ดูคลิปเต็ม Bitazza Live AMA : Bitazza Global ไวท์เปเปอร์ 2.0 ได้ที่นี่ 👉🏻 https://youtu.be/dkL6xKcjhO4
ก่อนที่จะมาเป็น Bitazza Global ไวท์เปเปอร์ 2.0
ไวท์เปเปอร์ 1.0 ได้ถูกเขียนไว้ตั้งแต่ปี 2018 ซึ่งได้ใช้เป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการขอใบอนุญาตธุรกิจประกอบกิจการนายหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งบิทาซซ่าถือได้ว่าเป็นเจ้าแรกที่ได้รับใบอนุญาตก่อนการประกอบธุรกิจ ซึ่งต่างกับเพื่อนร่วมอุตสาหกรรมท่านอื่นๆที่เริ่มประกอบกิจการก่อนแล้วค่อยทำใบอนุญาตย้อนหลัง
ไวท์เปเปอร์ 1.0 มีเนื้อหาความยาวกว่า 50 หน้า โดยจะอธิบายเกี่ยวกับการจัดสรรปันส่วนโทเคน การใช้งานจริงของเหรียญ BTZ เบื้องต้น ซึ่งบิทาซซ่าโกลบอลมีวิสัยทัศน์และเน้นการสร้างมูลค่าในช่วงที่ยังไม่ได้ปฏิบัติการแบบเต็มรูปแบบ โดยในช่วง 2 ปีกว่าๆจนถึงปี 2022 นี้ ทางบิทาซซ่าโกลบอลได้ปฏิบัติการจริงและเห็นสมควรว่า ควรมี Bitazza Global ไวท์เปเปอร์ 2.0 ซึ่งเป็นการต่อเนื่องเรื่องราวที่ดีของไวท์เปเปอร์ 1.0
USDF เป็นสเตเบิลคอยน์แบบไหนและต่างกับสเตเบิลคอยน์ตัวอื่นในตลาดอย่างไร?
มีประเด็นหลักสองประเด็นที่ถูกพูดถึงใน Bitazza Global ไวท์เปเปอร์ 2.0
- ประเด็นที่หนึ่ง คือปัญหาในตลาดคริปโต อย่างเช่นเหรียญสเตเบิลคอยน์ ที่ไม่มีความเสถียรภาพตามที่มันควรจะเป็นโดยการตรึงมูลค่ากับสกุลเงินใดสกุลหนึ่งอย่างเช่น เหรียญ UST
- ประเด็นที่สอง คือเหรียญยูทิลิตี้โทเคนต่างๆที่ออกโดยกระดานเทรดคริปโตนั้นมีคุณประโยชน์ที่จำกัด ซึ่งนำไปสู่การเกิดขึ้นของ BTZ โทเคนของบิทาซซ่าและสเตเบิลคอยน์ USDF สร้างโดย Freedom
เอกลักษณ์ของ USDF คืออะไร?
เอกลักษณ์ของ USDF คือการวิวัฒนาการการรองรับมูลค่าของเหรียญ ( Collateralization Evolution) โดยทั่วไปสเตเบิลคอยน์มีการรองรับมูลค่าเหรียญอยู่ 3 แบบหลักๆด้วยกันดังนี้
- การรองรับมูลค่าด้วยเงินเฟียต หรือ ตราสารนี้ ทั้งหมด (100% Fiat-collateralization) ในการคงมูลค่าของเหรียญไว้ ตัวอย่างเช่น USDC
- การรองรับมูลค่าด้วยคริปโต (Crypto-collateralization) ตัวอย่างเช่น MakerDAO ใช้ Ethereum มารองรับมูลค่าสเตเบิลคอยน์
- การรองรับมูลค่าด้วยอัลกอริธึม (Algorithmic stablecoin) ไม่ได้มีการคงมูลค่ากับสินทรัพย์ใดๆ แต่จะควบคุมโดยอัลกอริธึม ด้วยการใช้กลไกเพิ่มและลดเหรียญตามความต้องการใช้งานเพื่อให้ราคาคงที่ ตัวอย่างเช่น UST
