Bitazza Crypto Weekly: Metaverse ปลุกกระแสเหรียญ NFT Games

ฉบับประจำวันที่ 1-7 พฤศจิกายน 2564

Facebook ยักษ์ใหญ่ด้าน Social Media เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Meta เพื่อเดินหน้าผลักดันเทคโนโลยี Metaverse อย่างเต็มตัว โดยมีการจ้างงานใหม่กว่า 10,000 คน ในยุโรปเพื่อที่จะพัฒนาแพลตฟอร์มในการรองรับการใช้งานด้าน Metaverse

โดยมีการเปิดเผยว่าจะพัฒนาเทคโนโลยีทางด้าน NFT เพื่อรองรับตลาดการซื้อขายเสมือนจริง ซึ่งสอดคล้องกับการเปิดตัวกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ Novi ก่อนหน้านี้

ผลจากการประกาศดังกล่าวทำให้เหรียญ NFT Games โดยเฉพาะ Sandbox และ Decentraland ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่รุกเข้าไปยัง Metaverse ก่อนหน้านี้ ปรับตัวขึ้นกว่า 100% รวมถึงเหรียญสาย NFT Games อื่นๆ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน

เทคโนโลยี NFT และบล็อกเชนจะมีส่วนทำให้ Metaverse มีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นจากการที่เป็นช่องทางในการชำระเงิน และทำธุรกรรมต่างๆภายในแพลตฟอร์มตลอดจนการเป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างแพลตฟอร์มต่างค่ายซึ่งมีอุปสรรคในการทำงานร่วมกันในยุคเทคโนโลยีปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม Metaverse ยังอยู่ในช่วงเพิ่งเริ่มต้นพัฒนาเฟสแรกเท่านั้น การที่ราคาเหรียญ NFT Games ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรง อาจเป็นความคาดหวังที่มาก่อนเวลาพอสมควร

MicroStrategy รายงานงบการเงินประจำไตรมาสที่สามของปีนี้มีการซื้อ Bitcoin เพิ่มอีก 8,957 BTC รวมแล้วถือครอง Bitcoin กว่า 114,000 BTC มูลค่ารวม 7,000 ล้านดอลลาร์ ราคาเฉลี่ยที่ 27,713 ดอลลาร์ โดยหากทำการขาย Bitcoin ออกไปจะมีกำไร 3,750 ล้านดอลลาร์

นายิบ บูเคเล ประธานาธิบดีแห่งประเทศเอลซัลวาดอร์กล่าวว่า รัฐบาลเอลซัลวาดอร์ได้ซื้อ Bitcoin เพิ่มอีก 420 BTC ราคาเฉลี่ย 58,900 ดอลลาร์ ใช้เงินลงทุนไป 25 ล้านดอลลาร์ ทำให้ยอดรวมเพิ่มขึ้นเป็น 1,120 BTC

Binance  เปิดเผยว่าจำนวนธุรกรรมสะสมบน Binance Smart Chain ทะลุ 1.5 พันล้านครั้งโดยใช้เวลาเพียง 14 เดือน หลังจากเปิดตัวเมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2563  ด้วยจำนวนธุรกรรมรายวันบน BSC เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 10 ล้านครั้ง โดยสถิติสูงสุดเกิดขึ้นที่ 13 ล้านครั้งในวันที่ 29 กรกฎาคม ปีนี้

Stellar ผู้พัฒนาเหรียญ XLM ประกาศใช้เหรียญ USDC ให้บริการโอนเงินระหว่างทวีปแอฟริกาและยุโรป ผ่านบริษัทเทคโนโลยี Fluttewave โดยจะใช้เหรียญ Stablecoin อย่าง USD Coin ผ่าน Stellar Network ในการอำนวยความสะดวกการทำธุรกรรมโอนเงินระหว่างภูมิภาคแอฟริกาและยุโรป

 

---

วิเคราะห์กราฟเทคนิค: ประจำสัปดาห์ 1-7 พฤศจิกายน 2564

---

 

Bitcoin (BTC)

BTC เคลื่อนตัวออกข้างในกรอบ Sideway โดยแนวรับ 60,000 ดอลลาร์ ยังคงทำหน้าที่ได้ดี แต่ยังไม่สามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้ แนวโน้มยังคงไม่กลับมาเป็นขาขึ้น ระยะสั้นซื้อขายในกรอบราคาไปก่อน จับตาแนวรับ 53,000 ดอลลาร์ หากหลุดระดับนี้อาจพลิกกลับเป็นขาลง

 

Ethereum (ETH)

