Bitazza Crypto Weekly: จับตา Domino Effect จากตลาดขาลงของ Crypto

ฉบับประจำวันที่ 20 – 26 มิถุนายน 2565

ผลกระทบจากตลาดขาลงของคริปโตกำลังส่งผลกระทบในวงกว้างตั้งแต่การล้มลงของแพลตฟอร์ม DeFi ต่างๆรวมถึงการเลิกจ้างพนักงานและบริษัทต่างๆที่ลงทุน Bitcoin ก่อนหน้านี้กำลังประสบผลขาดทุน

แพลตฟอร์มให้บริการกู้ยืมคริปโต Celsius Network ระงับการถอนเงินจากแพลตฟอร์ม จากการขาดสภาพคล่องในตราสารอนุพันธ์ของ Ethereum ที่ชื่อว่า stETH รวมถึงการเทขายอย่างหนักในตลาดคริปโตจนมีความเสี่ยงที่จะล้มละลาย

Coinbase ตัดสินใจเลิกจ้างพนักงาน 18% หรือ 1,100 คนโดยมีผลทันที

นอกจากนี้ยังมี BlockFi ที่ปรับลดจำนวนพนักงานลง 20% และ crypto.com ที่จะลดพนักงานลง 5% รวมแล้วบริษัทด้านคริปโตระดับโลกได้ลดพนักงานลงไปแล้ว 1,500 คนในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา

USDD ซึ่งเป็น Stablecoin ของ Tron DAO หลุด Peg กับสกุลเงินดอลลาร์อย่างต่อเนื่อง เพิ่มความกังวลว่าจะซ้ำรอยวิกฤติที่เกิดขึ้นกับ UST ทำให้เว็บเทรดสัญชาติเกาหลี Upbit ต้องออกมาเตือนถึงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น ขณะที่ Tron DAO Reserve ยังเข้าซื้อ Bitcoin และเหรียญ TRX เป็นเงินสำรองอย่างต่อเนื่องด้วยงบประมาณ 2,000 ล้านดอลลาร์

รัฐสภาของสหรัฐฯคาดว่ากฎหมายกำกับดูแล Stablecoin อาจจะผ่านการอนุมัติภายในปีนี้ หลังจากการล่มสายของเหรียญ UST ทำให้หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินต่างตื่นตัวที่จะออกกฎหมายออกมากำกับดูแล

Alejandro Zelaya รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของเอลซัลวาดอร์เปิดเผยว่าเกิดผลขาดทุนกับ Bitcoin ที่ถือมาตั้งแต่กลางปี 2021 แล้วกว่า 40 ล้านดอลลาร์ หรือราว 50% จากราคาต้นทุน อย่างไรก็ตามการขาดทุนดังกล่าวเป็นสัดส่วนไม่ถึง 0.5% ของงบประมาณประเทศ

Michael Saylor ซีอีโอของ Microstrategy ยังคงมั่นใจใน Bitcoin โดยการทวีตข้อความว่า #Bitcoin We Trust แม้จะมีการคาดการณ์ว่าบริษัทฯน่าจะขาดทุนจากการถือ Bitcoin ไปแล้ว 1,040 ล้านดอลลาร์จากจำนวนที่มีอยู่ 129,000 BTC ขณะที่ Tesla คาดว่าจะขาดทุนจากการถือ Bitcoin ไปแล้วกว่า 500 ล้านดอลลาร์

 

Three Arrow Capital (3AC) กองทุนเฮดจ์ฟันด์รายใหญ่ในโลกคริปโตมีความเสี่ยงที่จะล้มละลายจากการที่มูลค่าเหรียญต่างๆที่เข้าลงทุนไว้ลดลงอย่างหนักจนอาจจะถูก Liquidate ก่อนหน้านี้ 3AC ขาดทุนจากเหรียญ LUNA ไปกว่า 200 ล้านดอลลาร์

 

ผู้ผลิตเหรียญ USDC อย่างบริษัท Circle Internet Financial เตรียมเปิดตัว Stablecoin ที่มีการตรึงมูลค่าไว้กับสกุลเงินยูโรในชื่อ EUROC จะเปิดซื้อขายในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ ขณะที่มูลค่าตลาดของ USDC เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยอยู่ที่ 54,230 ล้านดอลลาร์ตามหลัง Tether ซึ่งมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 70,770 ล้านดอลลาร์

Elon Musk,Tesla และ SpaceX ถูกฟ้องจากนักลงทุนในคดีปั่นราคาเหรียญ Dogecoin เป็นมูลค่ากว่า 258,000 ล้านดอลลาร์ โดยกล่าวหาว่าเป็นการชักชวนลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่มีค่า

 

---

วิเคราะห์กราฟเทคนิคประจำสัปดาห์  20 – 26 มิถุนายน 2565

---

Bitcoin (BTC)

