Bitazza Crypto Weekly: ภาษีคริปโตจะฉุดรั้งการเติบโตของตลาดหรือไม่

ฉบับประจำวันที่ 22 – 28 พฤศจิกายน 2564

ตลาดคริปโตปรับฐานลงในสัปดาห์ที่ผ่านมาจากการที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ ได้ลงนามในร่างกฎหมายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน (Bipartisan Infrastructure Framework-BIF) วงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ โดยหนึ่งในหัวข้อสำคัญคือการที่กำหนดให้ประชาชนสหรัฐฯ ต้องรายงานธุรกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีมูลค่ามากกว่า 10,000 ดอลลาร์ ต่อกรมสรรพากร

ประเด็นเรื่องการจัดเก็บภาษีจากคริปโตมีอยู่ในหลายประเทศไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย หลายประเทศในยุโรป รวมถึงประเทศไทย แม้ว่าจะสร้างความวิตกกังวลว่าจะเป็นปัจจัยฉุดรั้งตลาดให้เติบโตช้าลง แต่ในความเป็นจริงวิธีการจัดเก็บภาษีจากคริปโตในภาคปฎิบัติยังคงอยู่ในช่วงของ Learning Curves กันอยู่

ปัจจัยความวิตกกังวลน่าจะเป็นเพียงแค่ระยะสั้นจนกว่าทั่วโลกจะร่วมกันสร้างมาตราฐานการเก็บภาษีจากตลาดคริปโตที่เป็นรูปธรรมซึ่งน่าจะต้องใช้เวลาอีกสักพักใหญ่ 

ประเทศเอลซัลวาดอร์เตรียมจัดตั้ง Bitcoin City ซึ่งจะเป็นเขตที่ไม่มีการจัดเก็บภาษีใดๆ รวมถึงออกพันธบัตร Bitcoin มูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเช่นลงทุนใน Bitcoin เพิ่มเติม และลงทุนใน Bitcoin Mining

Bloomberg Opinion เปิดเผยว่า Bitcoin อยู่ในภาวะเงินฝืดถึง 99.996% ตลอดสิบปีที่ผ่านมา โดยราคา 1 BTC ในปี 2011 มีราคาเพียง 0.004% ของราคา 1 BTC ในปัจจุบัน ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์มีอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 28% จึงถือว่า Bitcoin เป็นเครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อที่ดีที่สุด

Grayscale เปิดเผยว่าการถือครอง Bitcoin Trust โดยบริษัทเอกชน และนักลงทุนสถาบันขนาดใหญ่ลดลง 2.6% ในไตรมาสที่สาม ขณะที่ Ethereum Trust เติบโตขึ้น 19% ในไตรมาสที่สามเทียบกับไตรมาสก่อน

Binance Smart Chain เปิดเผยว่าได้เกิดสถิติใหม่ในแง่ปริมาณธุรกรรมต่อวันขึ้นไปแตะ 14.7 ล้านธุรกรรมภายในวันเดียวซึ่งตัวเลขนี้สูงกว่า Ethereum ซึ่งเคยเกิดปริมาณธุรกรรมสูงสุดตลอดกาลที่ 1.7 ล้านธุรกรรมต่อวันส่วน Bitcoin มีมูลค่าธุรกรรมสูงสุด 4.5 แสนธุรกรรม

 

---

วิเคราะห์กราฟเทคนิค: ประจำสัปดาห์ 22 – 28 พฤศจิกายน 2564

---

 

Bitcoin (BTC)

BTC ปรับฐานลงแตะจุดต่ำสุดที่ 55,000 ดอลลาร์ แล้วมีการดึงขึ้นอย่างรวดเร็ว ระดับดังกล่าวจึงกลายเป็นแนวรับสำคัญในระยะสั้น ถ้าไม่หลุดต่ำจากนี้แนวโน้มจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวโดยมีแนวต้านสำคัญที่ควรต้องยืนได้อย่างแข็งแกร่ง 62,000 ดอลลาร์ ทั้งนี้ภาพรวมหลักของ BTC ยังเป็นขาขึ้นถ้าไม่หลุด 50,000 ดอลลาร์

 

Ethereum (ETH)

ETH ย่อตัวลงตาม BTC แล้วฟื้นตัวตามกันโดยทำจุดต่ำสุดที่ 4,000 ดอลลาร์ หากยังรักษาระดับดังกล่าวนี้ได้จะยังไม่เสียทรงขาขึ้นไป แนวต้านอยู่ที่ 4,5000 ดอลลาร์ ถ้าผ่านระดับนี้จะกลับมาสู่เส้นทางของการสร้างจุดสูงสุดใหม่ โดยภาพรวมของแนวโน้มถูกเปลี่ยนเป็น Sideway

