ฉบับประจำวันที่ 24 – 30 มกราคม 2565
การปรับตัวลงอย่างหนักของ Bitcoin และ Cryptocurrency อื่นๆรวมถึงหุ้นเทคโนโลยีใน NASDAQ ตลอดสองเดือนที่ผ่านมาทำให้มีการนำไปเปรียบเทียบกับวิกฤติหุ้นเทคโนโลยีในปี 2000 หรือ Dot Com Crisis
โดยมีการเปรียบเทียบการปรับตัวลงของราคาจากจุดสูงสุดมาถึงจุดต่ำสุดพบว่าราคา Bitcoin ยังมีโอกาสที่จะปรับตัวลงได้ต่อโดยอาจจะลงมาได้ถึงระดับ 15,000 ดอลลาร์ หรือลดลงกว่า 80% จากจุดสูงสุด
อย่างไรก็ตามปัจจัยพื้นฐานของหุ้นเทคโนโลยีและ Bitcoin ถือว่ามีพัฒนาการที่ดีกว่าในอดีตมาก มีความต้องการจากทั้งนักลงทุนสถาบันรวมถึงธนาคารกลาง จำนวนผู้ลงทุนเพิ่มมากขึ้น จำนวน Node ที่กระจายไปทั่วโลก และมีเทคโนโลยีบล็อกเชนใหม่ๆอย่าง DeFi และ NFT พื้นฐานของ Cryptocurrency ที่มี Use Case ชัดเจน จึงไม่น่าที่จะทำให้ราคาลงแรงเหมือนช่วงปี 2000 ซึ่งหุ้นเทคโนโลยีส่วนใหญ่ยังไม่มีพื้นฐานรองรับ
ประธานาธิบดี นายิบ บูเคเล แห่งประเทศเอลซัลวาดอร์ ประกาศซื้อ Bitcoin เพิ่ม อีก 410 BTC โดยใช้เงิน 15 ล้านดอลลาร์ รวมแล้วถือครองกว่า 1,500 BTC โดยยังคงแผนออกพันธบัตร Bitcoin อายุ 10 ปี มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้
ธนาคารกลางรัสเซียมีแผนที่จะสั่งห้ามการทำธุรกรรมกับสกุลเงินดิจิทัลเต็มรูปแบบ โดยมองว่าจะสร้างความเป็นภัยต่อความมีเสถียรภาพทางการเงินและการขุด Bitcoin ยังเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานและทำลายสิ่งแวดล้อม
Binance ประกาศว่าได้ทำการเผาโทเคน BNB ครั้งที่ 18 ไปแล้ว 1.68 ล้าน BNB คิดเป็นมูลค่าเกือบ 800 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นการเผาโทเคนครั้งแรกภายใต้ระบบใหม่ที่เรียกว่า “BNB Auto-Burn” โดยจะคำนวนจำนวนโทเคนที่จะเผาตามราคาในตลาดของ BNB
Meta เตรียมที่จะให้ผู้ใช้งานสามารถแสดงผลงาน NFT ของตัวเองบน Facebook และ Instragram รวมถึงกำลังตัดสินใจที่จะเปิด Marketplace สามารถซื้อขาย NFT ได้
ทางด้าน Twitter เปิดตัวฟีเจอร์ NFT Profile สำหรับระบบปฎิบัติการ IOS ซึ่งจะทำให้สามารถนำ NFT มาแสดงบนหน้า Profile ส่วนตัวได้ โดยเชื่อมต่อกับ Metamask และ Wallet อื่นๆโดยจะต้องเสียค่าบริการรายเดือน 2.99 ดอลลาร์ ต่อเดือน
Walmart ร้านค้าปลีกยักษ์ใหญ่เพิ่มรายละเอียดประเภทธุรกิจโดยระบุถึงการให้บริการ Cryptocurrency รวมถึง NFT ในโลก Metaverse เป็นไปได้ว่าจะเปิดให้สามารถจับจ่ายซื้อของบนโลกเสมือนจริงได้
เกาหลีใต้ประกาศวิสัยทัศน์ที่จะเป็นผู้นำในเทคโนโลยี Metaverse ติด 5 อันดับแรกของโลกโดยจะสร้างผู้เชี่ยวชาญด้านนี้อีก 40,000 รายและสร้างงานเพิ่มอีก 1.5 ล้านตำแหน่ง
วิเคราะห์กราฟเทคนิคประจำสัปดาห์ 24 – 30 มกราคม 2565
Bitcoin (BTC)
BTC ปรับตัวลงหนักระยะสั้นมีแนวรับที่จุดต่ำสุด 34,000 ดอลลาร์ หากระดับนี้ไม่สามารถรับอยู่ราคามีโอกาสปรับตัวลงได้ต่อ แนวต้านที่เป็นเป้าหมายในระยะสั้นคือที่ระดับ 40,000 ดอลลาร์ หากราคามีการยกจุดต่ำสุดขึ้นและสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่องถึงจะมองว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว
Ethereum (ETH)
ETH ปรับตัวลงอย่างหนักมาทำจุดต่ำสุดที่ 2,300 ดอลลาร์ จับตาแนวรับดังกล่าวนี้หากหลุดลงไปแนวโน้มจะลงไปได้ถึงระดับ 2,000 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านระยะสั้นอยู่ที่ 3,000 ดอลลาร์ ถ้าสามารถผ่านระดับนี้ไปได้ แนวโน้มจึงมีโอกาสจะพลิกกลับมาเป็นขาขึ้นได้อีกครั้ง
Velo (VELO)
