Bitazza Crypto Weekly: Metaverse และ NFT ดูเหมือนว่าจะยังคงได้การตอบรับเชิงบวก

ฉบับประจำวันที่ 29 สิงหาคม – 4 กันยายน 2565

Juniper Research วิเคราะห์ตลาด NFT ในอีก 5 ปีข้างหน้าพบว่าธุรกรรมทั่วโลกที่เกี่ยวข้องกับ NFT จะเพิ่มขึ้นจาก 24 ล้านรายการในปี 2022 เป็นเกือบ 40 ล้านรายการภายในปี 2027 โดย NFT ที่เกี่ยวข้องกับ Metaverse จะมีการเติบโตมากที่สุดจากการที่แบรนด์ระดับโลกต่างเข้ามาในโลก Metaverse มากขึ้น

Nike เปิดเผยรายได้จากการจำหน่าย NFT ในปีที่แล้วอยู่ที่ 185 ล้านดอลลาร์ โดยทิ้งห่างแบรนด์ชั้นนำอื่นๆที่เสนอขาย NFT ด้วยเช่นกันหลายเท่ารวมถึงคู่แข่งอย่าง Adidas โดยปีที่แล้ว Nike ยังได้ซื้อกิจการบริษัทผู้สร้าง NFT และออกคอลเลคชั่นรองเท้าผ้าใบของตัวเอง Cryptokicks 

เทศบาลปักกิ่งประกาศแผนพัฒนาเทคโนโลยี Metaverse ระยะเวลา 2 ปี ตั้งแต่ 2022-2024 ต่อจากนครเซี่ยงไฮ้ที่เพิ่งประกาศแผน 5 ปี ไปก่อนหน้านี้ แผนการพัฒนาดังกล่าวกำหนดให้ทุกเขตต้องสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีที่รองรับ Web3.0 อย่างเช่น NFT,ภาพสามมิติรวมถึงระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์หรือ GIS

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ ได้ชะลอการตัดสินใจเกี่ยวกับการยื่นข้อเสนอของ VanEck เพื่อจัดตั้งกองทุน Bitcoin ETF ที่ลงทุนในตลาด Spot โดยตรงออกไปเป็นวันที่ 11 ตุลาคม 2022 โดยยังให้เหตุผลในการตัดสินใจอนุมัติในเรื่องประเด็นการคุ้มครองผู้ลงทุนตลอดจนความโปร่งใสในการควบคุมราคา

Gary Gensler  ประธานคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ หรือ SEC เขียนบทความผ่านทาง The Wall Street Journal ว่าไม่มีความจำเป็นต้องใช้กฎหมายใหม่เพื่อที่จะควบคุมตลาดคริปโตโดยสามารถใช้กฎหมายทางด้านหลักทรัพย์ที่มีอยู่ก็พอเพื่อคุ้มครองผู้ลงทุนกรณีที่เกิดการล้มละลาย

Samsung Securities หนึ่งในบริษัทหลักทรัพย์รายใหญ่ 7 แห่งของเกาหลีใต้ ได้ยื่นขออนุมัติจากรัฐบาลในการขอใบอนุญาตการเป็น Exchange ภายใต้กฎหมาย Virtual Assets โดยตั้งเป้าที่จะเปิดตัวในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า นอกจากนี้ยังมีสถาบันการเงินรายใหญ่ของเกาหลีที่สนใจในธุรกิจคริปโตจะขอใบอนุญาตด้วยเช่นกัน

นักลงทุนในตลาดคริปโตเกิดความกังวลว่า MT.Gox ซึ่งเป็นอดีต Exchange อันดับหนึ่งของโลกที่ประกาศล้มละลายไปจะเริ่มทำการคืน Bitcoin จำนวน 140,000 BTC ให้กับลูกค้าเก่าทำให้อาจเกิดการเทขายอย่างหนักจากการที่ผู้ถือ Bitcoin ส่วนใหญ่ในช่วงเวลาดังกล่าวมีราคาต่ำกว่า 1,000 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม BTC จำนวนที่คืนยังถือว่ามีปริมาณเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปริมาณซื้อขายในปัจจุบัน

---

วิเคราะห์กราฟเทคนิคประจำสัปดาห์  29 สิงหาคม – 4 กันยายน 2565

---

Bitcoin (BTC)

BTC หลุดแนวรับ 20,700 ดอลลาร์ ทำให้แนวโน้มระยะสั้นเปลี่ยนเป็นขาลงโดยต้องจับตาแนวรับต่อไปที่ระดับ 18,900 ดอลลาร์ และถ้ายังรับไม่อยู่อาจลงไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิมที่ 17,500 ดอลลาร์ อินดิเคเตอร์ยังไม่เกิดจุดกลับตัว  จึงมีแนวโน้มต้องติดตามดูราคาจนกว่ากราฟจะนิ่งต่อไปก่อน โดยมีแนวต้านแรก 22,500 ดอลลาร์

