Bitazza Crypto Weekly: Hyper Inflation แรงผลักดัน Bitcoin สร้างจุดสูงสุดใหม่

ฉบับประจำวันที่  25 – 31 ตุลาคม 2564

ความกังวลเรื่องของอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอาจจะเป็นตัวเร่งให้นักลงทุนทั่วโลกหันมามอง Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์ที่สามารถสร้างผลตอบแทนเอาชนะเงินเฟ้อได้ โดยคำที่ Jack Dorsey ซีอีโอของ Square และ Twitter ออกมาพูดคือ Bitcoin จะสามารถเอาชนะเงินเฟ้อขั้นรุนแรง หรือ Hyper Inflation ได้

รวมถึง Paul Tudor Jones ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ระดับโลกออกมายืนยันว่า Bitcoin มีคุณสมบัติเหนือกว่าทองคำในการป้องกันผลตอบแทนที่ลดลงจากเงินเฟ้อ โดยเขาได้เริ่มลงทุนใน Bitcoin Futures ไปตั้งแต่ปี 2019 

เช่นเดียวกับนักลงทุนระดับตำนาน Carl Ichan แสดงความเห็นว่าเศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับภาวะเงินเฟ้ออย่างหนักในอนาคตจากการที่ FED พิมพ์เงินออกมาเป็นจำนวนมาก และ Bitcoin จะเป็นสินทรัพย์ที่ป้องกันภาวะเงินเฟ้อได้อย่างดี

Pantera Capital บริษัทจัดการลงทุนระดับโลกออกมาให้ความเห็นว่าหลังจากราคา Bitcoin ทำจุดสูงสุดใหม่ ตลาดขาลงที่จะตามมาหลังจากนั้นอาจจะไม่รุนแรงเท่ากับ Crypto Winter สองครั้งที่ผ่านมา โดยตัวเลขการปรับฐานจะลดน้อยลงจากการที่มีนักลงทุนสถาบันเข้ามา และจำนวนนักลงทุนในคริปโตที่เพิ่มมากขึ้น

PIMCO บริษัทจัดการลงทุนชั้นนำเตรียมเปิดรับสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นหนึ่งในสินทรัพย์การลงทุนหลังจากเริ่มต้นลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin ไปก่อนหน้านี้

DeFi Llama รายงานว่ามูลค่าเหรียญที่ล็อกไว้ใน DeFi Protocol พุ่งแตะระดับสูงสุดใหม่ที่ 240,000 ล้านดอลลาร์ โดย AAVE เป็นผู้นำอันดับหนึ่งตามมาด้วย Curve ขณะที่ WBTC ตามมาเป็นอันดับที่สี่ด้วยผลบวกจากการที่ราคา Bitcoin พุ่งทำจุดสูงสุดใหม่

Binance Smart Chain เปิดตัวฟีเจอร์ BEP-95 ที่จะมีคุณสมบัติในการเพิ่มกำลังการเผาเหรียญ BNB ทิ้งตามค่าธรรมเนียมที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกับฟีเจอร์ EIP-1559 ของ Ethereum โดยล่าสุดได้ผ่านการ Burn เหรียญประจำไตรมาสที่มากที่สุดตั้งแต่เริ่มมีการเผาเหรียญ BNB เป็นต้นมา

มูลค่าเงินที่ล็อกไว้ในเชน Solana พุ่งแตะจุดสูงสุดที่ 12,700 ล้านดอลลาร์ ตามทิศทางตลาดคริปโตที่ฟื้นตัวและราคาเหรียญ SOL กลับไปยืนเหนือ 200 ดอลลาร์ อีกครั้ง

 

 

---

วิเคราะห์กราฟเทคนิค: ประจำสัปดาห์  25 – 31 ตุลาคม 2564

---

 

Bitcoin (BTC)

BTC ปรับตัวลงหลังจากที่ขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 65,000 ดอลลาร์ เบื้องต้นจับตาที่ระดับ 60,000 ดอลลาร์ หากยังรับอยู่แนวโน้มยังเป็นออกข้างพร้อมที่จะปรับตัวขึ้นต่อ แต่ถ้าหลุดลงมาแนวรับสำคัญจะอยู่ที่ 53,000 ดอลลาร์ ที่ยังช่วยประคองแนวโน้มขาขึ้นต่อไปได้ ถ้าหลุดจากนี้ต้องชะลอลงทุนรอความชัดเจนก่อน

