Bitazza และ Fuse ผนึกพลัง สร้างอีกขั้นของการใช้Web3 บนในกว้างบนแอป Freedom

พลังอยู่ในมือคุณแล้ว! สร้าง Freedom Passport พาสปอร์ตสุดทรงพลังที่จะพาคุณท่องโลกดิจิทัลบนแอป Freedom แล้วเตรียมตัวใช้สิทธิ์ออกเสียงกับ Freedom DAO บริหารระบบนิเวศของเราที่อยู่บนเครือข่าย Fuse กันเลย https://bit.ly/Freedom-Passport

———————–———————–

บิทาซซ่าเริ่มจากการเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนคริปโตในประเทศไทย และเติบโตด้วยการวางเป้าหมายยิ่งใหญ่ นั้นคือการพาทุกคนเดินทางข้ามสะพานเชื่อมโลกการลงทุนกับโลกไลฟ์สไตล์ ผสานโลกเสมือนเข้าสู่โลกจริง สานต่อโลกการเงินแบบดั้งเดิมสู่โลกดิจิทัล ผ่านโปรดักส์และฟังก์ชันต่างๆ ให้บริการในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และพื้นที่อื่นๆทั่วโลก

ในบทควานนี้ เราจะเน้นไปที่การเสรมศักยภาพให้การสร้างและดูแลคอมมูนิตี้ลูกค้าให้ภาคธุรกิจด้วยแอป Freedom วอลเล็ทWeb3 ครบวงจรที่สร้างอยู่บนเครือข่าย Fuse โดยใช้ Charge’s API หรือโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินสากล

เริ่มจากความสำเร็จที่ถือเป็นบทพิสูจน์การใช้งานจริงครั้งแรกจากงาน Mystic Valley Music Festival เมื่อปี 2563 บิทาซซ่าถือเป็นพาร์ทเนอร์ทีมแรกๆของ Fuse และร่วมทำงานกันมายาวนานจนถึงปัจจุบัน บิทาซซ่าใช้โครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินสากลของเครือข่าย Fuse บนบล็อกเชนที่มอบอำนาจให้พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจอื่นๆสามารถที่จะเปิดคอมมูนิตี้และสร้างโทเคนคอมมูนิตี้ของตัวเองได้บนแอป Freedom ที่ใช้เทคโนโลยีการสร้างวอลเลทของ Fuse

Fuse คืออะไร ?

Fuse คือบล็อกเชนสาธารณะที่สามารถรองรับระบบ EVM แบบกระจายศูนย์ ที่มุ่งความสนใจไปในการสร้างระบบนิเวศและแพลตฟอร์มที่เป็นมิตรกับผู้ใช้งานและธุรกิจเพื่อสร้างการยอมรับระบบWeb3 ในวงกว้าง 

เครือข่ายบล็อกเชน Fuse ถูกออกแบบให้เวลาการยืนยันของบล็อกสามารถทำได้อย่างรวดเร็วและมีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่ต่ำ ซึ่งช่วงเวลาโดยเฉลี่ยประมาณ 5 วินาที และมีค่าธรรมเนียมที่น้อยกว่า 1 เซนต์ต่อการยืนยันการทำธุรกรรม* นอกเหนือจากเครือข่ายบล็อกเชนแล้ว ระบบนิเวศของ Fuse ยังประกอบไปด้วย Fuse Charge หรือโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินสากลที่ง่ายต่อการใช้งาน ซึ่งทำให้ระบบชำระเงินเฟียตและคริปโตของธุรกิจเชื่อมกันได้อย่างไร้รอยต่อผ่านการเชื่อมต่อบนระบบ APIs และ SDK และ Fuse Cash ที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งานรวมถึงวอลเลทบนมือถือ

Fuse มี FUSE เป็นยูทิลิตี้โทเคนประจำเครือข่ายบล็อกเชน ถูกใช้เป็นค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมเพื่อรักษาความปลอดภัยผ่านกลไกระบบฉันทามติแบบ proof-of-stake ของ Fuse ที่มีการกระจายโทเคนเพื่อใช้ในการเข้าร่วมโหวตออกเสียงการกำหนดทิศทางในแพลตฟอร์มและใช้กับฟีเจอร์การกระจายศูนย์อื่นๆ

เหรียญ FUSE จาก Fuse Network เปิดให้ซื้อขายด้วยเงินบาทไทยแล้วที่ บิทาซซ่า (FUSE/THB) และสามารถเปิดฝากถอนบน Fuse Network ได้

คริปโตกำลังแพร่หลายวงกว้างสู่ภาคธุรกิจ

สำหรับธุรกิจทั้งปานกลาง เล็ก หรือ ระดับคอมมูนิตี้ การเปิดช่องทางชำระเงินที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานในบางครั้งก็มาพร้อมความความซับซ้อนและค่าใช้จ่ายที่มาเกินไป รวมถึงกำแพงความเข้มงวดของการซื้อ-ขาย การชำระเงินดิจิทัลข้ามประเทศ ยิ่งไปกว่านั้น เทคโนโลยีบล็อกเชนและนวัตกรรมที่มีความซับซ้อน อาจทำให้ภาคธุรกิจเข้าไม่ถึงหรือมองว่ายากที่จะนำมาประยุกต์ใช้

บิทาซซ่ามองเห็นช่องว่างระหว่างของการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน และการใช้งานจริงของภาพธุรกิจ จึงมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในการวางเป้าหมายที่จะสร้างผลิตภัณฑ์บริการให้ธุรกิจที่ต้องการใช้Web3 ให้ง่าย มีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องยุ่งยาก 

