ฉบับประจำวันที่ 11 – 17 เมษายน 2565
Stablecoins กลายเป็นโปรดักส์ที่มีผู้เล่นหน้าใหม่พยายามที่จะเข้ามาแข่งขันด้วยนอกเหนือจากผู้เล่นเดิมอย่าง USDT,BUSD,USDC โดยช่วงที่ผ่านมา UST ซึ่งสร้างโดย Terra Chain เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและมีพัฒนาการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด Luna Foundation Guard (LFG) ประกาศว่าจะซื้อเหรียญ AVAX มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์จาก Avalanche Foundation เพื่อเพิ่มเข้ามาในทุนสำรองของ UST
เป็นครั้งแรกที่ LFG ประกาศซื้อ Cryptocurrency นอกเหนือจาก Bitcoin
ข่าวลือว่า Near Protocol วางแผนที่จะสร้าง Stablecoins ของตัวเองในชื่อ USN โดยจะมีการจ่ายผลตอบแทนต่อปีใกล้เคียง 20% เช่นเดียวกับ UST อย่างไรก็ตามแม้ยังไม่มีการเปิดเผยไทม์ไลน์ที่ชัดเจน แต่ราคาเหรียญ NEAR พุ่งแรงไปแล้วตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม Janet Yellen รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ออกมากล่าวว่า Stablecoins เป็นประเด็นที่จำเป็นต้องมีการกำกับดูแลโดยกำลังอยู่ระหว่างการออกกฎหมายเพื่อให้มั่นใจว่ามีความโปร่งใสโดยเฉพาะอย่างยิ่งสินทรัพย์ที่นำมาใช้เป็นทุนสำรอง
Michael Saylor ซีอีโอของ MicroStrategy และ Cathie Wood ซีอีโอของ ARK ได้กล่าวในงาน Bitcoin Miami ว่าเริ่มเห็นความชัดเจนในเชิงกฎหมายจากหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯในแง่มุมบวกมากขึ้นในยุคของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้ในอนาคต
งานวิจัยของ Arcane Research เผยว่า 19% ของ Bitcoin Hash Rate ถูกควบคุมโดยบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมาจาก 3% ในเดือนมกราคม 2564 มาเป็น 19% โดยปัจจุบันมีทั้งหมด 26 บริษัท โดย 44.95% ของ Bitcoin Hash Rate ทั่วโลกมาจากเหมืองขุดในอเมริกาเหนือ
รายงานของ Bloomberg ล่าสุดออกบทวิเคราะห์เกี่ยวกับ Ethereum หัวข้อ ‘The Merge’ หรือการควบรวมกันของบล็อกเชน Ethereum และ Beacon Chain ที่ทาง Ethereum ระบุว่ามีกำหนดการในไตรมาส 2 ปีนี้ ซึ่งจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงจาก POW ไปยัง POS จะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับ Ethereum ราคาแตะระดับ 100,000 ดอลลาร์ ได้
Glassnode เปิดเผยอัตราไหลออกของ Bitcoin จาก Exchange อยู่ระดับ เกือบ 100,000 BTC ต่อเดือน ซึ่งส่งผลดีต่อตลาดเพราะจะทำให้เกิดนักลงทุนระยะยาวมากขึ้น
Gemini เผยผลสำรวจพบเกือบครึ่งหนึ่งของผู้ที่เป็นเจ้าของ Cryptocurrency ทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา ละตินอเมริกา และเอเชียแปซิฟิกได้ซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นครั้งแรกในปี 2021 ที่ผ่านมา โดยปัจจัยที่ผลักดันให้เกิดความต้องการคือเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น
วิเคราะห์กราฟเทคนิคประจำสัปดาห์ 11 – 17 เมษายน 2565
Bitcoin (BTC)
BTC ซึมตัวลงแต่ยังสามารถประคองตัวอยู่เหนือแนวรับระยะสั้นที่ 41,700 ดออลลาร์ ได้ แต่ถ้าหลุดจากระดับนี้มีโอกาที่จะลงไปได้ถึงระดับ 37,000 ดอลลาร์ ใครที่ไม่อยากรับความเสี่ยงอาจจะชะลอลงทุนไปก่อน แต่ถ้าสามารถยืนได้ต่อเนื่องจะมีแนวต้านที่เป็นเป้าหมายอยู่ที่ 48,000 ดอลลาร์ ภาพรวมยังผันผวนสูงจากการที่ไม่มีสตอรี่ใหม่มาช่วยหนุน
Ethereum (ETH)
ETH ปรับตัวลงตาม BTC แต่ยังคงยืนเหนือแนวรับระยะสั้นได้อยู่ อย่างไรก็ตามหากราคาหลุดระดับ 3,000 ดอลลาร์ อาจทำให้แนวโน้มราคาเปลี่ยนเป็นขาลงได้ แต่ถ้ายังยืนอยู่ได้แนวโน้มยังคงเป็นขาขึ้น ส่วนเป้าหมายแนวต้านในสัปดาห์นี้อยู่ที่ระดับ 3,600 ดอลลาร์
