เฝ้าระวัง! แรงเทขาย Bitcoin หลังการอนุมัติ Spot ETF

กองทุน Spot Bitcoin ETF ทั้งหมดที่เปิดให้ซื้อขายในสัปดาห์ที่ผ่านมามียอดถือครอง Bitcoin รวมกันเกือบ 95,000 BTC ส่งผลให้มูลค่าของสินทรัพย์ภายใต้การจัดการรวมกัน 4,000 ล้านดอลลาร์ และแซงหน้าการไหลออกจาก Grayscale Bitcoin Trust แสดงให้เห็นถึงการโยกย้ายเงินทุนของนักลงทุน

JPMorgan ระบุว่าแรงเทขาย Bitcoin จาก Spot bitcoin ETF ของ Grayscale อาจจะสูงถึง 3 พันล้านดอลลาร์ จากนักลงทุนมีแนวโน้มที่จะขายทำกำไร ซึ่งจะกดดันราคา Bitcoinในช่วงสองถึงสามสัปดาห์ข้างหน้านี้

Spot bitcoin ETF ของ Blackrock และ Fidelity เป็นสองกองทุนที่มีเม็ดเงินไหลเข้ามูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ ในช่วงสัปดาห์แรกหลังการลิสต์ซื้อขาย โดยรวมแล้ว 10 ใน 11 กอง มีเงินไหลเข้ารวมเกือบ 3.4 พันล้านดอลลาร์ มีเพียงแค่ Grayscale ที่เงินไหลออก 2.2 พันล้านดอลลาร์

Bitcoin กลายเป็นสินทรัพย์ประเภทสินค้าโภคภัณฑ์ที่ถูกแปลงให้อยู่ในรูปแบบของกองทุน ETF ที่มีมูลค่าอันดับสองในสหรัฐฯ แซงหน้าแร่เงินและตามหลังทองคำเท่านั้น บ่งบอกถึงความต้องการในตลาดที่รอสินทรัพย์ประเภทนี้อยู่

Venture Smart Financial Holdings บริษัทจัดการการลงทุนในฮ่องกงมีแผนที่จะเปิดตัว Spot Bitcoin ETF ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยตั้งเป้าจะมีสินทรัพย์ภายใต้การลงทุน 500 ล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้ และคาดว่าจะมีผู้จัดการกองทุนอย่างน้อย 10 แห่งกำลังเตรียมที่จะเปิดตัว Spot Bitcoin ETF ในปีนี้

สำนักงานประธานาธิบดีเกาหลีใต้เสนอให้คณะกรรมการบริการด้านการเงินหรือ FSC เปลี่ยนมุมมองที่มีต่อ Bitcoin ETF ให้เป็นเชิงบวกและสนับสนุนให้มีการอนุมัติจัดตั้ง Bitcoin ETF ในประเทศ หลัง FSC ออกมาประกาศระงับการเข้าถึงของนักลงทุนรายย่อยที่มีต่อ Bitcoin ETF 

ก.ล.ต.สหรัฐฯ เลื่อนตัดสินใจการอนุมัติจัดตั้ง Spot Ethereum ETF ของ Fidelity ไปเป็นวันที่ 5 มีนาคม หลังจากที่ได้ยื่นเรื่องมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว นักวิเคราะห์คาดว่าการตัดสินใจน่าจะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม

Bloomberg คาดว่ามีโอกาส 70% ที่ Coinbase จะชนะคดีที่ฟ้องร้อง ก.ล.ต.สหรัฐฯ เกี่ยวกับการลิสต์เหรียญที่มีโอกาสเข้าข่ายเป็นหลักทรัพย์ รวมถึงการให้บริการที่มีโหนดผู้ตรวจสอบธุรกรรมขนาดใหญ่ เช่น กระดานเทรดคริปโต เปิดให้นักลงทุนรายย่อยสามารถฝาก Ethereum ไว้และเปิดโหนดเพื่อแลกกับส่วนแบ่งรายได้ (Stake As A Service)

USDT มีส่วนแบ่งตลาดเหรียญ stablecoin ทั่วโลกเพิ่มขึ้นจาก 50% เป็น 71% ในช่วงปี 2023 และมียอดหมุนเวียนเหรียญ stablecoin มากกว่า 95 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ USDC ของ Circle ตามมาในอันดับที่สองแบบห่างๆ

