Bitcoin ปรับฐานหนักก่อน Bitcoin Halving ครั้งที่ 4

อย่างที่ทราบกัน 20 เมษายนนี้ จะเป็นวันดีเดย์ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4 ซึ่งจะลดซัปพลายใหม่ที่เกิดขึ้นจากการขุดต่อวันลงครึ่งหนึ่ง ขณะที่หลายฝ่ายกำลังจับตาว่า ราคา Bitcoin จะสร้างจุดสูงสุดใหม่หลัง halving ได้หรือไม่ แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อมีสงครามระหว่างอิหร่านและอิสราเอล ทำให้ราคา Bitcoin เกิดการปรับฐานแรงในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ฮ่องกงอนุมัติการจัดตั้งกองทุน Spot Bitcoin และ Ethereum ETF อย่างเป็นทางการ โดยบริษัทในเครือ Harvest Fund Management จากจีน และ Bosera Asset Management กับ HashKey Capital จะตั้งกองทุนบริหารร่วมกัน คาดว่ามีโอกาสได้รับการอนุมัติเป็น 2 รายแรก จะเริ่มเปิดตัวได้ในช่วงปลายเดือนเมษายน

Jan van Eck CEO ของ VanEck เปิดเผยว่ากองทุน Ethereum ETF จะถูก ก.ล.ต. สหรัฐฯ ปฏิเสธในเดือนพฤษภาคม ขณะที่นักวิเคราะห์ของ Bloomberg ETF ปรับลดโอกาสในการอนุมัติ Spot Ethereum ETF ภายในเดือนพฤษภาคมจาก 70% เหลือ 30%

VanEck หนึ่งในผู้จัดการกองทุนที่บริหาร Bitcoin Spot ETF เปิดเผยว่านักลงทุนในตลาดเงินดั้งเดิมยังไม่ได้เข้ามาลงทุนใน Bitcoin ETF มากนัก แม้ว่าจะมีนักลงทุนรายใหญ่บางส่วน แต่ภาพรวม 90% ของผู้ลงทุนผ่าน ETF ยังคงเป็นนักลงทุนรายย่อยและจนถึงปัจจุบันไม่มีธนาคารในสหรัฐฯ ใดที่ได้รับการอนุมัติหรืออนุญาตให้เป็นที่ปรึกษาทางการเงินแนะนำ Bitcoin อย่างเป็นทางการ

Bybit ออกบทวิเคราะห์แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่ซัปพลายของ Bitcoin ใน CEX (centralized exchange) มีโอกาสถูกดูดออกหายไปจนหมดภายใน 9 เดือนหลังจากนี้ เหตุจาก halving ครั้งที่ 4 ตอนนี้เหลือ Bitcoin ในเว็บเทรดแค่ 2 ล้าน BTC ขณะที่มีแรงซื้อจาก Bitcoin ETF  ประมาณ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่อวัน คาดการณ์ว่า จะเทียบเท่ากับ 7,142 BTC ที่จะไหลออกจาก CEX 

CryptoQuant รายงานว่า แรงซื้อของ Bitcoin ETF ชะลอตัวลงเป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์แล้วจากจุดสูงสุดในเดือนมีนาคม โดยมีเพียงแค่ Grayscale และ BlackRock ที่ยังมีเงินทุนไหลเข้าชในช่วงสุปสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วน ETF อื่น ๆ แทบไม่มีมีการไหลเข้าเพิ่ม

การวิเคราะห์ล่าสุดของ Intotheblock เผยให้เห็นการใช้งาน Layer 2 ของ Ethereum หลังจากอัปเกรด Dencun เพิ่มขึ้นถึง 196% โดย Base ได้ขึ้นมาเป็นผู้นำหลักมีธุรกรรมประมาณ 57% ตามมาคือ Arbitium  และ Optimism คิดเป็นสัดส่วน 31% และ 11% ตามลำดับ

---

วิเคราะห์กราฟเทคนิคประจำสัปดาห์ 16 – 22 เมษายน 2567

---

 

Bitcoin (BTC)

BTC ปรับตัวลงแรงมาที่ระดับ 60,600 ดอลลาร์สหรัฐ แม้ยังไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่ แต่แนวโน้มราคายังอ่อนแอ จับตาที่แนวรับดังกล่าว หากไม่สามารถรับอยู่ได้ แนวโน้มมีโอกาสที่จะปรับตัวลงต่อได้ลึก แนะนำให้ชะลอการลงทุนไปก่อน โดยแนวโน้มน่าจะเริ่มดีขึ้น ถ้าสามารถผ่านแนวต้านที่ 67,000 ดอลลาร์สหรัฐ ไปได้

