สรุปประเด็นจาก 3 สาว 3 สไตล์ ตัวแม่แห่งฟรีด้อม เชื่อมโลกบล็อกเชนสู่ไลฟ์สไตล์ผู้คน

เมื่อพูดถึงเทคโนโลยีบล็อกเชนคุณนึกถึงอะไร? หลายคนอาจมีภาพจำถึงความเข้าถึงยากของเทคโนโลยี มองว่าเป็นเรื่องไกลตัว ต้องมีแต่คนเรียนจบสายเทคและมีแต่ผู้ชายเท่านั้น แต่แท้จริงแล้วเทคโนโลยีบล็อกเชนไม่ได้เป็นเรื่องไกลตัวเลย บางคนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าผลิตภัณฑ์หรือบริการที่กำลังใช้งานอยู่นั้นก็เกี่ยวข้องเทคโนโลยีนี้เช่นกัน

วันนี้เราจะพามาดูแนวคิดที่น่าสนใจของ 3 สาวตัวแม่จากบิทาซซ่า ตัวแทนฝั่งผู้หญิงแห่งโลกบล็อกเชน

• คุณดีดี้ วิมลพรรณ วิบูลย์มา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการสื่อสารและการตลาด ผู้กำหนดทิศทางภาพลักษณ์องค์กร การสื่อสารทางการตลาดและประชาสัมพันธ์ อีกทั้งช่วยพัฒนาทรัพยากรบุคคลและสนับสนุนดูแลความสัมพันธ์ระหว่างพันธมิตร
• คุณน็อบบี้ ศิรดา ไตรจักร์วนิช รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ผู้นำเสนอมูลค่าธุรกิจ (value proposition) และผลิตภัณฑ์โซลูชันให้พันธมิตรธุรกิจทั้งองค์กรระดับสากล บริษัทขนาดใหญ่ ไปจนถึงธุรกิจระดับชุมชน
• คุณเป ลาดา ปัญญาเนรมิตดี รองประธานฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ ผู้กำหนดกลยุทธ์ในการสร้าง ออกแบบ พัฒนาผลิตภัณฑ์บริการให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ใช้งาน

จุดเริ่มต้นในวงการฟินเทค

แม้โลกเทคโนโลยีบล็อกเชนอาจฟังดูไกลจากตัวเรา แต่เชื่อไหมว่าทั้ง 3 ท่านไม่ได้เรียนจบตรงสายนี้กันมาเลย แต่ทั้ง 3 คนได้นำความรู้และประสบการณ์ของตัวเองมาประยุกต์และเรียนเพิ่มเติมจนกก่าวสู่การเป็นตัวแม่ผู้นำแห่งวงการฟินเทคในทุกวันนี้

โอกาสของผู้หญิงในการทำงานในวงการฟินเทค

แม้ส่วนใหญ่จะมองว่าเทคโนโลยี ยังไงก็ต้องเป็นผู้ชาย แต่อื่นใด “เพศ” หรือแม้แต่อายุ อาชีพ ไม่ใช่สิ่งที่จำกัดความสามารถหรือมีความหมายในการทำงานเลย เพียงแค่มีความเชื่อมั่นและมีใจรัก มองเห็นถึงสเน่ห์ของบล็อกเชนเท่านั้น และพร้อมเรียนรู้กับสิ่งใหม่ๆ เพราะฉะนั้นทุกวันนี้เราจะเห็นผู้หญิงเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในวงการนี้

แต่ความเป็นผู้หญิงก็ข้อดีในตัวเอง เพราะผู้หญิงจะมองเห็นในอีกมุมที่สามารถออกความคิดเห็นในมุมที่ใช้ความรู้สึก (Emotional)  ในมุมลึกกว่าได้ อย่างเช่น คุณเป ที่ดูแลด้านผลิตภัณฑ์ จะมีมุมมองที่เพิ่มลงไปในการทำงานเพื่อทำให้คนทั่วไปเข้าใจเทคโนโลยีมากขึ้น ซึ่งจะสะท้อนออกมาในผลิตภัณฑ์และบริการที่ถูกออกแบบออกมาให้คนทั่วไปเข้าใจ และปรับใช้กับชีวิตประจำวันได้

