Bitazza Crypto Weekly: สหรัฐฯเดินหน้าออกกฎระเบียบส่งเสริม Cryptocurrency

ฉบับประจำวันที่ 14 – 20  มีนาคม 2565

Joe Biden ประธานาธิบดีสหรัฐฯลงนามคำสั่งพิเศษให้หน่วยงานต่างๆศึกษาวิจัย Cryptocurrency รวมถึงเทคโนโลยี Blockchain และ Ledger เนื่องจากมองว่ามีการใช้งานคริปโตที่มากขึ้นจึงจำเป็นต้องลงมากำกับดูแล แต่ยืนยันว่าทำไปเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค นักลงทุนและภาคธุรกิจ รวมถึงความมั่นคงทางการเงินของประเทศชาติ

เขายังย้ำว่าจุดประสงค์หลักของการศึกษาผลกระทบของ Cryptocurrency เพื่อมุ่งเน้นการสนับสนุนมากกว่าปิดกั้นและให้มั่นใจว่าสหรัฐฯจะเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนี้ แต่ยังให้ความสำคัญกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะการขุด Bitcoin ที่จะต้องลดการปล่อยมลพิษลง

ส่วนประเด็นเรื่องสกุลเงินดิจิทัลแห่งชาติหรือ CBDC ถือเป็นเป้าหมายแรกของการศึกษาวิจัยครั้งนี้แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะเปิดตัวดอลลาร์ดิจิทัลเพื่อไร การที่ราคา Bitcoin ปรับตัวขึ้นหลังประกาศนี้ออกมาแสดงว่าตลาดมองภาพบวกต่อก้าวย่างครั้งนี้ของสหรัฐฯ แต่ยังต้องเกาะติดเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ตาม SEC ของสหรัฐฯยังไม่ได้ทำการอนุมัติกองทุน Bitcoin ETF ตามคำร้องขอของ NYDIG และ Global X เช่นเดียวกับผู้ยื่นขอจัดตั้งหลายรายก่อนหน้านี้โดยให้เหตุผลว่ายังจำเป็นต้องมีมาตรการคุ้มครองผู้ลงทุน

Mykhailo Fedorov รัฐมนตรีดิจิทัลยูเครนเรียกร้องให้ Tether ยุติการให้บริการในรัสเซียแต่ยังไร้การตอบกลับ จากก่อนหน้านี้ Coinbase และ Kraken ปฏิเสธการร้องขอให้ยุติการให้บริการในรัสเซียไปก่อนหน้า ส่วน Circle ผู้อยู่เบื้องหลังเหรียญ USDC ประกาศชัดเจนแล้วว่าได้ยุติการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินรูเบิล

ข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์บล็อกเชน Kaiko แสดงให้เห็นถึงปริมาณการซื้อขาย Bitcoin ในสกุลเงินรูเบิลเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดของปี นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มทำการบุกประเทศยูเครน

Bitcoin กำลังจะถูกขุดขึ้นมาครบ 19 ล้าน BTC ภายในเดือนมีนาคมนี้ จากปัจจุบันถูกขุดขึ้นมาแล้ว 18.97 ล้าน BTC อย่างไรก็ตามยังต้องใช้เวลาอีกกว่า 100 ปี ถึงจะขุดขึ้นมาครบ 21 ล้าน BTC 

มูลค่าการ Stake ของ ETH Consensus layer แตะจำนวน 10 ล้าน ETH รวมมูลค่ากว่า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่เปิดตัวการ Staking ไปตั้งแต่ช่วงปลายปี 2020

ขณะที่ Coin Metrics เปิดเผยว่าค่าธรรมเนียมสำหรับการทำธุรกรรมบน Ethereum ลดลงสู่ระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว คาดว่ามาจากความนิยมใน DeFi และ NFT ที่ลดลง แต่ยังถือว่าไม่ได้อยู่ในจุดที่ต่ำที่สุด

 

---

วิเคราะห์กราฟเทคนิคประจำสัปดาห์  14 – 20  มีนาคม 2565

---

Bitcoin (BTC)

BTC ยังคงเคลื่อนไหวแบบ Sideway แม้ว่าจะไม่สามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่แต่ก้ยังสามารถยกจุดต่ำสุดให้สูงขึ้นได้ทุกครั้งที่มีการย่อตัวลง หาจังหวะลงทุนหากราคาไม่หลุดระดับ 34,000 ดอลลาร์ หรือสามารถทะลุผ่านระดับ 45,000 ดอลลาร์ ไปได้จะปลอดภัยกว่า เพราะแนวโน้มตอนนี้ยังถือว่าไม่มีเทรนด์ชัดเจน

