นักวิเคราะห์ VanEck ได้เพิ่มประมาณการณ์ราคา Ethereum ในปี 2573 อยู่ที่ 22,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดยปัจจัยหนุนมาจากการตั้ง Spot Ethereum ETF ที่ทำให้นักลงทุนในตลาดหุ้นเข้าถึงการลงทุนคริปโทเคอร์เรนซีผ่าน ETF ได้ รวมถึงการใช้งาน on chain ของ Ethereum ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
K33 Research ประเมินว่า Spot Ethereum ETF ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะสามารถดึงเม็ดเงินเข้าสุทธิระหว่าง 3,100-4,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 5 เดือนแรกหลังจากเปิดให้ซื้อขายในตลาดหุ้น โดยเปรียบเทียบกับขนาดตลาด Bitcoin เหรียญแรกที่มี spot ETF
รายงานจาก CCData ระบุว่า ปริมาณการซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีในกลุ่ม centralize exchange (CEX) ลดลง 20% ในเดือนพฤษภาคม แต่ปริมาณการซื้อขายฟิวเจอร์ส ETH เพิ่มขึ้นอย่างมาก หลังจาก ก.ล.ต. สหรัฐฯ อนุมัติ Spot Ethereum ETF โดยปริมาณเทรดในตลาดซื้อขายอนุพันธ์ CME เพิ่มขึ้น 37.5% สูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564 และการซื้อขายออปชันเพิ่มขึ้น 115% ราว 931 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
iShares Bitcoin Trust (IBIT) ของ Blackrock มีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (assets under management – AUM) 302,534 BTC หลังจากเปิดการซื้อขายมาเป็นเวลา 5 เดือนโดยแซงหน้า AUM ของ Grayscale Bitcoin Trust ETF (GBTC) จาก Grayscale ไปแล้ว ส่วนภาพรวมการถือครอง Bitcoin ของ spot ETF ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ รวมทั้งสิ้น 883,000 BTC คิดเป็นมูลค่า 63,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 4.2% ของซัปพลาย Bitcoin ทั้งหมด
มูลค่ารวมที่ถูกล็อก (Total Value Locked – TVL) ในกลุ่ม decentralized finance (DeFi) สูงแตะ 192,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐในเดือนพฤษภาคม เป็นมูลค่าสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2565 แม้ว่า TVL จะเพิ่มขึ้น แต่จำนวนวอลเล็ตที่ใช้ไม่ซ้ำกัน (unique active wallets – UAW) บน DeFi ลดลง 21% โดยเชน Ethereum ครองสัดส่วน 68% ส่วน Solana มาเป็นอันดับ 2
Jenny Johnson CEO จาก Franklin Templeton เชื่อว่า การลงทุนใน Bitcoin ของนักลงทุนสถาบันยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น และเม็ดเงินจากสถาบันการเงินขนาดใหญ่ยังไม่ถูกนำไปใช้กับคริปโทเคอร์เรนซีอย่างเต็มที่ ตอนนี้นักลงทุนสถาบันมีความมั่นใจใน Bitcoin มากขึ้น
Franklin Templeton กำลังพิจารณาที่จะตั้งกองทุนสำหรับโทเคนอื่น ๆ นอกเหนือจาก Bitcoin และ Ethereum โดยกำลังพิจารณาเสนอผลตอบแทนจากการวางสเตก (staking) เป็นส่วนหนึ่งของผลตอบแทนกองทุน โดยบริษัทนี้เป็นผู้จัดการ spot ETF ทั้ง Bitcoin และ Ethereum
วิเคราะห์กราฟเทคนิคประจำสัปดาห์ 11-17 มิถุนายน 2567
Bitcoin (BTC)
BTC ยังมีแนวโน้มขาขึ้นไซด์เวย์ แม้จะยังไม่สามารถผ่านแนวต้านที่ 72,000 ดอลลาร์สหรัฐได้ แต่ราคายังไม่ลงมาทำจุดต่ำสุดใหม่ มองว่าราคาเคลื่อนไหวไม่มีทิศทาง เพื่อรอความชัดเจนของนโยบายการเงินในวันพุธนี้ แนวรับอยู่ที่ระดับ 65,000 ดอลลาร์สหรัฐ ถ้าหากสามารถผ่านแนวต้าน 72,000 ดอลลาร์สหรัฐได้ จะขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดเดิม 74,000 ดอลลาร์สหรัฐ
- แนวรับ 2,440,000 บาท / 65,000 USD
- แนวต้าน 2,640,000 บาท / 74,000 USD
Ethereum (ETH)
ETH เคลื่อนไหวแบบไซด์เวย์ หลังยังไม่มีความคืบหน้าของการอนุมัติซื้อขาย Spot Ethereum ETF มองว่ายังต้องใช้เวลาพอสมควรในการพิจารณา กลยุทธ์การเทรดยังต้องเน้นซื้อขายในกรอบราคาไปก่อน โดยมีแนวรับที่ 3,500 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนแนวต้านเป้าหมายอยู่ที่ 4,000 ดอลลาร์สหรัฐ
- แนวรับ 130,000 บาท / 3,500 USD
- แนวต้าน 145,000 บาท / 4,000 USD
Stacks (STX)
STX ปรับตัวเพิ่มขึ้น 18.63% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา แนวโน้มกำลังปรับตัวเป็นขาขึ้น จังหวะที่ราคาย่อตัวลงมาเป็นจังหวะในการเข้าซื้อ แนวรับแรกอยู่ที่ 1.80 ดอลลาร์สหรัฐ ถ้าไม่หลุดจากระดับนี้สามารถขายทำกำไรระยะสั้นที่จุดสูงสุดเดิม 2.60 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ถ้าหลุดให้ขายตัดขาดทุนไปก่อน
