Bitazza Crypto Weekly: อนาคตของการชำระเงินด้วยสเตเบิลคอยน์

ฉบับประจำวันที่ 6-12 กุมภาพันธ์ 2566

Twitter กำลังพัฒนาระบบชำระเงินรูปแบบใหม่และอยู่ระหว่างดำเนินการขอใบอนุญาตเพื่อให้บริการแก่ผู้ใช้งานทั่วทั้งสหรัฐฯ โดยมุ่งเน้นใช้งานผ่านระบบการเงินดั้งเดิมเป็นหลักแต่ก็จะมีการเตรียมโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคตครอบคลุมทั้งบริการรับส่งเงินระหว่างบุคคล รวมไปถึงการออกบัตรเดบิตและบัตรเครดิต เพื่อยกระดับ Twitter ไปสู่การเป็น Super App

หัวหน้าแผนกคริปโตของ Visa เผยว่าบริษัทฯมีแผนที่จะเปิดให้ผู้ใช้งานสามารถแปลงคริปโตในรูปแบบของ สเตเบิลคอยน์ เป็นเงินเฟียตภายใต้แพลตฟอร์มของ Visa ได้โดยจะเริ่มจากเหรียญ USDC บนเชนของ Ethereum โดยบริษัทฯยังคงนโยบายสนับสนุนการชำระเงินระหว่างคริปโตและสกุลเงินเฟียต 

Cardano เปิดตัว สเตเบิลคอยน์ใหม่อย่าง DJED โดยเป็นผลิตภัณฑ์ของ Coti ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโซลูชัน DeFi บนบล็อกเชนของ Cardano โดย สเตเบิลคอยน์ ดังกล่าวจะตรึงมูลค่ากับเงินดอลลาร์สหรัฐฯและต้องใช้เหรียญ ADA และ SHEN มาค้ำประกันในการสร้างเหรียญ DJED สัดส่วน 400% 

บริษัทเทคโนโลยีทางการเงินของฟินแลนด์ Membrane Finance เปิดตัว สเตเบิลคอยน์ที่มีชื่อว่า “EUROe” โดยมีเงินยูโรค้ำประกันอยู่ในอัตราส่วน 1:1 ทำงานบนบล็อกเชนของ Ethereum สามารถซื้อได้ที่กระดานเทรด Uniswap วางแผนในอนาคตที่จะขยายไปยังบล็อกเชนอื่นๆ เช่น Solana, Polygon และ Abritrum

MicroStrategy  เปิดเผยผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของปี 2022 มีผลขาดทุน 197.6 ล้านดอลลาร์จากค่าเสื่อมราคาของ Bitcoin ที่ได้ลงทุนไป โดยไตรมาสที่แล้ว ได้ขาย Bitcoin ประมาณ 704 BTC รับเงินสด 11.8 ล้านดอลลาร์ รวมแล้วบริษัทถือครอง Bitcoin จำนวน 132,500 BTC คิดเป็นมูลค่าทางบัญชี 2,150 ล้านดอลลาร์ จากต้นทุน 4,000 ล้านดอลลาร์ ที่ได้เริ่มซื้อมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020

จำนวนอุปทานเหรียญ ETH ที่หมุนเวียนในตลาดรองล่าสุดอยู่ที่ 120.5 ล้าน ETH ถือเป็นระดับต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่อัปเกรด The Merge ผ่านมาแล้ว​ 140 วัน เป็นผลมาจากมีการจ่ายค่า Gas เพื่อทำธุรกรรมมากขึ้นทำให้มีเหรียญ ETH ที่ถูกเผาออกไปมากขึ้น

DappRadar สรุปการเติบโตของ DeFi ในเดือนมกราคมมีสินทรัพย์ที่นำมาวางสเตกไว้เป็นมูลค่า 74,600 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 26% จากเดือนธันวาคม โดยเชน Optimism โดดเด่นที่สุด ขณะที่ NFT มีปริมาณการซื้อขาย 946 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 38% เมื่อเทียบเดือนต่อเดือน และเป็นปริมาณการซื้อขายสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2022

---

วิเคราะห์กราฟเทคนิคประจำสัปดาห์  29 มกราคม – 5 กุมภาพันธ์ 2566

---

Bitcoin (BTC)

BTC มีการย่อตัวลงในสัปดาห์ที่ผ่านมาแต่ยังไม่ทำให้ทิศทางขาขึ้นเสียไป จับตาแนวรับที่ 21,500 ดอลลาร์ ถ้าหากสัปดาห์นี้ยังปรับฐานต่อและถ้ายืนอยู่ได้อาจมีแนวโน้มเป็นโอกาสที่ตลาดจะเข้าซื้อเพื่อมุ่งหวังเป้าหมายระยะกลางที่ 25,000 ดอลลาร์

 

Ethereum (ETH)