 

 

Avalanche (AVAX)

AVAX ปรับตัวขึ้นกว่า 42% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แนวโน้มเป็นขาขึ้นอย่างแข็งแกร่งอย่างไรก็ตามการปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่องอาจจะมีแรงเทขายออกมา แต่ถ้าไม่หลุดระดับ 3,600 บาท แนวโน้มขาขึ้นยังไม่เสียไป ส่วนแนวต้านในระยะสั้นอยู่ที่ 5,200 บาท ใช้กลยุทธ์ซื้อเมื่อย่อตัวได้

 

The Sandbox (SAND)

SAND ปรับตัวขึ้น 40% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แนวโน้มเป็นขาขึ้นอย่างต่อเนื่องการปรับฐานลงมองว่าเป็นโอกาสในการเข้าซื้อแบบ Buy On Dip โดยมีแนวรับสำคัญที่ระดับ 110 บาท ส่วนแนวต้านในระยะสั้นอยู่ที่ 160 บาท ภาพรวมแนวโน้มยังเป็นขาขึ้น

 

---

กลยุทธ์การลงทุนประจำสัปดาห์

---

 

ตลาดคริปโตในภาพรวมมีความคึกคักมากขึ้นโดยเฉพาะเหรียญในสาย NFT Games ที่มีการเก็งกำไรเข้ามาจากกระแสของ Metaverse รวมถึงช่วงสุดสัปดาห์ ราคา Bitcoin มีการฟื้นตัวขึ้นมาใกล้เคียงระดับ 60,000 ดอลลาร์ อีกครั้ง บ่งบอกว่าตลาดมีแนวโน้มกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้ง

อย่างไรก็ตามเหรียญ NFT Games บางเหรียญอาจจะถูกเก็งกำไรขึ้นมาเร็วเกินไปจากกระแส FOMO นักเทรดอาจจะต้องใช้ความระมัดระวังในการเทรดมากขึ้น แม้ว่าในระยะยาวกระแส Metaverse จะยังคงผลักดันเหรียญในกลุ่มนี้ให้เติบโตได้ต่อเนื่อง

เหรียญสายสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) ชะลอความร้อนแรงลงไปเล็กน้อยโดยมี Avalanche หรือ AVAX ที่โดดเด่นขึ้นเหนือกว่าเหรียญอื่น และสร้างจุดสูงสุดใหม่ ถึงอย่างไรเหรียญในสายนี้ยังมีโอกาสที่จะสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่องหากตลาดในภาพรวมยังเป็นขาขึ้น

ด้านเหรียญ DeFi อาจจะไม่หวือหวาเท่ากับเหรียญในสายเกมส์และ Smart Contract แต่แนวโน้มรวมๆยังถือว่าเติบโตไปได้ มีโอกาสที่จะเริ่มสร้างผลตอบแทนโดดเด่นในช่วงท้ายของตลาดขาขึ้น

เหรียญ NFT เริ่มมีการเทลงมาหลังเก็งกำไรขึ้นมากันสนุกในช่วงสุดสัปดาห์ ทุกเหรียญโดนขายลงมาหมด แต่แนวโน้มส่วนใหญ่ยังคงเป็นขาขึ้นอยู่ ยังมองเป็นโอกาสในการเข้าสะสมต่อได้ ส่วนบางเหรียญอย่าง GALA ที่ขึ้นมาแรงอาจลองหาข้อมูลระหว่างรอพักตัวก่อน ไปลองหาเหรียญที่ยังขึ้นไม่สูงมากอย่าง MANA หรือ ENJ ดู

สัปดาห์นี้จับตาราคา Bitcoin ถ้าหากไม่กลับมาทำจุดต่ำสุดใหม่ที่ 56,000 ดอลลาร์ แนวโน้มตลาดในภาพรวมจะสามารถฟื้นตัวขึ้นได้ ไม่ว่าจะกลับมาเป็นขาขึ้นเลย หรือจะเคลื่อนตัวออก Sideway โดยประเด็นที่ต้องจับตาในช่วงที่เหลือของปีคือการอนุมัติ Bitcoin ETF ซึ่งจะเป็นทั้งปัจจัยลบ และปัจจัยบวกต่อตลาด

 

มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งอีเมลและเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน

 

You might also like

---

More from Crypto รายสัปดาห์

---