หลังจากที่ The Merge การอัปเกรดครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Ethereum ได้จบลงไปแล้ว ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนจากระบบ Proof-of-work (PoW) เป็น Proof-of-stake (PoS) ที่ส่งผลให้การประมวลผลธุรกรรมไวขึ้นและลดค่าธรรมเนียมลง แต่นี้ยังห่างไกลกับแผนการอัปเกรด Ethereum 2.0 ที่ Vitalik Buterin ผู้ก่อตั้ง Ethereum มองไว้
ตามที่ Vitalik กล่าวถึง Blockchain Trilema หรือ อุปสรรคทั้ง 3 ของการยอมรับและใช้บล็อกเชนในวงกว้าง ได้แก่การกระจายศูนย์, ความปลอดภัย และความสามารถในการขยายเครือข่าย โดยหลังจาก The Merge ยังมีอัปเกรดขั้นตอนตอนสุดท้ายรออยู่นั่นก็คือ “Sharding”
Sharding คืออะไร?
Sharding คือกระบวนการเก็บข้อมูลที่แบ่งแพคเกจข้อมูลให้เป็นหน่วยเล็กลง เพื่อจะได้ประมวลผลแต่ละกลุ่มไปได้พร้อมๆกัน ลองนึกภาพแบ่งผู้คนออกไปอยู่ตามเกาะต่างๆเป็นพันเกาะ ทุกเกาะสามารถจัดการตัวเองได้ แต่หากจะติดต่อกันข้ามเกาะก็อาจจะต้องใช้กฎบางอย่าง ซึ่งทำให้เครือข่ายรองรับผู้ใช้งานและธุรกรรมที่มากขึ้นได้
Sharding จะเข้ามาช่วย Ethereum เรื่องความสามารถในการขยายเครือข่ายและความปลอดภัย คาดว่าจะทำให้ระบบจะมีความเร็วกว่าเดิมถึง 100 เท่า ซึ่งจะทำให้ Ethereum สามารถประมวลผลธุรกรรมได้มากถึง 100,000 ธุรกรรม/วินาที จากเดิมที่ทำได้เพียง 15–20 ธุรกรรม/วินาที
ทำไม Ethereum คิดต้องใช้การ Shard ในการแก้ Blockchain Trilemma ?
ในบริบทของ Ethereum การ Sharding จะทำงานผ่านการม้วนบีบธุรกรรม (Rollups) บน เลเยอร์-2 ซึ่งจะแยกการเก็บข้อมูลออกเป็นเสี่ยงๆยิบย่อย ไม่ต้องประมวลข้อมูลก้อนใหญ่ ซึ่งมีผลทำให้ลดความอัดแน่นของข้อมูลในการประมวลผลและการประมวลผลระบบต่อวินาทีเร็วขึ้นอย่างมาก
Sharding ยังเป็นวิธีการที่ดีในการรักษาความสมดุลของการลดการเป็นศูนย์กลางของระบบ แทนที่จะเลือกขยายขนาดของฐานข้อมูลเดิม เพราะจะทำให้ผู้ยืนยันข้อมูลบางกลุ่มไม่สามารถเข้าถึงระบบ Ethereum เนื่องจากสเปคของคอมพิวเตอร์ที่ระบบต้องการนั้นจะสูงขึ้นตามไปด้วย แต่ด้วยการ Sharding ผู้ยืนยันข้อมูลไม่จำเป็นต้องเก็บข้อมูลทั้งหมดไว้กับตัวเอง โดยวิธีการนี้ทำให้ค่าใช้จ่ายในการเก็บข้อมูลลดลงจากแบบที่ใช้บนเลเยอร์ 1 และยังลดสเปคของฮาร์ดแวร์ที่ใช้ เพื่อให้ผู้ยืนยันข้อมูลเข้าถึงระบบได้ง่ายขึ้น และมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
พูดได้ว่ามันจะเป็นอะไรที่ง่ายมากๆหากเราสามารถทำงาน Ethereum บนคอมพิวเตอร์พกพา หรือแม้แต่โทรศัพท์มือถือของเราได้ ถือว่าเป็นการเปิดประตูให้คนจำนวนมากเข้าถึงระบบเครือข่ายและมุ่งไปสู่ความแพร่หลายที่ใครก็เข้าถึงได้
สิ่งที่จะเกิดขึ้นในมุมของนักเทรดคืออะไร ?