VELO ค่อนข้างที่จะ Outperform เหรียญอื่นในตลาดโดยยังสามารถให้ผลตอบแทนเป็นบวกได้ 0.5% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 1.20 บาท ขณะที่หากสามารถผ่านระดับ 4.50 บาท โอกาสที่จะพลิกกลับเป็นขาขึ้นก็มีมากขึ้น หาจังหวะซื้อเมื่อราคาย่อตัวได้
Dogecoin (DOGE)
Dogecoin ปรับตัวลดลง 19.1% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ถือว่าปรับตัวลดลงน้อยกว่าเหรียญ Altcoin อื่นในตลาด ระยะสั้นใช้แนวรับ 4 บาทเป็นจุดตัดขาดทุน ส่วนแนวต้านระยะสั้นอยู่ที่ 5.6 บาท หากย่อตัวลงมาไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่ยังมองเป็นโอกาสเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้นได้
กลยุทธ์การลงทุนประจำสัปดาห์
Bitcoin ร่วงลงต่ำกว่าแนวรับสำคัญ 37,500 ดอลลาร์ ทำให้แนวโน้มหลังจากนี้น่าจะเข้าสู่ภาวะตลาดขาลงหรือ Bear Market ช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยหากใช้ทฤษฎี Elliot Wave มาจับแนวโน้มราคา Bitcoin จะได้สองสมมุติฐานคือ
แบบแรก Bitcoin กำลังปรับฐานในขา C ของคลื่นที่ 4 โดยอาจจะปรับตัวลงมาถึงระดับ 28,000-30,000 ดอลลาร์ น่าจะเป็นการจบรอบปรับฐานและมีโอกาสที่จะเป็นขาขึ้นในเวฟที่ 5
แบบที่สอง Bitcoin ผ่านจุดสูงสุดของเวฟ 5 ไปแล้วที่ 69,000 ดอลลาร์ และกำลังอยู่ในช่วงปรับฐานต่อเนื่องซึ่งอาจจะกินระยะเวลาหนึ่งหนึ่งปี ระยะสั้นราคาอาจจะมีเด้งคืนและลงต่อ ถึงอย่างไรไม่น่าจะได้เห็นราคาที่ต่ำกว่าระดับ 20,000 ดอลลาร์
ปัจจัยที่ต้องติดตามคือการประชุมของ FED ในกลางสัปดาห์ที่จะถึงนี้โดยจะมีการส่งสัญญาณถึงนโยบายการเงินหลังจากนี้รวมถึงต้องลุ้นว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้เลยหรือไม่ ถ้าหากยังคงแผนขึ้นดอกเบี้ยสามครั้งภายในปีนี้ ราคา Bitcoin อาจจะฟื้นตัวขึ้นเพราะราคาที่ลงมาถือว่า Price In กับเรื่องที่จะขึ้นดอกเบี้ยไปพอสมควร
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน ผู้ที่มองการลงทุนระยะยาวสามารถที่จะเริ่มทะยอยสะสม Bitcoin ได้ แต่สำหรับนักเทรดเก็งกำไรยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมโดยจะต้องให้ราคาพลิกกลับมาเป็นขาขึ้นให้ได้เสียก่อนถึงจะเป็นจุดซื้อที่ปลอดภัย
ทั้งนี้อย่าคาดหวังว่าจะได้ซื้อราคาที่ต่ำสุดแต่ควรซื้อในจังหวะที่ราคาสามารถพลิกกลับมาเป็นขาขึ้นได้แล้วจะปลอดภัยกว่า โดยการเข้าซื้ออย่าเข้าซื้อทั้งหมดด้วยเงินที่มีแต่ทะยอยเข้าซื้อสัก 3-4 ครั้ง
*มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งอีเมลและเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน
You might also like
More from Crypto รายสัปดาห์
Spot ETH ETF ซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้แล้ว
ไม่นานเกินรอ แค่ 6 เดือน ตามหลังการแจ้งเกิด Spot Bitcoin ETF ก.ล.ต. สหรัฐฯ ได้อนุมัติเอกสาร S-1 ของบริษัทจัดการกองทุน 7 ราย ได้แก่ BlackRock, Fidelity, 21Shares, Bitwise, …
คาด Spot ETH ETF ไฟเขียวภายในสัปดาห์นี้
นักวิเคราะห์ ETF จาก Bloomberg คาดว่า Spot Ethereum ETF จะสามารถซื้อขายได้ในวันที่ 18 กรกฎาคม หลังจากที่ผู้จัดตั้ง ETF (exchange traded fund) ได้ยื่นแก้ไขเอกสารแบบฟอร์ม S-1 แล้ว และจะมีการอัปเดตข้อมูลค่าธรรมเนียมอีกครั้งก่อนเปิดตัว บริษัทลงทุนด้านคริปโทเคอร์เรนซี …
ราคา Bitcoin ไปทางไหน หลังจาก Mt. Gox คืน Bitcoin ให้กับเจ้าหนี้
Mt. Gox ประกาศว่า ได้เริ่มชำระ Bitcoin คืนให้กับเจ้าหนี้แล้ว หลังจากที่เว็บเทรดมีปัญหามานานกว่า 10 ปี โดยจะทำการคืนเป็น Bitcoin และ Bitcoin Cash ผ่านทางตลาดรอง (exchange) ที่เป็นพันธมิตร 5 ราย ได้แก่ Bitbank, …