บล็อกเชนและไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวัน

ด้วยความที่บล็อกเชนเป็นเทคโนโลยีแบบกระจายศูนย์ ทุกวันนี้ทั้งในประเทศเราเอง ประเทศเพื่อนบ้าน และทั่วโลก ต่างเริ่มนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้มากขึ้นเรื่อย ๆ และทั้ง 3 สาวได้เห็นถึงว่า ไม่ว่าใครก็สามารถเข้าถึงบล็อกเชนได้ และมองเห็นความใกล้ชิดระหว่างเทคโนโลยีและชีวิตประจำวัน จึงอยากเป็นสะพานเชื่อมเทคโนโลยีเข้ากับผู้คน ทั้งในฝั่งคนใช้งาน และในภาคธุรกิจด้วยเช่นกัน เพราะเทคโนโลยีทำให้ “ทุกอย่างเร็วขึ้น ง่ายขึ้น สะดวกมากขึ้น”

บิทาซซ่าเป็นสะพานเชื่อมโลกบล็อกเชนยังไงบ้าง

บล็อกเชนทำให้ทุกคนเท่าเทียมกันอย่างเห็นได้ชัด อย่างล่าสุดบิทาซซ่ามีแคมเปญให้ผู้ใช้งานมาลงคะแนนเสียงว่าเหรียญไหนจะถูกนำมาลิสต์ไว้ในแพลตฟอร์มผ่านการโหวตบน Freedom World ที่เป็นพาร์ทเนอร์กับบิทาซ่า ซึ่งเป็นระบบที่โปร่งใส ทุกคนสามารถเห็นผลโหวตได้ทันที

ยังมี Freedom Card ที่ร่วมมือกับทางทีทูพีและวีซ่า บัตรวีซ่าที่เติมเงินบาทได้จากการแลกเปลี่ยนคริปโตผ่านแอปบิทาซซ่า ซึ่งตอบโจทย์กับชีวิตประจำวันเพราะสามารถนำบัตรไปใช้กิน ดื่ม เที่ยวได้กับทุกร้านค้าที่รับวีซ่าทั่วโลก การเข้าถึงได้ง่ายก็เป็นเรื่องสำคัญ เราจึงออกแบบให้การสมัครบัตรเป็นเรื่องง่าย เข้าถึงได้ เพียงใช้บัตรประชาชนใบเดียวในการสมัคร

นอกจากนี้ Freedom World ที่กล่าวไปก่อนหน้า แอปฯสร้างรีวอร์ดและคอมมูนิตี้ด้วย WEB3 (The Universal Rewards System App) ที่เน้นกับกลุ่มธุรกิจ ให้สามารถเข้ามาสร้างคอมมูนิตี้และสร้างการมีส่วนร่วมกับสมาชิกได้อย่างแข็งแกร่งและเหนียวแน่น

บล็อกเชนดึงศักยภาพคนไทยสู่สากล

การทำงานในโลกบล็อกเชนก็ทำให้เห็นความหลากหลายและถึงศักยภาพของคนไทยและคนในอาเซียนว่ามีล้นเหลือ ทั้ง 3 คนอยากเห็นการเติบโตของวงการเทคโนโลยีบล็อกเชนในภูมิภาคเอเชียสู่ระดับโลกเช่นกัน

หากใครอ่านแล้วอยากร่วมทำงานสร้างเส้นทางโลกบล็อกเชนสู่ไลฟ์สไตล์ไปกับบิทาซซ่า เราก็พร้อมยินดีต้อนรับ! ส่งเรซูเม่มาได้ที่นี่ https://content.bitazza.com/careers-at-bitazza

*บุคลากรในสื่อเป็นบุคลากรของบริษัท บิทาซซ่า จำกัด

**Freedom Card ดำเนินการโดยบริษัท ทีทูพี จำกัด

***บริษัท บิทาซซ่า จำกัด เป็นผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain technology provider) แก่แพลตฟอร์ม Freedom

****สื่อนี้ดำเนินการโดยบริษัท บิทาซซ่า จำกัด ร่วมกับบริษัท ฟรีด้อมเวิร์ส จำกัด และ Freedom World ดำเนินการโดยบริษัท ฟรีด้อมเวิร์ส จำกัด ซึ่งไม่ใช่บริษัทที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต.

You might also like

---

More from ทีมงานของเรา

---