แนวรับ 2,200,000 บาท แนวต้าน 2,520,000 บาท

Ethereum (ETH)

ETH เกิดแรงเทขายตาม BTC ประกอบกับโอกาสที่จะอนุมัติ Ethereum ETF เริ่มลดลงทำให้แนวโน้มทะยอยปรับตัวลง ระยะสั้นมองว่าจับตาที่แนวรับ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ ถ้ารับไม่อยู่แนะให้ชะลอการลงทุนไปก่อน แต่ถ้าสามารถผ่านแนวต้านที่ 3,300 ดอลลาร์สหรัฐ และยืนได้ต่อเนื่องถึงค่อยกลับมาดูแนวทางการลงทุนต่อ

แนวรับ 108,000 บาท แนวต้าน 122,000 บาท

Binance (BNB)

BNB ปรับตัวลดลง 5.84% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ภาพรวมถือว่าลดน้อยกว่าตลาดและยังคงแนวโน้มขาขึ้น ระยะสั้นจับตาแนวรับ 18,400 บาท ถ้ายืนอยู่ได้เป็นโอกาสในการเข้าซื้อ โดยมีเป้าแนวต้านระยะสั้นที่ 22,000 บาท 

แนวรับ 18,400 บาท แนวต้าน 22,000 บาท

Tron (TRX)

TRX ปรับตัวลดลง 8.72% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาลงมาถึงแนวรับสำคัญที่ 4 บาท จับตาที่แนวรับนี้ ถ้าไม่สามารถรับได้ แนวโน้มอาจเปลี่ยนเป็นขาลง แต่ถ้าสามารถยืนได้อาจเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ เพื่อทำกำไรระยะสั้นที่แนวต้าน 4.35 บาท 

แนวรับ 4.00 บาท แนวต้าน 4.35 บาท

---

กลยุทธ์การลงทุนประจำสัปดาห์

---

เงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือนมีนาคมออกมาสูงกว่าคาดเล็กน้อยที่ 3.3% ยังเป็นปัจจัยที่กดดันราคา Bitcoin ต่อเนื่อง ล่าสุดประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ออกมากล่าวว่า ยังไม่เห็นสัญญาณที่เงินเฟ้อจะชะลอตัวลงทำให้ยังคงต้องใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดต่อไป

ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นแข็งค่าต่อเนื่องจากความวิตกกังวลสงครามระหว่างอิหร่านและอิสราเอล ทำให้เม็ดเงินกลับมาลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อลดความเสี่ยงที่กดดันราคา Bitcoin 

ประเมินสถานการณ์หากสงคราม หากมีความรุนแรงขึ้นจะส่งผลลบต่อราคา Bitcoin จากการที่นักลงทุนที่ซื้อ Bitcoin ผ่าน ETF ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับนักลงทุนในตลาดหุ้นจะทำการเทขายเพื่อปรับพอร์ต แต่ถ้าสงครามไม่รุนแรง แต่ยืดเยื้ออาจส่งผลลบแค่ระยะสั้น

ดัชนี Bitcoin Dominance พุ่งทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 ปี กดดันราคา Altcoin ร่วงลงแรงทั้งตลาด มีเพียงกลุ่มปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Blockchain Layer 1 บางตัวที่แข็งกว่าตลาดแนะนำเลี่ยงลงทุน Altcoin ออกไปก่อน

การเกิด Bitcoin Halving ใน 20 เมษายนนี้ คาดว่า จะไม่ส่งผลต่อราคามากนัก ปัจจัยหลักยังต้องติดตามสถานการณ์สงครามอิหร่านและอิสราเอล โดยหากราคา Bitcoin หลุดระดับ 60,000 ดอลลาร์ อาจเกิดการปรับฐานต่อ แต่ถ้ายังรักษาระดับไว้ได้ จะมีโอกาสกลับไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมได้

---

แหล่งอ้างอิง:

https://www.theblock.co/post/288059/hong-kong-to-approve-spot-bitcoin-ether-etfs-as-soon-as-monday-bloomberg 

https://www.theblock.co/post/287443/vaneck-coinshares-ceos-not-feeling-very-optimistic-about-secs-approval-of-spot-ethereum-etfs-cnbc

https://cointelegraph.com/news/retail-investors-bitcoin-etf-vaneck

https://cryptopotato.com/ethereum-layer-2-transaction-explosion-200-surge-post-dencun-upgrade/

https://cointelegraph.com/news/bitcoin-supply-run-out-exchanges-9-months

https://cointelegraph.com/news/bitcoin-price-falls-under-62k-amid-wavering-spot-btc-etf-demand

---

คำเตือน:

– คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
– ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต

*มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งอีเมลและเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน

You might also like

---

More from Crypto รายสัปดาห์

---