Memecoin คึกคัก สร้างผลตอบแทนสูงสุดใน Q1

CoinGecko รายงานผลตอบแทนในไตรมาสแรก ปี 2567 กลุ่มเหรียญ memecoin สามารถทำผลตอบแทนได้สูงสุดที่ 1,312.6% โดยทำได้สูงกว่าโทเคนกลุ่ม RWA (real world asset) ที่ตามมาเป็นอันดันที่ 2 ถึง 4.6 เท่า และมากกว่ากลุ่ม layer 2 ถึง 33.3 เท่า โดยมูลค่าตลาดรวมของ memecoin คิดเป็นสัดส่วน 2.32% ของมูลค่าตลาดสกุลเงินดิจิทัล เพิ่มขึ้น 176.9% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส

DappRadar รายงานจำนวนการใช้งาน dApps และ Web3 ไตรมาสแรก ปี 2567 เติบโต 77% จากไตรมาสก่อน จำนวนผู้ใช้งานรายวันเพิ่มขึ้น 40% จากเดือนก่อนหน้า รวมอยู่ที่ 7 ล้านราย โดยโทเคน NFT มีการเติบโตสูงสุด ส่งสัญญาณว่าตลาดคริปโทเคอร์เรนซีกำลังสิ้นสุดภาวะหมีที่เซื่องซึมอย่างยาวนาน

VanEck รายงานผลวิจัยว่า Blockchain Layer 2 จะมีมูลค่าตลาดถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายใน 6 ปี และมีเชนที่รองรับกว่า 1,000 เชน ภายใต้การตั้งสมมติฐานว่า Ethereum จะครองส่วนแบ่งตลาดถึง 60% ของกลุ่ม Public Blockchain ทั้งหมด

ส่วนแบ่งตลาดของ Lido ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม Liquid Staking ลดลงเหลือ 29.57% จาก 32% ในเดือนธันวาคม 2566 ขณะที่แพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่มีสัดส่วนตลาดรองลงมาคือ Coinbase อยู่ที่ 14.04% ส่วน Binance อยู่ที่ 3.75% และแพลตฟอร์ม Kiln อยู่ที่ 3.5%

Ripple ประกาศแผนการเปิดตัวเหรียญ stablecoin ที่มีสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐหนุนหลัง โดยมีเป้าหมายจะแข่งขันกับ Circle และ Tether และจะใช้เชน XRP Ledger และ Ethereum ในการออก รวมถึงประเมินว่า stablecoin จะมีมูลค่าตลาด 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2571 จากปัจจุบันอยู่ที่ 150,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นักวิเคราะห์ของ Bloomberg ETF พบว่า ปริมาณการซื้อขาย Bitcoin ETF ในเดือนมีนาคม 2567 สูงถึง 111,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับ 42,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่ Bitcoin ETF ของ BlackRock หรือ IBIT ยังคงครองปริมาณการซื้อขายอันดับ 1 ตามมาด้วย GBTC ของ Grayscale และ FBTC ของ Fidelity

Tether เพิ่ม Bitcoin เป็นส่วนของทุนสำรองจำนวน 8,888 BTC กลายเป็นผู้ถือครอง Bitcoin รายใหญ่เป็นอันดับที่ 7 รวม 75,354 BTC ในราคาเฉลี่ย 30,305 ดอลลาร์สหรัฐ รวมมีมูลค่า 5,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีผลกำไรเกิดขึ้น 2,940 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ Binance เป็นผู้ถือ Bitcoin รายใหญ่ที่สุด กว่า 248,597 BTC 

JPMorgan คาดว่า ก.ล.ต. สหรัฐฯ จะยังไม่อนุมัติ Ethereum Spot ETF ในเดือนพฤษภาคมนี้ โดยมีโอกาสที่จะอนุมัติต่ำกว่า 50%  แต่สุดท้ายจะเกิดการฟ้องร้องขึ้นแบบเดียวกับ Bitcoin Spot ETF จนทำให้ ก.ล.ต.สหรัฐฯ จะต้องอนุมัติในที่สุด

BlackRock อัปเดตข้อมูลในกองทุน IBIT โดยเพิ่มสถาบันการเงินจาก Wall Street ใหม่จำนวน 5 ราย ประกอบไปด้วย ABN AMRO Clearing, Citadel Securities, Citigroup Global Markets, Goldman Sachs และ UBS Securities จากเดิมที่มีสมาชิกได้แก่ JPMorgan Securities, Jane Street Capital, Macquarie Capital และ Virtu Americas

---

วิเคราะห์กราฟเทคนิคประจำสัปดาห์ 9 – 15 เมษายน 2567

---

 

Bitcoin (BTC)

BTC สามารถทะลุกรอบแพตเทิร์นสามเหลี่ยมออกมาได้ จึงมีแนวโน้มสูงที่ราคาจะปรับตัวขึ้นไปได้ต่อโดยมีเป้าหมายแรกที่จุดสูงสุดเดิม 74,000 ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนจะมองถึงแนวต้านเป้าหมาย 80,000 ดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป ระยะสั้นมีแนวรับที่ 68,000 ดอลลาร์สหรัฐ การย่อลงมามองเป็นโอกาสที่จะเข้าซื้อ