ETH หลังจากขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ราคากลับมาเคลื่อนไหวแบบออกข้างตาม BTC โดยมีแนวรับสำคัญที่ 3,360 ดอลลาร์ หากยังไม่หลุดจากนี้โอกาสที่จะขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดใหม่ในเร็วๆ นี้ยังคงมีอยู่ โดยเป้าหมายแรกอยู่ที่จุดสูงสุดเดิมที่ 4,400 ดอลลาร์

 

 

Sandbox (SAND)

SAND ปรับตัวขึ้นแรงทำจุดสูงสุดใหม่และมีการย่อตัวลงมา จับตาจุดต่ำสุดเดิมที่ 48 บาท หากยังรักษาระดับนี้ได้ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อเพื่อไปให้สูงกว่าจุดสูงสุดเดิมที่ 80 บาทหรือไกลกว่านั้น การที่ราคาขึ้นมาแรง และเร็วต้องใช้ความระมัดระวังในการเทรดที่สูง

Smooth Love Potion (SLP)

SLP เป็นขาลงมาอย่างต่อเนื่องแต่ลงมาถึงระดับ 2 บาทแล้วไม่ลงต่ำกว่านี้ บ่งบอกว่าการลงอาจจะสิ้นสุดลง และเปลี่ยนแนวโน้มเป็นออกข้างไปก่อนเพื่อที่จะปรับตัวขึ้น แนวต้านแรกอยู่ที่ 2.85 บาท แต่ถ้าหลุด 2 บาท จะยังเป็นขาลงต่อต้องตัดขาดทุนออกไปก่อน

 

---

กลยุทธ์การลงทุนประจำสัปดาห์

---

 

Bitcoin ยังคงประคองตัวอยู่ในระดับเหนือ 60,000 ดอลลาร์ แม้จะยังไม่สามารถกลับไปทำจุดสูงสุดใหม่ได้ แต่ตลาดคริปโตในภาพรวมกลับมาคึกคักอีกครั้งโดย Altcoin เริ่มกลับมาสร้างผลตอบแทนที่ดีขึ้น โดยเฉพาะเหรียญสาย Smart Contract นำโดย Ethereum ที่เริ่มกลับมาสร้างจุดสูงสุดใหม่ เป็นแรงผลักดันให้เหรียญอย่าง Solana และ Luna ปรับตัวขึ้นตาม

เหรียญในสาย Smart Contract ที่น่าจับตาคือ Matic จากการที่แนวโน้มเริ่มกลับมาเป็นขาขึ้นและยังไม่กลับไปสร้างจุดสูงสุดใหม่เหมือนกับเหรียญอื่น จึงยังมี Upside ให้สามารถทำกำไรได้หากแนวโน้มยังไม่เปลี่ยนแปลง

เหรียญสาย NFT Games ที่ปรับตัวขึ้นร้อนแรงในช่วงสุดสัปดาห์จากความคาดหวังเรื่องกระแส Metaverse ถูกเทขายทำกำไรลงมา ขณะเดียวกันเหรียญในสายนี้ยังมีทิศทางที่เป็นขาขึ้นและอาจจะมีการเก็งกำไรขึ้นมาเป็นระยะ แต่ยังควรระวังความผันผวนในระดับสูงเพราะหลายๆ เหรียญยังไม่ได้พัฒนาเข้าสู่ Metaverse อย่างจริงจัง

เหรียญ Meme อย่าง SHIB และ Dogecoin ถูกเทขายลงมา จากการที่กระแสเทไปยังเหรียญ NFT Games ในส่วนของ SHIB แม้แนวโน้มยังเป็นขาขึ้นแต่เหมาะสำหรับการเก็งกำไรเท่านั้น เพราะกระแสคลั่งไคล้อาจจะหมดลงไป ส่วน Dogecoin มีแนวโน้มกลับมาเป็นขาขึ้นแต่ยังต้องจับตาแรงผลักดันที่ยั่งยืนต่อไป

ภาพรวมยังถือว่าตลาดคริปโตมีแนวโน้มที่สดใสต่อเนื่อง หากราคา Bitcoin ประคองอยู่เหนือระดับ 60,000 ดอลลาร์ ต่อไปในรูปแบบ Sideway Up เหรียญ Altcoin จะยังคงสร้างผลงานได้ดีต่อไป แต่ยังมีความเสี่ยงที่จะปรับฐานแรงได้เช่นกัน นักเทรดจึงยังต้องให้ความสำคัญกับ Money Management ต่อไป

 

มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งอีเมลและเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน

 

You might also like

---

More from Crypto รายสัปดาห์

---