว่าการหลุดการตรึงมูลค่าของเหรียญ stablecoin เป็นเหตุการณ์ black swan ในโลกคริปโทที่มาแบบไม่ทันตั้งตัวแต่ส่งผลกระทบอย่างมาก ซึ่งอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การสูญเสียความมั่นใจในความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกเหรียญ และมาตรการป้องกันการฟอกเงินที่ออกโดย ก.ล.ต. สหรัฐฯ เป็นต้น ความเสี่ยงนี้ลดลงได้ด้วยข้อเท็จจริงที่ว่าผู้ที่ออกเหรียญ USDC มีทุนสำรองที่ผ่านการตรวจสอบรายเดือนโดยบริษัทบัญชีชั้นนำอย่าง Grant Thornton นี่จึงเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับผู้ออก stablecoins บางเจ้าอื่น ๆ อย่างสิ้นเชิง
นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงด้านกฎหมายและการกำกับดูแลของเครือข่าย 1INCH โดยรวม อย่างที่เห็นในกรณีข้อบังคับของ US KYC และ AMLO (Anti-Money Laundering Office) ซึ่งนำไปสู่การระบุ IP address ถึงแม้กระนั้น กรณีนี้ก็แสดงให้เห็นถึงความเต็มใจในการปรับตัวของเครือข่ายจนสามารถระดมทุนรอบ Series B ได้เพื่อที่จะพัฒนา 1INCH Pro ที่ทำมาสำหรับตลาดสหรัฐและนักลงทุนระดับสถาบันทั่วโลกโดยเฉพาะ อย่างไรก็ดี 1INCH Pro จะทำงานแยกขาดกับเครือข่าย 1INCH ด้วยกลุ่มสภาพคล่องที่แตกต่างกัน อาจมีการกำหนดนโยบายเปลี่ยนไปใช้กฎระเบียบ KYC/AMLO ที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งอาจขัดขวางตลาดที่เครือข่าย 1INCH สามารถดำเนินการและสร้างรายได้ให้กับ Treasury ได้อย่างมีนัยสำคัญ
ความเสี่ยงลำดับสุดท้ายคือความเสี่ยงด้านโปรโตคอลและเทคโนโลยีที่เครือข่าย 1INCH สามารถพังครืนลงได้ อย่างไรก็ตาม การที่โปรโตคอลได้ผ่านการตรวจสอบอย่างครอบคลุมจากบุคคลภายนอกมาแล้วถึง 9 ครั้งในเดือนพฤศจิกายน 2020 ประกอบกับชื่อเสียงอันดีของทีมงานและนักลงทุน ความเสี่ยงนี้จึงดูเหมือนเล็กน้อย นอกจากนี้ การคำนวณมูลค่าแบบ DCF ได้ให้ความน่าจะเป็นที่มีน้ำหนักมากเกินไปแก่สภาวะดังกล่าวที่จะอธิบายความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องนี้ได้
สรุป
ภายใต้สมมุติฐานแบบอนุรักษ์นิยม การศึกษานี้ใช้วิธี DCF ในการหามูลค่าที่เหมาะสมสำหรับโทเคน 1INCH ซึ่งเห็นได้ว่าตลาดกำลังลดกระแสเงินสดในอนาคตจากคนถือครองโทเคนที่มากเกินไป สิ่งนี้ไม่ได้กีดกันความเป็นไปได้ที่ไม่มีนัยสำคัญของการสูญเสียมูลค่าโทเคนทั้งหมด อย่างไรก็ตาม วิธีการถ่วงน้ำหนักตามสถานการณ์ได้พิจารณาความเสี่ยงนี้ด้วยอย่างชัดเจน บางครั้งก็มีความเสี่ยงด้านคู่สัญญาและด้านกฎระเบียบโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกี่ยวข้องกับ ก.ล.ต. สหรัฐฯ
ปี 2022 นี้น่าจะจุดพลิกผันของเครือข่ายในแง่ของการสร้างความยั่งยืนของธุรกิจ ด้วยความพยายามในการกำกับดูแลในระดับสากลที่เข้มข้นขึ้นและการตกต่ำของตลาดคริปโทเมื่อเร็ว ๆ นี้ และในอีกด้านหนึ่ง มีเงินทุนที่เพิ่งอัดฉีดเข้ามาเพิ่มเพื่อพัฒนาวิธีการแก้ปัญหาและการขยายโอกาสทางธุรกิจผ่านเครือข่ายนักลงทุนและก้าวสำคัญเพื่อกลายเป็นองค์กรที่มีการกระจายอำนาจอย่างสมบูรณ์
ภาคผนวก
โครงสร้างการแลกเปลี่ยนแบบไร้ตัวกลาง
ปกติแล้ว DEX ต่าง ๆ มีสภาพคล่องจำนวนมากที่อยู่ในรูปแบบของคู่เทรดที่แตกต่างกัน เช่น ETH/ADA สภาพคล่องเหล่านี้สามารถตั้งเป็นระบบ automated market markers (AMMs) ได้เมื่อ smart contract มีเหรียญอยู่อย่างน้อย 2 ชนิดที่อนุญาตให้ทุกคนฝาก/ถอนจาก contract ได้แต่ต้องทำตามกฎที่เฉพาะเจาะจง เช่น AMM สามารถถูกออกแบบได้ด้วยสมการ x*y = k โดยที่ x และ y เป็นจำนวนทุนสำรองของ Token A และ B ที่มี โดยถ้าต้องการจะถอน Token A เราก็ต้องฝาก Token B เข้าไปในมูลค่าที่เท่ากันกับมูลค่าที่อยากจะถอนเพื่อรักษามูลค่าของ k ไว้ก่อนคิดค่าธรรมเนียม ระบบ AMM แตกต่างจากระบบ order-book บน Exchange โดยนักเทรดที่เทรดผ่าน AMM นั้นจะเทรดผ่าน pool ของเหรียญซึ่งไม่ต้องพึ่งตัวกลาง