โดยใน Bitazza Global ไวท์เปเปอร์ 2.0 ได้พูดถึงข้อดีและข้อเสียของแต่ละวิธีที่ต่างกัน ตามข้อมูลวิจัยของมหาวิทยาลัยต่างๆ ซึ่งได้พูดถึงสเตเบิลคอยน์ที่รองรับมูลค่าด้วยเงินเฟียต (Fiat-collateralization) ที่มีเสถียรภาพในด้านราคามากกว่า แต่ว่าข้อเสียที่แน่นอนคือการมี Capital Inefficiency หรือการไม่มีเสถียรภาพในการนำเงินที่เรามีไปทำการต่อยอดขยายธุรกิจกับระบบนิเวศและจำกัดอัตราการเจริญเติบโตของธุรกิจ ทางบิทาซซ่าโกลบอล และ Freedomverse จึงคิดว่าควรมีการวิวัฒนาการในการรองรับมูลค่าเหรียญของ USDF ทั้งในเรื่องเสถียรภาพและการตอบโจทย์ในทางธุรกิจ
ซึ่งช่วงแรกของการวิวัฒนาการนั้น Freedomverse จะให้เหรียญ USDF รองรับมูลค่าด้วยเงินเฟียต 100% หรือ ตราสารนี้ทั้งหมดเพื่อสร้างความเชื่อมั่น รวมถึงเมื่อธุรกิจมีการพัฒนาเติบโตขึ้นอย่างมั่นคง มีระบบนิเวศที่พร้อม มีการทำธุรกรรมมากพอในแต่ละเดือน ผลิตภัณฑ์ต่างๆของบิทาซซ่าโกลบอลทั้ง การชำระเงินผ่านมือถือ, Freedom Card และมูลค่าของตลาดของเหรียญ BTZ เติบโตขึ้น ถึงตอนนั้น Freedomverse จะปรับเปลี่ยนวิวัฒนาการของ USDF เข้าสู่ช่วงที่สองในรูปแบบของการรองรับมูลค่าด้วยคริปโต (Partial crypto-collateralization) ซึ่งจะทำให้สามารถใช้เงินสำรองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในระดับหนึ่งแทนที่จะรองรับมูลค่าด้วยเงินเฟียต 100% แต่จะนำเงินเฟียตมากสุดที่ประมาณ 20% ไปลงทุนควบคู่ไปกับสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับการยอมรับอื่นๆ เช่น ETH ซึ่งด้วยกระบวนการนี้ทำให้เราสามารถออกเหรียญ USDF โดยไม่ต้องรอให้มีเงินเฟียตรองรับเทียบเท่ามูลค่า 100%
ประเด็นที่สำคัญคืออัตราของ USDF ที่รองรับด้วยคริปโต นี้จะไม่เกิน 20% และจะมีการใช้ Over-collateralization หรือการรองรับมูลค่าของเหรียญให้มากกว่า 20% ตามที่กำหนดในตอนแรกเพื่อที่จะให้เกิด Buffer Zone เป็นช่องว่างในกรณีถ้าเหรียญมีราคาปรับตัวลง ทำให้ยังมีสินทรัพย์ในการรองรับเหรียญที่มีมูลค่ามากกว่ามูลค่าเหรียญที่ออกไปแล้ว
อีกทั้งในช่วงสุดท้ายของการวิวัฒนาการของ USDF นั้นยังมีเงินเฟียตรองรับอยู่ 80% เพียงแต่ว่าอีก 20% อาจจะใช้การรองรับมูลค่าด้วยคริปโต (Crypto-collateralization) หรือ กลไกการแลกเปลี่ยนเพื่อรักษาเสถียรภาพ (Swap-stabilization mechanism) ระหว่าง BTZ กับ USDF เพื่อที่จะช่วยค้ำจุนมูลค่าของเหรียญ แต่ต้องตระหนักไว้ก่อนว่าการที่จะเปลี่ยนจากการวิวัฒนาการตั้งแต่ช่วงแรกไปจนถึงช่วงสุดท้ายนั้นต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการบริหารของบิทาซซ่าโกลบอล และ Freedomverse อย่างถี่ถ้วน โดยพิจารณาจากตัวชี้วัดของธุรกิจ (Key Performance Indicator) หลายอย่างและรายได้ของระบบนิเวศถึงในระดับที่รองรับเหรียญได้หรือไม่
โปรดักส์ที่ถูกกล่าวถึงในไวท์เปเปอร์ 2.0 และ แผนการกระจายเหรียญ BTZ ไปทั่วโลก