เป็นที่แน่นอนว่าการมาของ The Merge นั้นจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ตลาดอย่างมหาศาล โดย Reuters News รายงานว่าเหรียญ Ether เริ่มมีการเคลื่อนไหวของราคาเนื่องจากการเก็งของนักลงทุนว่า Ethereum จะสามารถเข้าถึงคนได้กว้างขวางมากยิ่งขึ้นจากการอัปเกรดครั้งนี้ โดยราคาของเหรียญได้ขึ้นมาแล้วกว่า 50% จากปลายเดือนมิถุนายนปีนี้ ตรงกันข้ามกับบิทคอยน์ที่ปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่อง
สรุป
ถึง The Merge จะจบลงแล้วแต่ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะชี้ชัดว่าอะไรจะเป็นผลที่จะเกิดขึ้นตามมาอย่างแน่นอน หลังจากที่มีผู้ใช้งานมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้การพัฒนา Ethereum 2.0 มีการดำเนินมาอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งเราใกล้ที่จะได้เห็นของจริงกันแล้ว โดยหลังจาก the Merge จะทำให้ Ethereum รันระบบด้วยการ PoS โดย Beacon Chain ทำหน้าที่ในการเชื่อมโยงข้อมูลแต่ละ Shard ซึ่งแต่ละ Shard จะทำงานแยกออกจากกันได้บน layer2 เพื่อขยายขีดจำกัดในการทำงานให้สูงขึ้นกว่าเดิมมหาศาลและขอย้ำอีกครั้งว่า เหตุการณ์ในปัจจุบันเกิดขึ้นได้อย่างไร ไม่สามารถบอกสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ เราขอแนะนำให้นักลงทุนทุกท่าน #DYOR (Do your own research) หรือศึกษาหาข้อมูลและวิเคราะห์ไตร่ตรองด้วยตัวเองเสมอ
You might also like
More from บล็อกเชน
6 นวัตกรรมเบื้องหลัง Metaverse
“โลกเสมือนจริง” ที่ทำให้เราได้สัมผัสประสบการ์ณการท่องโลกออนไลน์ราวกับเราใช้ชีวิตอยู่ในนั้นจริงๆ หรือ #Metaverse กำลังมีบทบาทมากขึ้นกับชีวิตเรา ซึ่งเกิดจากการนำเทคโนโลยีมากมายมาใช้งานอย่างสังสรรค์ เรามาทำความรู้จัก 6 เทคโนโลยีหลักที่อยู่เบื่องหลัง Metaverse กันเลย บล็อกเชน เทคโนโลยีบล็อกเชนคือการเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ โดยมีจุดเด่นที่ความโปร่งใส กระจายศูนย์ และ ความปลอดภัย โดยมีคริปโตเคอร์เร็นซีเป็นตัวกลางแลกเปลี่ยนคุณค่าบนโลกเมตาเวิร์ส เช่น MANA สามารถใช้ซื้อไอเทมต่างๆ …
Soft Fork VS Hard Fork
จากเมื่อวานการอัพเกรด Bellatrix Consensus Layer Upgrade ถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการอัปเกรด Hard fork เข้าสู่ “The Merge” เรามาดูกันดีกว่าว่าจริงๆแล้วการ Fork คืออะไรและทำงานอย่างไร การ Fork คืออะไร ? การ Fork เป็นเรื่องปกติเมื่อผู้คนในชุมชนต้องการทำการเปลี่ยนแปลงโปรโตตอลของบล็อกเชนหรือชุดกฎกติกาพื้นฐาน โดยเมื่อเกิดขึ้นแล้วสายของบล็อกเชนจะแยกออกเป็นสายที่ …
เส้นทางจาก Ethereum 1.0 สู่ 2.0
จุดสำคัญของการอัปเกรด Ethereum 2.0 “The Merge” คือการควบรวมเครือข่ายปัจจุบัน (Mainnet) และ เครือข่าย Beacon เข้าด้วยกันด้วยการหยุดใช้ PoW เปลี่ยนเข้าสู่ PoS เต็มตัว ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เป็นความตั้งใจท่ีวางแผนมาตั้งแต่เริ่มแรก! ซึ่งโปรเจกต์ใหญ่อย่าง Ethereum ที่ใหญ่และเป็นรองเพียง …