จาก x*y = k:
y = k/y = k*y^(-1)
อนุพันธ์ (dx/dx) คือ: dy/dx = -k*y^(-2)
ความสัมพันธ์จากสมการถูกแสดงไว้ในแผนภาพด้านล่าง โดยที่ราคาของ A ในรูปของ B เป็นการไล่ระดับแบบ Hyperbola ที่แสดงด้วยเส้นสีม่วง
วิธีผลคูณและผลรวมคงที่จะทำให้มีการเปลี่ยนสลับระหว่างการรักษาค่าผลคูณและผลรวม ซึ่งเมื่อค่าเข้าใกล้จุดกึ่งกลางที่อัตราการแลกเปลี่ยนเป็น 1:1 ผลรวมคงที่จะมีค่าเท่าเดิมแต่เมื่อค่าออกห่างจากจุดนี้ ระบบจะสลับไปเป็นผลคูณเพื่อรักษาค่าผลคูณคงที่ให้เกิดการแลกเปลี่ยนในราคาที่สมเหตุสมผล Stableswap ใช้วิธีการนี้ปรับมูลค่า stablecoin ตัวที่แพลตฟอร์มนี้กำลังหาตลาดให้
อ้างอิง
1inch Network (2021) 1inch Aggregation Protocol. Available from: https://1inch.io/aggregation-protocol/ [Accessed 12th December 2021].
1inch Network (2021) 1inch DAO. Available from: https://1inch.io/dao/ [Accessed 12th December 2021]. 1inch Network (2021) 1inch Limit Order Protocol. Available from: https://1inch.io/limit-order-protocol/
[Accessed 12th December 2021].
1inch Network (2020) 1inch revolutionizes automated market maker (AMM) segment with Mooniswap. 1inch Network. Weblog. Available from: https://blog.1inch.io/1inch-revolutionizes-automated-market-maker-amm-segment-with-mooniswap-e068c20d94c [Accessed 12th December 2021].
1inch Network (2021) 1INCH token. Available from: https://1inch.io/token/ [Accessed 12th December 2021].
1inch Network (2020) 1INCH token is released. 1inch Network. Weblog. Available from: https://blog.1inch.io/1inch-token-is-released-e69ad69cf3ee [Accessed 12th December].
1inch Network (2021) How 1inch protects users from front-running. 1inch Network. Weblog. Available from: https://blog.1inch.io/how-1inch-protects-users-from-front-running-a51ec6e3c6d5 [Accessed 12th December].
1inch Network (2021) The 1inch Limit Order Protocol is released. 1inch Network. Weblog. Available from: https://blog.1inch.io/the-1inch-limit-order-protocol-is-released-b78651431d7a [Accessed 12th December].
1inch Network (2021) The road to decentralization. 1inch Network. Weblog. Available from: https://blog.1inch.io/the-road-to-decentralization-ddee58d3b198[Accessed 12th December].
Accesswire (2020). Amber Group Launches the Amber App to Democratize Crypto Finance. Yahoo Finance. Available from: https://finance.yahoo.com/news/amber-group-launches-amber-app-103000845.html [Accessed 12th December 2021].
Aggarwal, A. & Bahl N. (2021). Start-ups and Early Stage Companies. KPMG Advisory. Available from: https://assets.kpmg/content/dam/kpmg/kw/pdf/insights/2021/05/valuation-startup-web.pdf
Centre (2021) USD Coin. Available from: https://www.centre.io/usdc-transparency [Accessed 12th December 2021].
CoinMarketCap (2021). 1inch Network Price (1INCH). Available from: https://coinmarketcap.com/currencies/1inch/ [Accessed 12th December 2021].