แนวรับ 2,400,000 บาท แนวต้าน : 2,800,000 บาท

Ethereum (ETH)

ETH พุ่งแรงกว่า BTC สามารถฝ่าด่านแนวต้านสำคัญที่ 3,700 ดอลลาร์สหรัฐขึ้นมาได้ แนวโน้มมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ โดยมีแนวต้านแรกที่จุดสูงสุดเดิม 4,000 ดอลลาร์สหรัฐ หากผ่านไปได้มองเป้าหมายที่การสร้างจุดสูงสุดใหม่เหนือ 4,800 ดอลลาร์สหรัฐ ระยะสั้นจับตาแนวรับที่ 3,500 ดอลลาร์สหรัฐ

แนวรับ 126,000 บาท แนวต้าน 146,000 บาท

Velo (VELO)

VELO ปรับตัวเพิ่มขึ้น 62.29% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับตัวขึ้นแรงสอง 2 สัปดาห์ติดต่อกัน และมีแนวโน้มจะผันผวนมากขึ้น การย่อตัวลงมาแรง ๆ แล้วไม่หลุดแนวรับที่ 0.42 บาท ยังสามารถเข้าไปสะสมเพิ่มได้ แต่ถ้าหลุดให้ชะลอลงทุนออกไปก่อน ส่วนเป้าหมายแนวต้านต่อไปที่ 0.62 บาท

แนวรับ 0.42 บาท แนวต้าน 0.62 บาท

Stella (ALPHA)

Stella ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.02% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาค่อนข้างมีความผันผวนสูงต้องใช้ความระมัดระวังในการเทรดอย่างมาก กลยุทธ์ที่ใช้คือ buy on dip รอซื้อที่แนวรับ 6 บาท ถ้ายืนได้รอขายทำกำไรระยะสั้นที่ระดับ 7.6 บาท ถ้าสามารถผ่านไปได้ มีแนวโน้มจะเป็นขาขึ้นเต็มตัว

แนวรับ 6 บาท แนวต้าน 7.6 บาท

---

กลยุทธ์การลงทุนประจำสัปดาห์

---

ตัวเลข non farm payroll ออกมาดีกว่าที่คาด ส่วนอัตราว่างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ภาพรวมไม่ได้ส่งผลต่อราคา Bitcoin มากนัก สัปดาห์นี้จับตา 10 เมษายน จะมีการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือนมีนาคม ตลาดคาดออกมาที่ 3.4% เพิ่มจากเดือนก่อนที่ออกมา 3.2% หากเงินเฟ้อลดลง จะส่งผลบวกต่อราคา Bitcoin 

วันเดียวกันยังมีการเปิดเผยเนื้อหาจากการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ครั้งก่อน จับตาความคิดเห็นของกรรมการแต่ละคนที่อาจนำไปสู่การตัดสินใจครั้งในการประชุมครั้งต่อไป

เม็ดเงิน outflow ของกองทุน GBTC เริ่มลดลง ส่วนยอด inflow ของ Bitcoin ETF กองอื่น ๆ เริ่มฟื้นตัวอีกครั้ง แม้จะยังไม่กลับไปอยู่ในระดับสูงสุดก่อนหน้านี้ แต่ถือเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ Bitcoin ฟื้นตัวขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ คาดว่าสัปดาห์นี้จะให้ผลตอบแทนเชิงบวก และทำให้ตลาดกลับมาคึกคักได้อีกครั้ง

Altcoins ยังคงมีเพียงไม่กี่กลุ่มที่มีการเก็งกำไรอย่างคึกคัก แต่ข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่า การใช้งาน dApps กลับมาเติบโต และการที่ Ethereum สร้างผลตอบแทนสูงกว่า Bitcoin เป็นสัญญาณว่า Altcoin ในภาพรวมกำลังที่จะกลับมาคึกคักอีกครั้ง

กลยุทธ์เทรดเน้นเก็งกำไรในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับ AI (artificial intelligence) และทะยอยสะสมในกลุ่มเหรียญที่ยัง underperform อย่าง DeFi และ GameFi ที่ยังปรับตัวขึ้นไม่มากนัก

---

แหล่งอ้างอิง:

• https://www.theblock.co/post/286718/sec-spot-ethereum-etf-jpmorgan 
• https://cointelegraph.com/news/blackrock-updates-btc-etf-adds-5-wall-street-firms
• https://cointelegraph.com/news/ripple-announces-stablecoin-launch 
• https://cointelegraph.com/news/nft-web3-average-daily-active-unique-wallets-reach-7-m-dapp-radar 
• https://cointelegraph.com/news/lido-ethereum-staking-market-share-below-30 
• https://cointelegraph.com/news/tether-boosts-bitcoin-reserves 
• https://cointelegraph.com/news/spot-bitcoin-etf-trading-volume-tripled-in-march-to-111-billion 
• https://cointelegraph.com/news/memecoins-were-most-profitable-crypto-narrative-in-q1-2024-coingecko 
• https://cointelegraph.com/news/ethereum-layer-2-one-trillion-market-cap-2030-van-eck 

---

คำเตือน:

– คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
– ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต

*มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งอีเมลและเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน

More from Crypto รายสัปดาห์

---