 

Ethereum (ETH)

ETH ยังคงมีแนวโน้มที่ไม่ชัดเจนเช่นเดียวกับ BTC แต่ยังดีที่ยังไม่สร้างจุดต่ำสุดใหม่ ทรงราคากำลังทำ Pattern แบบสามเหลี่ยมบีบตัวคาดว่าจะมีการเลือกทางที่ชัดเจนในเร็วๆนี้ ถ้าทะลุผ่าน 3,000 ดอลลาร์จะกลับเป็นขาขึ้น แต่ถ้าหลุด 2,300 ดอลลาร์ จะกลายเป็นขาลง

 

THORChain (RUNE)

RUNE ปรับตัวขึ้น 44% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นเหรียญที่โดดเด่นในช่วงนี้ แนวโน้มระยะสั้นยังคงเป็นขาขึ้นต่อเนื่องตราบใดที่ไม่หลุดระดับ 130 บาท คาดว่าจะขึ้นทดสอบแนวต้านที่ระดับ 250 บาท

 

Immutable X (IMX)

IMX ปรับตัวขึ้น 51.3% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้แนวโน้มในภาพใหญ่ยังขาลง แต่การที่มีแรงซื้อเข้ามาที่แนวรับ 37.50 บาท อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนสู่ขาขึ้นได้ถ้าหากไม่หลุดระดับดังกล่าว แนวต้านระยะสั้นอยู่ที่ 80 บาท ผ่านไปได้จะยืนยันการกลับตัวเป็นขาขึ้น

 

---

กลยุทธ์การลงทุนประจำสัปดาห์

---

 

อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯยังคงเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่องโดยตัวเลขในเดือนกุมภาพันธ์ออกมาอยู่ที่ 7.9% แม้จะเพิ่มขึ้นแต่ยังไม่สูงไปกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ แต่ไฮไลต์สำคัญของสัปดาห์นี้อยู่ที่การประชุม FED วันที่ 15-16 มีนาคมนี้ ซึ่งการตัดสินใจที่ออกมาจะส่งผลต่อทิศทางของตลาดคริปโต

ตลาดเริ่มคาดการณ์ว่า FED จะตัดสินใจเพิ่มดอกเบี้ยเพียงแค่ 0.25% จากเดิมที่จะเพิ่มในอัตรา 0.5% ถ้าหากผลออกมาเป็นตามนี้อาจจะเป็นผลดีต่อตลาด แต่ถ้ายังเป็นการขึ้นดอกเบี้ยในอัตรา 0.5% อาจจะส่งผลลบต่อตลาดได้ แต่มีโอกาสน้อยที่จะไม่มีการขึ้นดอกเบี้ยเลยเพราะแรงกดดันจากเงินเฟ้อยังคงมีอยู่

เป็นไปได้ว่าตลาดจะแอคชั่นล่วงหน้าไปก่อนที่ผลการประชุมจะออกมา สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ต่ำยังไม่จำเป็นต้องซื้อขายแต่รอให้ทิศทางราคามีความชัดเจนก่อน โดยหาก Bitcoin ปรับตัวลงไม่หลุด 34,000 ดอลลาร์ สามารถเข้าซื้อในระดับราคานั้นได้ 

แต่ถ้าราคาปรับตัวขึ้นทะลุ 45,000 ดอลลาร์ได้อย่างต่อเนื่องก็สามารถพิจารณาเข้าซื้อตามตลาดได้เช่นกันเพราะตลาดเลือกทางแล้วว่าจะกลับเป็นขาขึ้น วิธีการดังกล่าวเป็นกลยุทธ์ที่เสี่ยงต่ำไม่ต้องคาดเดากับเหตุการณ์ที่ไม่แน่นอน

เหรียญที่ปรับตัวขึ้นเด่นในช่วงนี้มาจากปัจจัยพื้นฐานเฉพาะตัวยังไม่เห็นการปรับตัวขึ้นของเหรียญในกลุ่มไหนเป็นพิเศษเช่น กลุ่ม Metaverse และกลุ่มสมาร์ทคอนแทรก  นักเทรดต้องมองหาเหรียญที่ปรับตัวขึ้นโดดเด่นในช่วงสั้นนี้แล้วเน้นการทำกำไรระยะสั้นไปก่อน

*มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งอีเมลและเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน

 

You might also like

---

More from Crypto รายสัปดาห์

---