Balancer (BAL)
Balancer ปรับตัวขึ้น 7.5% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่มีการย่อตัวลงมาพอสมควรจากจุดสูงสุดในรอบสัปดาห์ แนวรับที่ต้องจับตาคือ 500 บาท ถ้าหลุดจากนี้โอกาสจะกลับมาขาขึ้นอีกจะทำได้ยาก ส่วนแนวต้านคือจุดสูงสุดเดิมที่ระดับ 740 บาท ผ่านตรงนี้ได้จะเป็นขาขึ้นต่อเนื่อง
Dogecoin (DOGE)
Dogecoin ปรับตัวขึ้น 5.2% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา จากข่าวเก็งกำไรเกี่ยวกับ Elon Musk แต่ภาพใหญ่ยังถือว่าเป็นขาลง ควรเน้นเก็งกำไรระยะสั้นไปก่อน แนวรับสำคัญที่ใช้เป็นจุดซื้อคือ 4.40 บาท หลุดจากนี้ต้องตัดขาดทุนก่อน ส่วนแนวต้านระยะสั้นอยู่ที่ 6.20 บาท
กลยุทธ์การลงทุนประจำสัปดาห์
รายงานการประชุม FED ครั้งก่อนหน้าที่ถูกเปิดเผยออกมาว่ามีกรรมการบางรายเสนอให้ขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมครั้งต่อไปรวมถึงการลดวงเงิน QE หรือ Tapering ให้ได้เดือนละ 95,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นประเด็นใหม่ที่กดดันภาพรวมของตลาด อย่างไรก็ตามยังเป็นเพียงแค่ความคิดเห็นแต่ยังไม่ใช่มติเป็นทางการ
ประเด็นที่ต้องจับตาคือการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯหรือ CPI วันที่ 12 เมษายน นี้หากออกมาสูงกว่าตัวเลขของเดือนที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 7.9% อาจจะเป็นตัวเร่งการตัดสินใจให้ FED ต้องดำเนินนโยบายการเงินเข้มงวดเพื่อเอาชนะเงินเฟ้อและจะส่งผลด้านลบต่อตลาด
งาน Bitcoin Miami ไม่ได้ทำให้ตลาดกลับมาคึกคักสักเท่าไร ภาพรวมยังคงมีทิศทาง Sideway รอปัจจัยบวกสนับสนุนใหม่และรอตัวเลขเงินเฟ้อที่จะประกาศในวันที่ 12 เมษายน สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการรับความผันผวนสามารถรอให้ตลาดเฉลยทิศทางออกมาก่อนแล้วค่อยตัดสินใจลงทุนได้
สถิติย้อนหลังระบุว่า Bitcoin มักจะสร้างผลตอบแทนได้ดีในช่วงเดือนเมษายนไปจนถึงมิถุนายน จากนั้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคมจนถึงกันยายนตลาดจะกลับมาซบเซาอีกครั้ง ถ้าหาก Bitcoin สามารถยืนอยู่เหนือแนวรับระดับ 41,500 ดอลลาร์ ได้ต่อเนื่องและตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯออกมาไม่สูงมากนักก็มีโอกาสที่ตลาดน่าจะเป็นขาขึ้นได้ตลอดเดือนเมษายน
ราคาเหรียญ Altcoin หลายตัวลงมาในระดับที่น่าสนใจในระยะยาวและยังไม่เสียแนวโน้มขาขึ้น ถ้าหากตลาดฟื้นตัวยังมองเป็นโอกาสเข้าลงทุนต่อในระยะสั้นถึงกลางขึ้นไป
*มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งอีเมลและเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน
You might also like
More from Crypto รายสัปดาห์
Spot ETH ETF ซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้แล้ว
ไม่นานเกินรอ แค่ 6 เดือน ตามหลังการแจ้งเกิด Spot Bitcoin ETF ก.ล.ต. สหรัฐฯ ได้อนุมัติเอกสาร S-1 ของบริษัทจัดการกองทุน 7 ราย ได้แก่ BlackRock, Fidelity, 21Shares, Bitwise, …
คาด Spot ETH ETF ไฟเขียวภายในสัปดาห์นี้
นักวิเคราะห์ ETF จาก Bloomberg คาดว่า Spot Ethereum ETF จะสามารถซื้อขายได้ในวันที่ 18 กรกฎาคม หลังจากที่ผู้จัดตั้ง ETF (exchange traded fund) ได้ยื่นแก้ไขเอกสารแบบฟอร์ม S-1 แล้ว และจะมีการอัปเดตข้อมูลค่าธรรมเนียมอีกครั้งก่อนเปิดตัว บริษัทลงทุนด้านคริปโทเคอร์เรนซี …
ราคา Bitcoin ไปทางไหน หลังจาก Mt. Gox คืน Bitcoin ให้กับเจ้าหนี้
Mt. Gox ประกาศว่า ได้เริ่มชำระ Bitcoin คืนให้กับเจ้าหนี้แล้ว หลังจากที่เว็บเทรดมีปัญหามานานกว่า 10 ปี โดยจะทำการคืนเป็น Bitcoin และ Bitcoin Cash ผ่านทางตลาดรอง (exchange) ที่เป็นพันธมิตร 5 ราย ได้แก่ Bitbank, …