Bitazza Crypto Weekly: NFT ยังเป็นทั้งโอกาสและความเสี่ยง

ฉบับประจำวันที่ 18 – 24 กรกฎาคม 2565

แม้อุตสาหกรรมคริปโตยังมั่นใจว่า NFT จะยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากในอนาคต แต่ท่ามกลางภาวะตลาดที่ซบเซาได้ส่งผลต่อความนิยมของ NFT ในปีนี้ลดลงด้วยเช่นกัน

บริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาระดับโลก VMR ประเมินมูลค่าตลาด NFT ทั่วโลกในปี 2021 ว่าอยู่ที่ 11,300 ล้านดอลลาร์ โดยคาดว่าอุตสาหกรรมนี้จะมีอัตราการเติบโต 33.7% ต่อปีในระยะเวลาอีก 8 ปีข้างหน้า ซึ่งมูลค่าของตลาด NFT จะขึ้นไปอยู่ที่ 231,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2030

นครเซี่ยงไฮ้ของจีนวางแผนส่งเสริมนวัตกรรมอย่างบล็อกเชน NFT, Metaverse และ Web3 ภายในห้าปีหลังจากนี้ โดยจะให้การสนับสนุนองค์กรที่วางแผนจะสร้างแพลตฟอร์มการซื้อขาย NFT และแปลงสินทรัพย์อื่นๆให้เป็นดิจิทัล

Devin Finzer ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ OpenSea แพลตฟอร์มซื้อขาย NFT ยักษ์ใหญ่ของโลกเปิดเผยว่าบริษัทกำลังเลิกจ้างพนักงานมากถึง 20% โดยให้เหตุผลว่าเพื่อรองรับตลาดคริปโตที่เข้าสู่ภาวะหมีและภาวะเศรษฐกิจถดถอย

Nansen เผยแพร่รายงานดัชนี NFT ไตรมาสที่สองของปี 2022 พบว่าปริมาณซื้อขาย NFT บนเชน Ethereum เดือนมิถุนายนอยู่ที่ 600,000 ETH ซึ่งเป็นตัวเลขต่ำที่สุดในรอบปีจากภาวะตลาดที่ซบเซา

Tencent ยักษ์ใหญ่ด้านอินเทอร์เน็ตของจีนทำการปิดแพลตฟอร์มซื้อขาย NFT เป็นผลสืบเนื่องมาจากนโยบายของรัฐบาลที่สั่งห้ามซื้อขาย NFT ส่วนตัวหลังผู้ใช้ทำการซื้อไปแล้ว ซึ่งทำให้ NFT ไม่สามารถทำกำไรได้มากนัก 

Celsius ได้ยื่นคำร้องขอล้มละลายตามมาตรา 11 แห่งประมวลกฎหมายสหรัฐอเมริกา แม้จะเพิ่งจะปลดหนี้ก้อนสุดท้ายที่ได้กู้ยืมจากแพลตฟอร์ม DeFi อย่าง Compound, Aave, และ Maker เป็นจำนวนรวมกว่า 820 ล้านดอลลาร์ได้สำเร็จ

Voyager Digital แพลตฟอร์มให้กู้ยืมคริปโตรายใหญ่เผยว่ายังไม่สามารถระบุวงเงินรวมที่จะจ่ายชดเชยให้กับลูกค้าได้ เพราะยังติดขัดที่มูลหนี้ 650 ล้านดอลลาร์ที่ยังต้องทวงคืนจาก Three Arrows Capital รวมถึงขั้นตอนในการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่

คณะกรรมการดูแลเสถียรภาพทางการเงิน (FSB) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลระบบการเงินของโลกที่มีประเทศในกลุ่ม G20 ร่วมเป็นสมาชิก กำลังเตรียมนำเสนอกฎระเบียบในการควบคุม Cryptocurrency และ Stablecoin ในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้

กว่า 48 โปรเจกต์คริปโตบน Terra Chain ได้มีการโยกย้ายไปยังเชนของ Polygon และล่าสุด Polygon ยังเป็นหนึ่งใน 6 บริษัทที่ได้รับเลือกให้เข้าร่วมในโครงการ Accelerator ปี 2022 ของ ดิสนีย์ ซึ่งเป็นโครงการสนับสนุนทางด้านนวัตกรรมระดับโลก

นักวิเคราะห์ของ JPMorgan Chase คาดการณ์ว่าต้นทุนการผลิตของ Bitcoin ลดลงเหลือประมาณ 13,000 ดอลลาร์ ซึ่งลดลงจากระดับ 20,000 ดอลลาร์ในช่วงต้นเดือนมิถุนายน เป็นผลมาจากอัตราการใช้ไฟฟ้าที่ลดลง แต่เป็นการส่งสัญญาณว่าราคา Bitcoin ยังสามารถปรับตัวลงได้อีก