BTC หลุดทุกแนวรับสำคัญลงมา ระยะสั้นมีโอกาสลงมาทดสอบ 17,000 ดอลลาร์ ถ้ายังยืนอยู่ได้อาจจะมีลุ้นชะลอการเทขายและเริ่มออก Sideway จากการที่ RSI ลงมาแตะระดับต่ำสุดทำให้ราคามีโอกาสหยุดลง แต่ถ้ายังไม่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่และยกจุดต่ำสุดใหม่ขึ้นยังมีโอกาสปรับตัวลงต่อ โดยมีแนวต้านแรกที่ 30,000 ดอลลาร์

 

Ethereum (ETH)

ETH เข้าสู่ภาวะขาลงอย่างสมบูรณ์ยังมีความเสี่ยงที่จะลงไปแตะระดับ 800 ดอลลาร์ ได้ในระยะสั้น แต่ถ้าราคาสามารถยืนอยู่ได้โดยไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่อาจขึ้นไปทดสอบที่ราคา 2,000 ดอลลาร์ ถ้าหากผ่านจุดนี้ไปได้แนวโน้มจะเริ่มดูดีขึ้น แต่ถ้าหลุดระดับ 800 ดอลลาร์ ต้องตัดขาดทุนไปก่อนเพราะแนวโน้มราคายังลงได้ต่อเนื่อง

 

Solana (SOL)

SOL ปรับตัวเพิ่มขึ้น 13.5% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดที่ราคา 880 บาท ราคานี้จะทำหน้าที่เป็นแนวรับสำคัญ หากไม่หลุดจากระดับนี้ยังมีโอกาสฟื้นตัวแตะระดับแนวต้านแรก 1,480 บาท ได้ แต่ภาพรวมแนวโน้มราคายังขาลง ถ้ายังไม่ผ่านแนวต้านแรกไปได้ต้องชะลอการเทรดออกไปก่อน

 

Fantom (FTM)

FTM ปรับตัวเพิ่มขึ้น 10.2% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา มีแนวต้านแรกที่ 9 บาท ถ้าหากผ่านไปได้จะมีโอกาสทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 12 บาท ผ่านไปได้มีโอกาสพลิกกลับเป็นขาขึ้นในระยะสั้น แต่ถ้าหลุดแนวรับที่เป็นจุดต่ำสุดเดิมที่ 6.5 บาท ให้ตัดขาดทุนไปก่อนเพราะอาจจะกลับมาเป็นขาลงอีกรอบ

 

---

กลยุทธ์การลงทุนประจำสัปดาห์

---

 

Bitcoin หลุดแนวรับสำคัญที่ 20,000 ดอลลาร์ ทำให้แนวโน้มใหญ่เป็นขาลงอย่างสมบูรณ์และมีโอกาสที่ราคาจะลงไปแตะ 17,000 ดอลลาร์ หรือจุดที่ลึกที่สุดอาจจะลงได้ถึงระดับ 10,000 ดอลลาร์ ซึ่งจะทำให้ Bitcoin ปรับตัวลงจากจุดสูงสุด 69,000 ดอลลาร์ ที่ -85% เท่ากับสถิติเก่าในปี 2018 

แม้ราคาจะปรับตัวลงมามาก แต่ Bitcoin ยังมี Downside ให้ลงได้อีกถึง 50% หากลงไปแตะจุดต่ำสุดที่ 10,000 ดอลลาร์ ผู้ที่ต้องการลงทุนระยะยาวยังจำเป็นต้องใช้ Money Management ทะยอยเข้าซื้อ 3  ไม้ขึ้นไปไม่จำเป็นต้องรีบเข้าลงทุนทั้งหมด

สำหรับนักเทรดระยะสั้นยังต้องระวังความผันผวนจากข่าวด้านลบที่มาจากแพลตฟอร์มต่างๆที่กำลังได้ผลกระทบจากตลาดขาลง ยังต้องเน้นการเก็งกำไระยะสั้นไปก่อน หากตลาดยังไม่ฟื้นกลับมาเต็มตัว

เหตุการณ์ที่ต้องจับตาในสัปดาห์นี้วันพุธและพฤหัสที่ 22-23 มิถุนายน ประธาน FED จะให้การกับรัฐสภาสหรัฐฯถึงแนวโน้มเศรษฐกิจซึ่งแมสเสจที่ออกมาอาจจะส่งผลต่อตลาดและเป็นอีเวนท์สำคัญก่อนจะมีการประกาศอัตราเงินเฟ้อเดือนมิถุนายนในวันที่ 13 กรกฎาคม ซึ่งตัวเลขที่ออกมาจะกำหนดแนวโน้มของตลาดคริปโตว่าจะฟื้นตัวหรือปรับตัวลงต่อ

*มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งอีเมลและเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน

 

You might also like

---

More from Crypto รายสัปดาห์

---