โปรดักส์ที่ออกมาจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยเพิ่มการใช้งานจริงของเหรียญ BTZ และ USDF อย่างเช่นบัตร Freedom Card ที่ร่วมมือกับทาง Visa, Freedom Wallet และผลิตภัณฑ์อื่นๆที่ไม่ได้ถูกกล่าวถึงบนไวท์เปเปอร์ 2.0 รวมถึงแผนการที่จะจำกัดอุปทานของเหรียญ BTZ ในวิธีที่ยั่งยืนโดยที่ไม่เคยมีใครเคยทำมาก่อน ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับคนถือเหรียญรายย่อยและคนที่เชื่อบริษัทของเรา
นโยบายการปรับอุปทานเหรียญในระยะยาวด้วยกลไก Buyback-and-make และ The Redistribute and Signal โมเดล
กระบวนการ Buyback-and-burn คือการนำกำไรในบริษัทมาซื้อเหรียญส่วนหนึ่งกลับจากตลาดซื้อขาย และเบิร์น หรือ ทำลายโดยการโอนเหรียญออกจากระบบไปยังที่อยู่กระเป๋าสตางค์ (Wallet Address) ที่ไม่มีใครสามารถเข้าถึงได้ แม้แต่บริษัทเจ้าของเหรียญเอง กระบวนการนี้สามารถเปรียบได้กับการซื้อหุ้นคืนในตลาดหุ้น ซึ่งหมายถึงการนำหุ้นส่วนหนึ่งออกจากระบบเพื่อปรับสัดส่วนของเหรียญให้น้อยลง ดังนั้นการทำให้มีผลกำไรมากขึ้น แต่ปัญหาสามารถสังเกตได้ในเชิงปฏิบัติซึ่งต่างจากทฤษฎี ซึ่งผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือราคาของหุ้นสูงขึ้นก็จริงในระยะสั้น แต่ในระยะยาวราคากลับปรับตัวลงและไม่ได้สูงขึ้นจากราคาก่อนกระบวนการเบิร์นเหรียญมากนัก สิ่งนี้อาจจะเกิดจากจิตวิทยาที่นักลุงทุนคิดต่อบริษัทว่ากระบวนการ Buyback-and-burn นั้นเป็นการแสดงถึงความไม่มีแผนการในระยะยาวของบริษัทนั้นๆ
กระบวนการ Buyback-and-burn นั้นจึงไม่ได้เป็นผลดีอย่างที่คิดไว้ตั้งแต่แรก ซึ่งคุณธัญได้ยกตัวอย่างถึง บทความที่ถูกเขียนโดยคุณ Joel Monegro ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ให้กับ Placeholder Venture Capital Firm ที่มีเนื้อหาว่าการ Buyback-and-burn นั้นได้เป็นสิ่งที่ตกยุคไปแล้ว และเขาได้เสนอ Buyback-and-makeโดยการนำกำไรในธุรกิจมาซื้อโทเคนกลับจากตลาดและนำโทเคนเหล่านั้นไปแจกจ่ายให้พันธมิตรทางธุรกิจ นักพัฒนา ในองค์กรเพื่อให้เกิดประโยชน์กับธุรกิจแทนที่จะเผาเหรียญสัดส่วนเหล่านั้นทิ้งไปโดยไม่ได้เกิดประโยชน์
ทางบิทาซซ่าโกลบอล จึงได้คิดค้นโมเดลเพิ่มเติมที่เรียกว่า The Redistribute and Signal หรือ การกระจายหมุนเวียนและการส่งสัญญาณ โดยการซื้อและรับโทเคนกลับมาจากผู้ค้าพันธมิตรและนำมาจัดจำหน่ายอีกที รวมถึงวิธีที่เราจะจัดจำหน่ายยังไงให้เกิดสัญญาณว่ามีนักลงทุนหลายกลุ่มที่เชื่อมั่นมูลค่าในโครงสร้างธุรกิจและระบบนิเวศของ BTZ