Cryptopedia (2021) What Are Liquidity Pools? Available from: https://www.gemini.com/cryptopedia/what-is-a-%20liquidity-pool-crypto-market-liquidity [Accessed 12th December 2021].
Dash (2021). Understanding Dash Governance. Governance. Available from: https://docs.dash.org/en/stable/governance/understanding.html [Accessed 12th December 2021].
Dillet, R. (2021) Decentralized exchange aggregator 1inch grabs $175 million in token sale. TechCrunch. Available from: https://techcrunch.com/2021/12/01/decentralized-exchange-aggregator-1inch-grabs-175-million-in-token-sale/ [Accessed 12th December 2021].
Dune Analytics (2021) DEX metrics. Available from: https://dune.xyz/hagaetc/dex-metrics [Accessed 12th December 2021].
Ethereum (2021) Oracles. Available from: https://ethereum.org/en/developers/docs/oracles/ (Accessed 12th December 2021].
Foxley, W. (2021) DeFi Exchange 1Inch Expands to Binance Smart Chain Citing ETH Gas Fees. Yahoo Finance. Available from: https://finance.yahoo.com/news/defi-exchange-1inch-expands-binance-160155290.html [Accessed 12th December].
Gnosis Safe (2021) Gnosis Safe Balance. Available from: https://gnosis-safe.io/app/eth:0x7951c7ef839e26F63DA87a42C9a87986507f1c07/balances [Accessed 12th December 2021].
Hasu (2021) Understanding Automated Market-Makers, Part 1: Price Impact. Paradigm Research. Weblog. Available from: https://research.paradigm.xyz/amm-price-impact [Accessed 12th December].
Imtiaz, M. (2021) Curve StableSwap: A Comprehensive Mathematical Guide. Xord Research. Weblog. Available from: https://xord.com/research/curve-stableswap-a-comprehensive-mathematical-guide/ [Accessed 12th December 2021].
Johnson, R., Bufton, J. & Daniel, J. (2019) The valuation of crypto-assets. EY Financial Services. Available from: https://assets.ey.com/content/dam/ey-sites/ey-com/en_gl/topics/emeia-financial-services/ey-the-valuation- of-crypto-assets.pdf [Accessed 12th December 2021].
Kunz, S. (2021) The 1inch Network: A Unity of Decentralized Protocols. Available from: https://www.gemini.com/cryptopedia/1inch-dex-aggregator-1inch-exchange-crypto [Accessed 12th December 2021].
Kunz, S. (2020) What are DEX Aggregators? A Deep Dive by 1inch. Alexandria Tech Deep Dives. Weblog. Available from: https://coinmarketcap.com/alexandria/article/what-are-dex-aggregators-a-deep-dive-by-1inch [Accessed 12th December 2021].
Lord, F. X. (2021) MakerDAO Valuation. Research. Available from: https://messari.io/article/makerdao- valuation [Accessed 12th December 2021].
McClure, B. (2007) Discounted Cash Flow Analysis. Investopedia University. Available from :http://www.grahamanddoddsville.net/wordpress/Files/SecurityAnalysis/Valuation/DCF%20Primer%20- %20Investopedia.pdf [Accessed 12th December 2021].
Messari (2021) 1inch (1INCH) Overview & Profile. Available from: https://messari.io/asset/1inch [Accessed 12th December 2021].
Openzeppelin Security (2021) 1inch Liquidity Protocol Audit. Security Audits. Weblog. Available from: https://blog.openzeppelin.com/1inch-liquidity-protocol-audit/ [Accessed 12th December].
OurNetwork (2021) 1INCH Token Launch. Our Network: Deep Dive #1. Weblog. Available from: https://ournetwork.substack.com/p/our-network-deep-dive-1 [Accessed 12th December 2021].
Phan, Q. (2021) What is 1inch(1INCH)? Everything you need to know about 1INCH. Available from: https://coin98insights.com/what-is-1inch [Accessed 12th December 2021].
Phillips, D. (2021) 3 Minute Tips: Avoiding Front Runners on Decentralized Exchanges. Alexandria Crypto Basics. Weblog. Available from: https://coinmarketcap.com/alexandria/article/3-minute-tips-avoiding-front- runners-on-decentralized-exchanges [Accessed 12th December 2021].
Post, K. (2021) DEX aggregator 1inch blocks out US trades in preparation for separate American platform. The Block. Weblog. Available from: https://www.theblockcrypto.com/linked/119055/dex-aggregator-1inch-blocks- out-us-trades-in-preparation-for-separate-american-platform [Accessed 12th December 2021].