- แนวรับ 78 บาท / 1.80 USD
- แนวต้าน 92 บาท / 2.60 USD
Binance (BNB)
BNB ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.33% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาสามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้ก่อนที่จะย่อตัวลงมา แนวรับที่สามารถเข้าซื้อได้ที่ 630 ดอลลาร์สหรัฐ เป้าหมายระยะสั้นขายทำกำไรได้ที่แนวต้านเดิม 720 ดอลลาร์สหรัฐ แนวโน้มหลักยังเป็นขาขึ้นที่แข็งแกร่ง
- แนวรับ 22,800 บาท / 630 USD
- แนวต้าน 26,400 บาท / 720 USD
กลยุทธ์การลงทุนประจำสัปดาห์
ตัวเลข Non Farm Payroll ออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ขณะที่อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับมาแข็งค่าอย่างรวดเร็วทำให้ Bitcoin มีการปรับฐานลงมา แต่แนวโน้มทางเทคนิคยังถือว่า ราคาไม่ได้ลดลงมากนัก
สัปดาห์นี้มีไฮไลต์สำคัญคือ การประกาศตัวเลข Consumer Price Index (CPI) เดือนพฤษภาคมในวันพุธนี้ ตลาดคาดว่า จะออกมาที่ 3.5% ลดลงจากครั้งก่อนที่ 3.6% และวันเดียวกันยังมีการแถลงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน แม้ตลาดยังมองว่า จะยังคงดอกเบี้ยตามคาดการณ์เดิม แต่ถ้าเงินเฟ้อออกมาลดลง อาจจะมีความเห็นของกรรมการที่ไปในทางของการลดดอกเบี้ยซึ่งจะส่งผลดีต่อตลาด โดย FED Fund Rate เริ่มมองโอกาส 50% ที่จะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายนนี้
ปัจจัยบวกต่อตลาดคริปโทเคอร์เรนซีคือ เม็ดเงินไหลเข้าใน Spot Bitcoin ETF อยู่ที่ 15,620 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ณ 10 มิถุนายน 2567) ช่วยหนุนราคา Bitcoin ได้ต่อเนื่อง ขณะที่ดัชนี Total3 ที่แสดงถึงราคาเหรียญทางเลือก (altcoin) แม้ว่าจะปรับตัวลง แต่แนวโน้มยังเป็นขาขึ้น ยังสามารถคาดหวังได้ถึงฤดูกาลขาขึ้นของเหรียญกลุ่มนี้ที่จะตามมา
จับตาเหรียญ altcoin มาร์เก็ตแคปใหญ่มีโอกาสที่จะเกิดแรงซื้อเข้ามาก่อน อย่างเช่น Binance ที่ทำจุดสูงสุดใหม่ไปแล้ว โดยกลุ่มที่เป็นเป้าหมายคือ กลุ่ม Blockchain Layer 1
แหล่งอ้างอิง:
- https://www.theblock.co/post/298745/vaneck-analysts-raise-ethereum-price-target-to-22000-by-2030
- https://www.theblock.co/post/298440/spot-ethereum-etfs-1-million-eth
- https://cointelegraph.com/news/centralized-crypto-exchange-trading-volume-may
- https://www.theblock.co/post/299073/blackrocks-spot-bitcoin-etf-surpasses-300000-btc-in-assets-under-management
- https://cointelegraph.com/news/defi-tvl-192-billion-first-time-15-months-dappradar
- https://cointelegraph.com/news/franklin-templeton-ceo-bitcoin-investment
- https://www.theblock.co/post/298958/franklin-templeton-exploring-crypto-fund-for-tokens-other-than-bitcoin-and-ether-report
คำเตือน:
– คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
– ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต
*มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งอีเมลและเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน
You might also like
More from Crypto รายสัปดาห์
ราคา Bitcoin ไปทางไหน หลังจาก Mt. Gox คืน Bitcoin ให้กับเจ้าหนี้
Mt. Gox ประกาศว่า ได้เริ่มชำระ Bitcoin คืนให้กับเจ้าหนี้แล้ว หลังจากที่เว็บเทรดมีปัญหามานานกว่า 10 ปี โดยจะทำการคืนเป็น Bitcoin และ Bitcoin Cash ผ่านทางตลาดรอง (exchange) ที่เป็นพันธมิตร 5 ราย ได้แก่ Bitbank, …
เหรียญมีมมาแรง! สร้างผลตอบแทนสูงสุดครึ่งปีแรก 2567
ข้อมูลจาก BitEye, CoinGecko และ Wu Blockchain ระบุว่า เหรียญมีม (meme coin) สร้างผลตอบแทนสูงสุดในช่วงครึ่งปีแรก 2567 ที่ 1,834% ส่วนอันดับที่ 2 คือ โทเคนกลุ่ม RWA (real-world …
ปริมาณ BTC น้อยสุดใน 3 ปี ด้านสถาบันรอไฟเขียวแจ้งเกิด ETH ETF
CryptoQuant เปิดเผยว่าจำนวน Bitcoin ในตลาดรอง (exchange) อยู่ที่ 2,825,703 BTC ลดลงจากช่วงเดือนมกราคม 2567 อยู่ที่ประมาณ 3,039,000 BTC นับว่า ปริมาณลดลงมากที่สุดในรอบ 3 ปี ขณะที่ Coinshares เปิดเผยว่า …