---

วิเคราะห์กราฟเทคนิคประจำสัปดาห์ 23-29 มกราคม 2567

---

Bitcoin (BTC)

BTC แนวโน้มยังอ่อนแรงลง RSI ยังไม่สามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้ ทำให้มีโอกาสที่ราคาจะลงมาแตะระดับ 38,000 ดอลลาร์ แต่เบื้องต้นให้จับตาที่แนวรับ 40,200 ดอลลาร์ ไว้ก่อน ขณะที่แนวต้านแรกอยู่ที่ 45,000 ดอลลาร์ หากผ่านจุดนี้ไปได้มีแนวโน้มว่าราคาจะสามารถกลับตัวขึ้นมาได้

แนวรับ 1,420,000 บาท แนวต้าน : 1,540,000 บาท

Ethereum (ETH)

ETH เคลื่อนไหวแบบ Sideway Down หลังขาดปัจจัยบวกกระตุ้นใหม่ แนวโน้มมีโอกาสลงทดสอบแนวรับที่ 2,050 ดอลลาร์ มองเป็นจุดเข้าซื้อถ้าหากสามารถยืนได้ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,600 ดอลลาร์ แนวโน้มถึงจะกลับมาเป็นขาขึ้นได้ต่อ

แนวรับ : 82,000 บาท แนวต้าน : 91,000 บาท

SushiSwap (SUSHI)

SUSHI  ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.25% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา การฟื้นตัวยังค่อนข้างอ่อนแรง มีโอกาสปรับตัวลงทดสอบแนวรับที่ 36 บาท สามารถใช้จุดนี้ตัดขาดทุนถ้าหากราคาหลุดจากระดับนี้ จับจังหวะที่ราคาสามารถผ่านแนวต้านที่ 43 บาทไปได้ แนวโน้มถึงจะสามารถปรับตัวขึ้นต่อ

แนวรับ : 36 บาท แนวต้าน : 43 บาท

Binance coin (BNB)

BNB ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.84% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ภาพรวมยังเป็น Sideway Up ถ้าจะกลับตัวเป็นขาขึ้นได้ต่อ จะต้องผ่านแนวต้านที่ระดับ 11,800 บาท ไปให้ได้ก่อน ขณะที่แนวรับรอซื้อที่ระดับ 10,600 บาท หากหลุดระดับนี้ระวังแนวโน้มจะกลายเป็นขาลง

แนวรับ : 10,600 บาท แนวต้าน : 11,800 บาท

---

กลยุทธ์การลงทุนประจำสัปดาห์

---

ราคา Bitcoin เคลื่อนไหวในกรอบแคบหลังการอนุมัติ Bitcoin Spot ETF แม้ว่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้ามาใน ETF อย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนอาจเป็นการย้ายออกจากกอง GBTC ที่มีค่าธรรมเนียมสูง และนักลงทุนมีกำไรจากการที่ราคา Discount กลับเข้าสู่ราคาตลาด จึงยังไม่เห็นเม็ดเงินใหม่เข้ามาลงทุนใน Bitcoin 

ตลาดมีแรงกดดันมาจากแรงเทขาย Bitcoin จาก GBTC ประกอบกับคดีความของ Binance และ Coinbse ที่มีต่อ ก.ล.ต.สหรัฐฯ เกี่ยวกับการตีความเหรียญและโทเคนว่าเป็นหลักทรัพย์ ทำให้ตลาดน่าจะยังเคลื่อนไหว Sideway จนกว่าคดีจะมีความชัดเจนเชิงบวก

ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องจับตาในสัปดาห์นี้ วันพฤหัสฯที่ 25 มกราคม จะมีการประกาศคาดการณ์ GDP ไตรมาสสี่ของสหรัฐฯ หากตัวเลขเป็นตามคาดจะส่งผลดีต่อตลาด เพราะจะสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น

รวมถึงต้องจับตาการประกาศงบหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ ช่วงหลังจากนี้ หากออกมาดีจะส่งผลบวกต่อตลาดคริปโตไปด้วย รวมทั้งการที่ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้ง S&P500 และ Nasdaq ที่ขึ้นมาทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องจะช่วยหนุนตลาดคริปโตได้อีกทาง

คำเตือน:

– คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
– ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต

*มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งอีเมลและเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน

You might also like

---

More from Crypto รายสัปดาห์

---