Bitazza Crypto Weekly: โปรโตคอล DeFi ทะยอยอัปเกรดเวอร์ชั่นใหม่ดันตลาดฟื้นตัว

ฉบับประจำวันที่ 24-30 กรกฎาคม 2566

Uniswap เปิดตัวโปรโตคอลใหม่ UniswapX ซึ่งเป็น ศูนย์ซื้อขายแลกเปลี่ยนแบบกระจายศูนย์ (DEX) ที่เข้ามาแก้ไขปัญหาในเรื่องของสภาพคล่องการซื้อขาย รวมถึงไม่มีค่าธรรมเนียมการ Swap นอกจากนี้ยังให้ราคาซื้อขายที่ดีขึ้น และในอนาคต UniswapX จะขยายไปสู่ cross-chain swap แบบไม่ใช้ค่าธรรมเนียม

Aave Protocol เปิดตัวเหรียญสเตเบิลคอยน์ในรูปแบบ DeFi ชื่อ GHO สเตเบิลคอยน์บนเครือข่ายหลักของ Ethereum หลังผ่านการลงมติจากผู้ถือโทเคน โดยกลไกการสร้างเหรียญ GHO จะใช้เหรียญ ETH มาค้ำประกันแบบ Over-collateralized

Liquid staking ขึ้นมาเป็นโปรโตคอลส่วนแบ่งอันดับหนึ่งของการวางสเตกเหรียญ ETH ในแง่ของมูลค่ารวมของปริมาณสินทรัพย์ที่ถูกล็อค (TVL) โดยอันดับที่สองอยู่ในแพลตฟอร์มศูนย์ซื้อขายแลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์ (CEX) นอกจากนี้แนวโน้มของ liquid staking ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง จนมีโอกาสขึ้นมาเป็น DeFi Protocol อันดับหนึ่ง

CoinGecko รายงานปริมาณซื้อขายใน DEX สิบอันดับแรกมีมูลค่ารวม 155,000 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาสสองปีนี้ ลดลงกว่า 30% ในไตรมาสแรก แต่ยังเป็นการลดลงที่น้อยกว่าปริมาณใน CEX ที่ลดลง 43% โดย Uniswap ยังคงครองอันดับหนึ่งในโปรโตคอล DEX

Yat Siu ผู้ร่วมก่อตั้ง Animoca Band เชื่อว่าฮ่องกงได้รับไฟเขียวจากรัฐบาลจีน ในเรื่องการยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลและเชื่อว่าสุดท้ายแล้วประเทศจีนจะต้องตั้งงบประมาณเพื่อพัฒนาเทคโนโลยี Web3 ในที่สุด ซึ่งจะทำให้จีนมีโอกาสแซงหน้าสหรัฐฯในเทคโนโลยีดังกล่าว

ปริมาณการซื้อขายรายวันของ Grayscale Bitcoin Trust หรือ GBTC ของ Grayscale พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดของปี ในวันที่ 13 กรกฎาคม โดยอยู่ที่ 183 ล้านดอลลาร์ คาดมาจากการที่สถาบันการเงินชั้นนำต่างๆ ยื่นขอจัดตั้ง Bitcoin ETF

ข้อมูลของ CoinShares พบว่าเดือนที่ผ่านมากองทุนที่ลงทุนในคริปโตมีกระแสเงินลงทุนไหลเข้ากว่า 742 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นการไหลเข้าของเม็ดเงินที่มากที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสที่สี่ของปี 2021 ส่วนหนึ่งอาจมาจากการที่ Ripple ชนะคดีที่มีต่อ ก.ล.ต.สหรัฐฯ โดย Bitcoin เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีเม็ดเงินไหลเข้ามากที่สุดถึง 99%

IntoTheBlock บริษัทวิเคราะห์ด้านบล็อกเชน เปิดเผยว่าประมาณ 29% ของ Bitcoin ทั้งหมดในปัจจุบัน ไม่มีการเคลื่อนไหวมากว่า 5 ปี และอาจเป็นไปได้ว่าเสียรหัสการเข้าถึง Wallet ไปแล้ว รวมถึงรายงานล่าสุดของ Bitfinex เปิดเผยว่าจำนวน BTC ที่ยังไม่เคลื่อนไหวได้แตะระดับสูงสุดใหม่ตลอดกาล

Tesla รายงานงบการเงินไตรมาสสองไม่มีรายการซื้อขาย Bitcoin และต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่สี่ติดต่อกัน ปัจจุบันบริษัทถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลรวม 184 ล้านดอลลาร์ โดย Tesla เริ่มเข้าซื้อ Bitcoin มาตั้งแต่ต้นปี 2021 โดยใช้เงินไป 1,500 ล้านดอลลาร์ ก่อนจะทะยอยขายไปกว่า 75% หรือ 30,000 BTC