ETH เคลื่อนไหวแบบ Sideway ในสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยยังไม่ผ่านแนวต้านระยะสั้นที่ 1,700 ดอลลาร์ แต่ถ้าไม่หลุดระดับ 1,400 ดอลลาร์ อาจมีโอกาสในการฟื้นตัวต่อไปโดยมีเป้าหมายระยะกลางที่ระดับ 2,000 ดอลลาร์

 

The Graph (GRT)

GRT ปรับตัวเพิ่มขึ้น 44% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยสามารถผ่านแนวต้านสำคัญที่ 3.8 บาทมาได้ ระดับราคานี้จึงมีแนวโน้มกลายเป็นแนวรับสำคัญต่อไปที่จะรักษาแนวโน้มการกลับตัว โดยมีเป้าหมายระยะกลางที่แนวต้าน 5.4 บาท แต่ต้องระวังการย่อตัวแรงเนื่องจากราคาขึ้นมาค่อนข้างเร็ว

 

Fuse Network (FUSE)

FUSE ปรับตัวเพิ่มขึ้น 37.6% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามราคาที่ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างเร็วทำให้ต้องใช้ความระมัดระวังในการเทรด โดยจับตาที่แนวรับ 3 บาท ถ้าไม่หลุดจากระดับนี้อาจมีแนวโน้มที่สามารถปรับตัวขึ้นต่อได้โดยมีแนวต้านต่อไปที่ระดับ 4.2 บาท

---

กลยุทธ์การลงทุนประจำสัปดาห์

---

ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯออกมาเป็นไปตามที่ตลาดคาดคือมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% และตลาดการลงทุนตอบรับในเชิงบวก แม้ว่าประธาน FED จะยืนยันว่าปีนี้จะยังไม่มีการลดดอกเบี้ยเพื่อที่จะเอาชนะเงินเฟ้อ แต่ตลาดโดยรวมยังคงคาดการณ์ว่าอาจจะเริ่มลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายน

อย่างไรก็ตามการประกาศตัวเลข Non Farm Payroll ในคืนวันศุกร์ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ จึงทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว และกระทบต่อตลาดทองคำและตลาดหุ้นให้ปรับตัวลง ส่วน Bitcoin มีการย่อตัวลงเช่นกันและการกลับมาแข็งค่าของเงินดอลลาร์อาจจะกดดันและมีผลอย่างมีนัยยะสำคัญต่อตลาดคริปโตในสัปดาห์นี้

ประธาน FED จะมีกำหนดการขึ้นกล่าวนโยบายการเงินอีกครั้งในวันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ ซึ่งน่าจะทำให้ตลาดผันผวนอีกครั้งรวมถึงวันพฤหัสฯที่ 9 กุมภาพันธ์ จะมีการเปิดเผยตัวเลข Initial Jobless Claim ซึ่งหากตัวเลขที่เปิดเผยออกมาลดลงย่อมแสดงให้เห็นถึงภาพรวมเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังแข็งแกร่งและย่อมทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นด้วย ปัจจัยนี้จึงอาจส่งผลลบต่อ Bitcoin ได้

สัปดาห์ที่จะถึงนี้ยังคงมีการประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยไม่มีหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่เหมือนกับสัปดาห์ที่แล้วโดยจะเป็นหุ้นเทคโนโลยีขนาดกลางและธุรกิจดั้งเดิมซึ่งอาจจะไม่ได้ส่งผลต่อตลาดคริปโตมากนัก แต่ถ้าภาพรวมผลประกอบการของหุ้นในตลาดสหรัฐฯ ออกมาในเชิงลบก็ย่อมอาจส่งผลกระทบต่อตลาดคริปโตได้เช่นกัน

จากสถิติระบุว่าเดือนกุมภาพันธ์จะเป็นเดือนที่ดีของ Bitcoin โดย 8 ปีย้อนหลังจะมีผลขาดทุนแค่ครั้งเดียว แต่ยังต้องจับตาภาวะเศรษฐกิจมหภาคอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อเดือนมกราคมในวันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ ถ้าหากออกมาลดลงต่อเนื่องก็จะส่งผลบวกต่อตลาดคริปโต

คำเตือน:
– คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
– ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต

*มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งอีเมลและเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน

Sources:

https://cryptopotato.com/dapp-industry-thrives-despite-crypto-winter-dappradar/

https://www.theblock.co/post/196369/polygons-next-web3-play-is-an-nft-debit-card

https://cointelegraph.com/news/animoca-brands-is-the-most-funded-metaverse-developer-in-2022-nasdaq

https://cointelegraph.com/news/brazilian-president-signs-crypto-bill-into-law

https://www.coindesk.com/business/2022/12/21/core-scientific-one-of-the-largest-bitcoin-miners-files-for-bankruptcy-protection/?utm_content=editorial&utm_term=organic&utm_source=twitter&utm_medium=social&utm_campaign=coindesk_main

https://cryptopotato.com/nearly-60-of-nft-trading-volumes-in-2022-was-wash-trading-report/

 

 

More from Crypto รายสัปดาห์

---