ในขณะเดียวกัน Fuse ก็เชื่อว่าการยอมรับและใช้คริปโตอย่างแพร่หลายในภาคธุรกิจนั้นคือเส้นทางที่มั่นคงและยั่งยืนกว่าการมุ่งไปที่บุคคลทั่วไป

ตัวอย่างการใช้ได้จริงของเทคโนโลยี Fuse ที่ร่วมกับบิทาซซ่าเริ่มจากการทำกับธุรกิจเล็กๆถึงปานกลางในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อปูทางสู่การแพร่หลายในวงกว้างในอนาคตก็คือ Mystic Valley หนึ่งในผู้นำด้านการจัดเทศกาลดนตรีได้นำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาผสานการแลกเปลี่ยนตั๋วนอกเหนือจากเงินสดเป็นครั้งแรก ผู้เข้าร่วมงานจะสามารถแลกโทเคนที่มินต์ โดย Mystic Valley เพื่อใช้ในการเข้างานผ่านโทรศัพท์มือถือได้เลย และยังสามารถใช้แลกเปลี่ยนอาหารและเครื่องดื่มจากร้านค้าต่างๆภายในงานได้อีกด้วย

และอีกหนึ่งกรณีใช้งานจริงจาก EPIC Entertainment ผู้จัดงานดนตรีอีเล็กทรอนิกชั้นนำของไทยก็ได้ใช้แอป Freedom สำหรับงานปาร์ตี้สระว่ายน้ำ ซึ่งสามารถทำให้มีผู้ใช้งานกว่า 600 วอลเล็ท และเกิดธุรกรรมกว่า 500 ครั้งด้วย EPIC โทเคน

ในภาคส่วนการท่องเที่ยวซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลักของไทย ก็มีการใช้งานจริงในแอป Freedom เช่นกัน RAJA FERRY PORT  บริการเรือข้ามฟากชื่อดังภาคใต้ที่ให้บริการสู่จุดหมายปลายทางชื่อดังไม่ว่าจะเป็น ดอนสัก, เกาะสมุยและเกาะพะงัน ซึ่งสามารถใช้แอป Freedom และโทเคน RAJA ในการแลกเปลี่ยนตั๋วได้

นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมสนุกๆอย่าง Freedom Cup ที่เปิดให้ชาวบิทาซซ่าวิเคราะห์ผลฟุลบอลโลก 2022 เพื่อชิงรางวัล ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกว่า 400 คนด้วยการให้ผู้ร่วมทายผลส่งคำตอบทายผลฟุตบอลโลก 2022 เข้ามาและสร้างเป็น NFT เก็บไว้เพื่อเป็นหลักฐาน 

และใหม่ล่าสุดกับ Freedom Passport โซลูชันบล็อกเชนการยืนยันตัวตนทางดิจิทัลโดยการใช้ Soulbound โทเคน (SBT) ที่ออกแบบมาเพื่อคุณคนเดียวเท่านั้น โดยปราศจากการเกิดอันตรายต่อความเป็นส่วนตัวหรือความปลอดภัย เปรียบเหมือนเครื่องมือตรวจสอบข้อมูลประจำตัวแห่งโลกดิจิทัล เพื่อให้คุณเป็นเจ้าของตัวตนดิจิทัลเองได้อย่างเต็มที่ เพื่อใช้ยืนยันตัวตนในโลก Web3 สำหรับกิจกรรมต่างๆ สิทธิประโยชน์มากมายในอนาคต โดยเฉพาะการมีสิทธิ์ออกเสียงผ่าน Freedom DAO โดย Freedom Passport จะช่วยให้คุณควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลได้ พิสูจน์ตัวตนของตัวเองได้  ซึ่งถูกสร้างขึ้นบนบล็อกเชน จึงมีความโปร่งใส ปลอดภัย และ เป็นส่วนตัวบนแอป Freedom บนเครือข่าย Fuse นั่นเอง

Fuse + Bitazza = อีกขั้นของการใช้Web3 ในวงกว้าง

บิทาซซ่าเป็นพาร์ทเนอร์หลักและผู้ผสานทุกสิ่งเข้าด้วยกันในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือกว่า 326 ล้านเครื่อง การเข้าถึงโทรศัพท์มือถือเหล่านั้นได้คือหัวใจสำคัญของการเข้าถึงWeb3 ในวงกว้าง บิทาซซ่าใช้ Charge และเครือข่าย Fuse บล็อกเชนในการสร้างโปรดักส์สำคัญอย่างแอป Freedom และเปิดให้ธุรกิจต่างๆเข้ามาใช้บริการและสร้าง จัดการโทเคนของตัวเองได้และยังมีระบบเพื่อคอมมูนิตี้เพื่อให้ธุรกิจเหล่านั้นได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้สูงสุดอีกด้วย

*อ้างอิงข้อมูลจาก
https://fuse.io/
https://news.fuse.io/fuse-and-bitazza-plot-web3-payments-domination/

*สื่อนี้ดำเนินการโดยบริษัท บิทาซซ่า จำกัด ร่วมกับบริษัท ฟรีด้อมเวิร์ส จำกัด และ Freedom Passport ดำเนินการโดยบริษัท ฟรีด้อมเวิร์ส จำกัด
คำเตือน: คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

 

 

You might also like

---

More from บล็อกเชน

---