 

---

วิเคราะห์กราฟเทคนิคประจำสัปดาห์ 24-30 กรกฎาคม 2566

---

Bitcoin (BTC)

BTC ราคาซึมลงขาดปัจจัยสนับสนุนใหม่เข้ามา ระยะหลังราคา BTC มีความสัมพันธ์กับเศรษฐกิจมหภาคลดลงโดยเกี่ยวข้องกับปัจจัยเฉพาะอุตสาหกรรมคริปโตอย่างเดียว อย่างไรก็ตาม ก.ล.ต.สหรัฐฯเริ่มพิจารณาการอนุมัติ Bitcoin ETF แล้วอาจทำให้เริ่มมีแรงเก็งกำไรเข้ามา แนวรับ 1,000,000 บาท แนวต้าน : 1,112,000 บาท

 

Ethereum (ETH)

ETH ค่อนข้าง Underperform ตลาดจากการที่มูลค่าธุรกรรมในเชนลดลงจากผู้ใช้งานย้ายไปใช้ Blockchain Layer2 มากขึ้น อย่างไรก็ตามยังมีผู้เล่นในตลาดที่มั่นใจในพื้นฐานระยะยาววางสเตกเหรียญ ETH มากขึ้นเช่นกัน โดยมีแนวโน้มเทรดในกรอบแคบ แนวรับ 63,000 บาท แนวต้าน 70,000 บาท

 

Chainlink (LINK)

LINK ปรับตัวเพิ่มขึ้น 14.3% ในสัปดาห์ที่ผ่าน ราคามีการย่อตัวลงสามารถตลาดอาจใช้แนวรับสำคัญเป็นจุดซื้อได้โดยแนวรับแรกอยู่ที่ราคา 252 บาท ถ้าหากราคายืนได้ต่อเนื่องตลาดอาจรอขายทำกำไรระยะสั้นที่แนวต้านเดิม 288 บาท แต่ถ้าหลุดแนวรับตลาดอาจตัดขาดทุน

 

Stellar (XLM)

XLM ปรับตัวเพิ่มขึ้น 60% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ฟื้นตัวหลังจากถูกเทขายไปช่วงที่ปรับตัวขึ้นพร้อมกับ XRP โดยตลาดอาจใช้แนวรับที่ 4.8 บาทเป็นจุดเข้าซื้อแรก ถ้ารับอยู่ราคามีโอกาสขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ 6.2 บาท โดยราคาค่อนข้างผันผวนตลาดอาจรอเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัว

---

กลยุทธ์การลงทุนประจำสัปดาห์

---

ตลาดในภาพรวมยังถือว่าไม่เปลี่ยนแปลงมากนักโดยเฉพาะ Bitcoin ที่ยังคงเคลื่อนไหวแบบ Sideway มีเพียงเหรียญในกลุ่ม DeFi ที่มีปัจจัยหนุนอย่างเช่น SNX AAVE ที่สลับกันมีแรงเก็งกำไรเข้ามา รวมถึงสองเหรียญที่พุ่งแรงก่อนหน้านี้อย่าง XRP และ XLM ที่ยังมีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่อง

ไฮไลท์สำคัญของสัปดาห์นี้อยู่ในวันพุธที่ 26 กรกฎาคมจะมีการเปิดเผยผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ตลาดยังคาดด้วยความเป็นไปได้ 90% ว่า FED ยังคงขึ้นดอกเบี้ยอัตรา 0.25% ตามแผนเดิมแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อล่าสุดจะลดลงกว่าคาดแล้วก็ตาม

รวมถึงวันพฤหัสฯ ที่ 27 กรกฎาคม จะมีการเปิดเผยคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯไตรมาสสองครั้งที่ 1 ตลาดคาดว่าจะออกมาเติบโต 1.8% ลดลงจากไตรมาสแรกที่เติบโต 2.0% ตลาดจับตาเศรษฐกิจสหรัฐฯจะเข้าสู่ภาวะถดถอยหรือไม่

อย่างไรก็ตามในช่วงสองเดือนหลังมานี้ค่าความสัมพันธ์ระหว่าง Bitcoin กับดัชนีทางเศรษฐกิจอื่นๆโดยเฉพาะค่าเงินดอลลาร์แทบจะมีน้อยมาก กล่าวคือราคา Bitcoin เคลื่อนไหวตามปัจจัยเฉพาะของอุตสาหกรรมคริปโตเป็นหลักโดยเฉพาะประเด็นกฎระเบียบต่างๆของ ก.ล.ต. สหรัฐฯ

คำเตือน:
– คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
– ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต

*มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งอีเมลและเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน

 

More from Crypto รายสัปดาห์

---