Qin, K., Zhou, L. & Gervais, A. Quantifying Blockchain Extractable Value: How dark is the forest? (2021). arXiv. Available from: https://arxiv.org/pdf/2101.05511.pdf
Skok, D. How to calculate the Discount Rate to use in a Discounted Cash Flow (DCF) Analysis. For Entrepreneurs. Available from: https://www.forentrepreneurs.com/discount-rate-for-dcf/ [Accessed 12th December 2021].
Stuart (2021) 1INCH exchange earnings. DeFi Knowledge. Available from: https://medium.com/defi- knowledge/1inch-exchange-earnings-d986afcb9c33 [Accessed 12th December 2021].
Stuart (2021) Exploring $1INCH Tokenomics. DeFi Knowledge. Available from: https://medium.com/defi- knowledge/defi-exploring-1inch-tokenomics-2d6782c195d4 [Accessed 12th December 2021].
Thurman, A. (2021) 1inch releases composable Limit Order Protocol. Cointelegraph. Available from: https://cointelegraph.com/news/1inch-releases-composable-limit-order-protocol [Accessed 12th December 2021].
Young, M. (2021) Tether promises an audit in ‘months’ as Paxos claims USDT is not a real stablecoin. Cointelegraph. Available from: https://cointelegraph.com/news/tether-promises-an-audit-in-months-as-paxos-claims-usdt-is-not-a-real-stablecoin [Accessed 12th December 2021].
เนื้อหาที่อยู่ในคลังความรู้ของบิทาซซ่ามีไว้ให้ข้อมูลเท่านั้น มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งเว็บไซต์และเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน
ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลมีความผันผวน นักลงทุนต้องตามวิเคราะห์เบื้องหลังและการ ใช้งานแต่ละเหรียญเพื่อให้เข้าใจปัจจัยอย่างลึกซึ้ง ผู้ลงทุนทุกคนควรศึกษาหาความรู้การลงทุนทุกชนิดก่อนตัดสินใจ
You might also like
More from วิจัย
Bitazza Executive Series: Coin98
By Bitazza Team ในขณะที่ระบบการเงินแบบไร้ตัวกลาง (Decentralized Finance หรือ DeFi) กำลังพัฒนาเติบโตและดึงดูดสภาพคล่องไปสู่แพลตฟอร์มหลากหลายรูปแบบ ส่งผลให้ผู้ใช้งานต่างจำเป็นต้องบริหารเงินทุนผ่านกระเป๋าเงินหลายอัน และต้องเผชิญหน้ากับประสบการณ์การใช้งานที่ไม่น่าพึงพอใจเกิดค่าใช้จ่ายไม่จำเป็นจำนวนมาก Coin98 จึงเป็นแพลตฟอร์ม Defi ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ผ่านการสร้าง Coin98 Wallet ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใช้แพลตฟอร์มจากบล็อกเชนอื่นได้ไม่ว่าจะเป็น Ethereum , …
Bitazza Exclusive Series: Alpha Finance
Alpha Finance By Bitazza Team ซิลิคอนวัลเลย์ เป็นบ่อเกิดของบริษัทชั้นนำด้านนวัตกรรมระดับโลก อาทิ กูเกิล แอมะซอนเฟซบุ๊กและแอปเปิ้ล อย่างไรก็ตาม ด้วยธรรมชาติอันเปิดกว้างและไร้ขีดจำกัดของเทคโนโลยีบล็อกเชน ส่งผลให้ผู้ประกอบการสามารถสร้างสรรค์โปรเจกต์อันโดดเด่นได้โดยไม่จำเป็นต้องอยู่แค่เพียงภายในซิลิคอนวัลเลย์และพึ่งพาการลงทุนจากธุรกิจการร่วมลงทุน ในวันนี้ เราจะพูดถึง Alpha Finance Lab บริษัทผู้นำด้านบริการทางการเงินแบบไร้ตัวกลาง หรือ Decentralized Finance …
Axie Infinity: อนาคตของเกมบล็อกเชน
Axie Infinity: อนาคตของเกมบล็อกเชน จากทีมบิทาซซ่ ชุมชนบล็อกเชนรู้สึกตื่นเต้นกับการถือกำเนิดของแอปพลิเคชันบล็อกเชน ในอุตสาหกรรมวีดีโอเกมมาหลายปีแล้ว แต่แม้จะมีความสนใจและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมากมาย เรายังไม่เห็นโครงการเกมใดได้ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล Axie Infinity ได้ใช้แนวคิด “Play to Earn” ในการสร้างระบบเศรษฐกิจที่น่าสนใจจนมีผู้เล่นเข้ามาเล่นถึงวันละ 5 แสนคนและมีรายได้เกือบ 1 พันล้านบาทต่ออาทิตย์จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจในโลกนั้น จึงทำให้เราได้เห็นเกมบล็อกเชนที่ประสบความสำเร็จเป็นรายแรก Axie Infinity …