 

Ethereum (ETH)

ETH ขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมได้สำเร็จก่อนจะถูกเทขายลง ถ้าหากแนวรับแถว 4,000 ดอลลาร์ ยังรับได้อยู่ยังมีโอกาสขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ได้ โดยแนวรับสำคัญที่ไม่ควรหลุดต่ำกว่านี้คือ 3,360 ดอลลาร์ จับตา ETH จะเป็นเหรียญ Altcoins แรกที่เคลื่อนไหวต่อจาก BTC หรือเป็นตัวนำให้กับ Altcoins อื่นๆ

 

 

Curve Finance (CRV)

CRV กลายเป็นเหรียญ DeFi ที่เติบโตมากที่สุดตามมูลค่า TVL ที่ขึ้นมาเป็นอันดับที่สองในตลาด แนวโน้มกำลังเป็นขาขึ้นโดยมีเป้าหมายแรกที่ระดับ 144 บาท ส่วนแนวรับอยู่ที่ 112 บาท อย่างไรก็ตามราคาที่ค่อนข้างเหวี่ยงแรงทำให้ต้องรอซื้อในจังหวะย่อตัวจะปลอดภัยกว่า

Shiba Inu (SHIB)

มีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องจนสามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้ใช้ระดับราคาดังกล่าวที่ 0.00110000 บาท เป็นแนวรับสำคัญ โดยมีเป้าหมายต่อไปที่ 0.00170000 บาท อย่างไรก็ตามราคาเหรียญ SHIB มีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วถ้าจะเข้าไปเทรดต้องมีวินัยในการตัดขาดทุนให้เร็ว

 

---

กลยุทธ์การลงทุนประจำสัปดาห์

---

 

สัปดาห์หน้าจะมีการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯในวันที่ 2-3 พฤศจิกายน แต่ผลการประชุมไม่น่าจะมีผลต่อตลาดการลงทุนมากนักเพราะตลาดซึมซับข่าวที่ FED จะมีการทำ QE Tapering ไปเรียบร้อยแล้ว ยกเว้นแต่จะมีประเด็นใหม่เรื่องของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่หากมีการบ่งชี้ถึงแนวโน้มที่จะขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้นก็อาจจะมีผลลบต่อตลาดแต่ก็น่าจะเป็นเพียงระยะสั้น

Bitcoin ยังคงเป็นผู้นำตลาดมีเพียงเหรียญ Altcoin บางเหรียญที่สภาพคล่องเข้ามาซื้อขายอย่างเช่น Ethereum, BNB, Solana รวมถึง FTM ถ้าหากราคา Bitcoin เริ่มนิ่งยังสามารถเข้าไปเทรดในเหรียญเหล่านี้ได้

ส่วนเหรียญ Dogecoin และ Shiba Inu ยังต้องจับตาว่าการเก็งกำไรเข้ามาจะยังมีอย่างต่อเนื่องหรือไม่ หรือเป็นเพียงแค่ระยะสั้น แม้แนวโน้มจะเป็นขาขึ้นทั้งคู่ แต่ถ้าหมดแรงเก็งกำไรอาจจะเปลี่ยนเป็นแรงเทขายแทนจึงต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก

เหรียญสาย Smart Contract ยังคงเป็นดาวเด่นอย่างเช่น RUNE, MATIC, LUNA, AVAX ส่วนเหรียญในสายเกมส์อย่าง AXS, SLP และ SAND ยังต้องรอพัฒนาการใหม่ๆของผู้พัฒนาเกมส์ต่อไป

แม้ตลาดยังเป็นขาขึ้นแต่สภาวะยังไม่ถึงขั้นเป็น Bullish ยังมีเพียงแค่บางเหรียญที่มีการผลักดันราคาเข้ามา ถึงอย่างไรนักเทรดยังต้องมี Bitcoin และ Ethereum อยู่ในพอร์ตไว้ก่อน จากนั้นก็เข้าไปถือเหรียญที่มีแนวโน้มเติบโตในสาย Smart Contract เพื่อที่จะเก็งกำไรในช่วงตลาดขาขึ้นก่อนที่ Bitcoin จะสร้างจุดสูงสุดใหม่

มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งอีเมลและเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน

 

You might also like

---

More from Crypto รายสัปดาห์

---