ซึ่งการส่งสัญญาณช่วยนั้นเกิดขึ้นโดยมีการประมูลเหรียญแบบเทียนไข (Candle Auction) หรือการประมูลที่มีช่วงเวลาให้คนเข้าไปประมูลและมีรูปแบบการจบการประมูลแบบกระทันหันซึ่งจะช่วยทำให้การประมูลนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้นบนบล็อกเชนและป้องกันปัญหาโอกาสการประมูลตัดหน้า และเมื่อบิทาซซ่าโกลบอลได้รับเหรียญกลับมาก่อนกระจายหมุนเวียนอีกครั้งเราจะเปิดการประมูลแบบเทียนไขเพื่อให้นักลงทุนทั่วไป หรือบริษัทพันธมิตร มาประมูลว่าจะนำเหรียญ BTZ มาสเตกไว้เป็นจำนวนเท่าไหร่ ณ ช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งการประมูลจะสื่อให้เห็นความเชื่อมั่นแท้จริงในเหรียญและบริษัท
ความเห็นมุมมองเกี่ยวกับ DAO
ในทางปฏิบัติแล้วการที่เร่งเป็นองค์กรแบบกระจายศูนย์เต็มรูปแบบเร็วเกินไปยังมีข้อเสียเนื่องจากไม่ได้มีคนเข้าไปตรวจสอบ ซึ่งการค่อยๆ ปรับองค์กรแบบค่อยเป็นค่อยไปโดยมีระบบเทคโนโลยีแบบกระจายศูนย์บนบล็อกเชนควบคู่ไปกับการบริหารแบบรวมศูนย์อย่างโปร่งใสจะช่วยทำให้ธุรกิจนั้นเติบโตขึ้นอย่างยั่งยืนจนสามารถปรับเปลี่ยนเป็นองค์กรแบบกระจายศูนย์ได้อย่างเต็มตัว โดยในช่วงแรกที่ธุรกิจเติบโตนั้นอาจจะต้องมีนักลงทุนรายใหญ่เข้ามาช่วยส่งเสริมในธุรกิจ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตามการกระจายอำนาจนั้นจะถูกจัดการด้วยการจัดสรรอุปทานเหรียญ ซึ่งในอนาคตเมื่อธุรกิจเติบโตขึ้นไปในระดับที่เหมาะสมและมีการจัดตั้งบรรทัดฐานในการบริหารธุรกิจเรียบร้อยแล้ว บิทาซซ่าโกลบอลจะให้พันธมิตรผู้มีส่วนร่วมทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนในการบริหารธุรกิจของเรา
แผนการพัฒนาและการขยายธุรกิจ
แผนการพัฒนาและการขยายธุรกิจทั้งในด้านผลิตภัณฑ์และการเจาะตลาดใหม่ มีตลาด 2 กลุ่มหลักที่ตั้งเป้าหมายไว้ดังนี้
- กลุ่มที่หนึ่ง คือกลุ่มประเทศที่ระบบการเงินและการธนาคารดั้งเดิมยังมีความบกพร่องและจำกัดเช่น ประเทศเวียดนาม หรือประเทศในทวีป แอฟริกา ไม่ว่าจะเป็นในเรื่อง สินเชื่อ เงินฝาก และประกัน แต่ในขณะเดียวกันประเทศเหล่านี้มีการเข้าถึงระบบอินเตอร์เน็ต, การทำธุรกรรมผ่านมือถือ, คริปโต ค่อนข้างมากอยู่แล้ว ทางบิทาซซ่าโกลบอลเลยเห็นถึงช่องโอกาสในตลาดที่อาจจะเข้าไปและใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนให้เข้าถึงสินเชื่อ หรือเงินฝากที่ให้อัตราเงินฝากดีมากกว่าอัตราเงินเฟ้อ
- กลุ่มที่สอง คือกลุ่มที่มีประชากรที่เข้าใจคริปโตค่อนข้างสูงเหมือนในกลุ่มแรก แต่มีระบบพื้นฐานโครงสร้างที่จะรองรับคริปโตค่อนข้างมากอยู่แล้วและกฎเกณฑ์การสนับสนุนที่จะรองรับคริปโตอย่างเช่น ประเทศโปรตุเกส
ภาคผนวกใน Bitazza Global ไวท์เปเปอร์ 2.0
ทฤษฎีเกม (Game Theory)