 

---

วิเคราะห์กราฟเทคนิคประจำสัปดาห์  18 – 24 กรกฎาคม 2565

---

Bitcoin (BTC)

ยังไม่สามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้แม้จะไม่มีการทำจุดต่ำสุดใหม่ทำให้แนวโน้มยังคงเคลื่อนไหวแบบ Sideway โดยแนวต้านแรกที่ต้องผ่านให้ได้คือ 22,500 ดอลลาร์ จะเป็นการ Breakout กรอบชาแนลขาลงได้สำเร็จจากนั้นต้องผ่านแนวต้านสำคัญที่ 25,000 ดอลลาร์ ถึงจะพลิกกลับเป็นขาขึ้น โดยแนวรับแรกอยู่ที่ 19,000 ดอลลาร์

 

Ethereum (ETH)

ETH เริ่มที่จะสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่า BTC โดยระยะสั้นสามารถกลับมาเป็นขาขึ้นได้โดยมีแนวรับระยะสั้นที่ 1,000 ดอลลาร์ ไม่หลุดจากนี้ยังสามารถขึ้นได้ต่อ แต่ถ้าหลุดลงมาอาจต้องชะลอการลงทุนไปก่อน ขณะที่แนวต้านต่อไปที่ 1,700 ดอลลาร์ ถ้าผ่านจุดนี้ไปได้จะยิ่งเพิ่มความน่าจะเป็นในการกลับมาเป็นขาขึ้น

 

Curve Finance (CRV)

CRV ปรับตัวเพิ่มขึ้น 20.6% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา แนวโน้มยังคงเป็นขาขึ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว โดยมีแนวรับระยะสั้นที่ 36 บาทและแนวรับสำคัญที่ 30 บาท หากยังไม่หลุดจากตรงนี้แนวโน้มยังเป็นขาขึ้น ส่วนเป้าหมายแนวต้านต่อไปอยู่ที่ 50 บาท กลยุทธ์ยังคงเป็นการซื้อเมื่อย่อตัว

 

Polygon (MATIC)

MATIC ปรับตัวเพิ่มขึ้น 39.1% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ระยะสั้นสามารถพลิกกลับเป็นขาขึ้นได้แล้วจากการมีสตอรี่หนุนอย่างต่อเนื่อง โดยมีแนวรับระยะสั้นที่ 26 บาทและแนวรับสำคัญที่ 22 บาท ถ้าไม่หลุดจากราคานี้แนวโน้มยังขึ้นได้ต่อโดยมีแนวต้านต่อไปที่ระดับ 36 บาท

 

---

กลยุทธ์การลงทุนประจำสัปดาห์

---

 

ดัชนี Dollar Index แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องสร้างสถิติใหม่ แต่ราคา Bitcoin ยังคงเคลื่อนไหวแบบ Sideway ไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่อาจเป็นการส่งสัญญาณว่าเริ่มต้านทานกับค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าได้มากขึ้น

อย่างไรก็ตามต้องติดตามกันต่อไปว่าหลังจากเงินเฟ้อสหรัฐฯพุ่งทำสถิติใหม่ที่ 9.1% แล้ว FED จะดำเนินนโยบายอย่างไรต่อไป ตอนนี้เริ่มมีการพูดถึงการขึ้นดอกเบี้ยรวดเดียว 1% ขึ้นแล้ว ซึ่งการประชุมจะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้ารวมถึงการประกาศตัวเลขจีดีพีของสหรัฐฯ 

ทั้งนี้การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาออกมาค่อยข้างที่จะแข็งแกร่ง แต่ยังต้องลุ้นว่าสุดท้ายแล้วเศรษฐกิจของสหรัฐฯจะเข้าสู่ภาวะ Recession จริงตามคาดหรือไม่ ซึ่งหากเกิดขึ้นก็จะช่วยลดความกดดันที่ FED จะเร่งขึ้นดอกเบี้ยลงซึ่งจะส่งผลดีต่อ Bitcoin 

Altcoin หลายเหรียญเริ่มที่จะสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่า Bitcoin ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยเฉพาะเหรียญสาย Smart Contract ที่มีสตอรี่หนุนอย่าง Ethereum ที่มีอัพเดตใหม่เรื่องการอัพเกรดเวอร์ชั่นและ Matic ที่มีข่าวว่าโปรเจกต์จาก Terra ย้ายเข้ามา  เป็นทางเลือกในการเทรดช่วงที่ Bitcoin เคลื่อนไหวแบบ Sideway รอการประชุม FED ช่วงสัปดาห์หน้า

*มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งอีเมลและเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน

 

You might also like

---

More from Crypto รายสัปดาห์

---