ในภาวะตลาดที่มีความไม่แน่นอนและไม่รู้ได้อย่างชัดเจนว่าคนอื่นกำลังคิดอะไรอยู่ การส่งสัญญาณที่มีประสิทธิภาพให้ได้มากที่สุดในทางทฤษฎีเกมนั้นต้นทุนในการส่งสัญญาณของผู้เล่นแต่ละแบบจะไม่เหมือนกัน เราจะสามารถเห็นได้ว่าแต่ละผู้เล่น แต่ละคนจะส่งสัญญาณหรือไม่และเป็นผู้เล่นชนิดไหน
เกมเศรษฐศาสตร์ แบบ Incomplete Information คือ การจำลองสถานการณ์ในตลาดคริปโตเพื่อจับจุดสำคัญของตลาดไว้ได้ โดยบางฝ่ายมีข้อมูลจำกัด แต่ละฝ่ายมีความคิด ลักษณะความชอบ หรือมีแผนการยุทธศาสตร์อย่างไร ซึ่งสามารถแบ่งผู้เล่นได้ดังนี้
- ผู้เล่นเบอร์ 1 คือผู้ที่ยังไม่ได้ซื้อเหรียญกำลังคิดอยู่ว่าจะซื้อเหรียญหรือไม่ ดูคนที่ในตลาดอยู่แล้ว เป็นชนิดไหน จะเป็นปัจจัยส่งผลกระทบต่อการตัดสิน
- ผู้เล่นเบอร์ 2 ที่อยู่ในตลาดอยู่แล้วคือผู้ที่มีความเชื่อมั่นในเหรียญค่อนข้างมากหรือ Diamond hand ส่วนผู้ที่ไม่มีความเชื่อมั่นในเหรียญ รอเก็งกำไรระยะสั้นหรือ Paper hand
You might also like
More from บิทาซซ่าบล็อกส์
ประกาศแปลงโทเคน SingularityNET (AGIX) เป็น Fetch.ai (FET) จะเกิดขึ้นในวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 เวลา 10:00 น.
เรียน ชาวบิทาซซ่า บิทาซซ่าขอแจ้งกำหนดการในการแปลงโทเคนจาก SingularityNET (AGIX) เป็น Fetch.ai (FET) โดยการแปลงโทเคนจะมีผลในวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 เวลา 10:00 น. ซึ่งรวมถึงการเทรด การฝาก และถอนโทเคน SingularityNET (AGIX) จะถูกระงับตั้งแต่วันที่ …
แอปเทรดคริปโตที่ดีต้องมีอะไรบ้าง ที่นี่มีคำตอบให้นักเทรดทุกคน
ช่วงนี้กระแสการซื้อขายคริปโตในไทยกำลังกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง เห็นได้ชัดจากรายงานของ Statista ที่ระบุไว้เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2567 ว่ามีนักเทรดหน้าใหม่เข้ามาเปิดบัญชีราว 120,000 บัญชี เพื่อใช้สำหรับการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลต่างๆ ที่มีหลายเหรียญกลับมามีความต้องการเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณการกลับตัวที่ดีหลังจากภาพรวมตลาดคริปโตทั้งโลกรวมถึงในไทย ด้วยความนิยมที่เพิ่มขึ้นของการเทรดคริปโต รวมถึงการที่กระทรวงการคลังได้ประกาศยกเว้น VAT ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อเตรียมดันประเทศไทยสู่การเป็น Digital Asset Hub …
เปิดแล้ว! การโหวต Freedom DAO ครั้งที่ 4
เปิดแล้ว! การโหวต Freedom DAO ครั้งที่ 4 เตรียม Freedom Passport ของคุณให้พร้อมแล้วเข้าไปคูหาดิจิทัล เลือกเหรียญที่ใช่ เลือกที่โดน อยากให้ลิสต์บนแพลตฟอร์มของเราจริงๆกันเลย 🏆 ออกเสียงแสดงพลัง กำหนดทิศทางโดยการเลือก 5 เหรียญที่ชอบที่สุดจากทั้ง 17 เหรียญ และมาลุ้นไปด้วยกันว่าเหรียญทั้ง …