 

Ethereum (ETH)

ETH แนวโน้มระยะสั้นกลับมาเป็นขาลง โดยต้องจับตาที่แนวรับสำคัญ 1,200 ดอลลาร์ ถ้าหลุดจากตรงนี้ราคาแนวโน้มมีโอกาสจะกลับไปต่ำกว่า 1,000 ดอลลาร์ อีกครั้ง แต่ถ้าสามารถยืนระยะอยู่ได้ยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นต่อได้โดยมีเป้าหมายที่ 2,000 ดอลลาร์ 

 

Stargate Finance (STG)

STG ปรับตัวเพิ่มขึ้น 16.5% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ภาพแนวโน้มระยะสั้นยังคงเป็นขาขึ้น แต่ต้องไม่หลุดต่ำกว่าระดับ 22 บาท ถ้ายังสามารถรักษาแนวโน้มขาขึ้นได้จะมีเป้าหมายที่จุดสูงสุดเดิม 42 บาท กลยุทธ์ยังคงเป็นการลงทุนเมื่อราคาย่อตัว

 

Terra Classic (LUNC)

LUNC ปรับตัวเพิ่มขึ้น 42.7% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเป็นการ Breakout ออกจากกรอบ Sideway มีแนวรับที่ 0.0042 บาท และมีแนวต้านที่จุดสูงสุดเดิม 0.0052 บาท อย่างไรก็ตาม การที่พื้นฐานของเหรียญมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญ หากต้องการลงทุนแบบเก็งกำไรระยะสั้น โปรดศึกษาและประเมินระดับราคาที่ท่านรับความเสี่ยงได้

 

---

กลยุทธ์การลงทุนประจำสัปดาห์

---

 

เจอโรม พาวเวล ประธาน FED ขึ้นกล่าวในการประชุมประจำปีของ FED ที่เมืองแจ็กสัน โฮล โดยออกมาตอกย้ำว่า FED ยังต้องต่อสู้เอาชนะเงินเฟ้อในระดับสูงต่อไป คำกล่าวนี้ทำให้ตลาดการเงินถูกเทขายทั้งหมดไม่ว่าจะตลาดหุ้นหรือตลาดคริปโตและทำให้ Dollar Index กลับมาแข็งค่าอีกครั้งอย่างรวดเร็ว

การแถลงของประธาน FED ชัดเจนว่าจะยังใช้นโยบายการเงินเข้มงวดทำให้ภาพรวมตลาดยังไม่มีปัจจัยใดที่จะทำให้ ราคา Bitcoin กลับมาฟื้นตัวได้ กลยุทธ์จึงต้องเป็นการเฝ้าระวังไม่ให้ Bitcoin ลงมาทำจุดต่ำสุดใหม่ไปก่อน ยังไม่ใช่จังหวะที่จะเข้าลงทุนเต็มตัว

เหตุการณ์ที่ต้องจับตาในสัปดาห์นี้ วันศุกร์ที่ 2 กันยายน จะมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญคืออัตราการว่างงานนอกภาคการเกษตรหรือ Non Farm Payroll ถ้าหากประกาศออกมาลดลงจะแสดงว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯยังคงเติบโตได้โดยไม่มีความเสี่ยงที่จะเกิด Recession จะทำให้ FED กล้าที่จะใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดอีกครั้งซึ่งจะส่งผลลบต่อตลาด

ก่อนที่จะมีการประชุม FED อีกครั้งในช่วงปลายเดือนกันยายนตลาดอาจจะซึมและมีความผันผวนสูงจากการที่ยังไม่มีข่าวดีมาช่วยสนับสนุนตลาด

หากการประชุม FED ปลายเดือนกันยายนออกมาเพิ่มดอกเบี้ยในอัตรา 0.75% ตลาดจะไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก แต่ถ้าขึ้นดอกเบี้ย 1% จะส่งผลในเชิงลบและถ้าปรับเพิ่มเพียง 0.50% จะส่งผลในเชิงบวก

คำเตือน: คริปโทเคอร์เรนซีมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน

*มุมมอง ข้อมูลความรู้ และความคิดเห็นถือมาเป็นเนื้อหาที่มาจากปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ถือเป็นการแสดงออกจากบิทาซซ่าและพนักงาน ทั้งอีเมลและเนื้อหาที่นำเสนอไม่ถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน

 

Sources

https://cointelegraph.com/news/metaverse-is-a-key-factor-in-long-term-nft-success-says-new-research

https://watcher.guru/news/nike-makes-185-million-via-nft-sales-leaves-adidas-gucci-behind

https://cointelegraph.com/news/beijing-announces-two-year-metaverse-innovation-and-development-plan

https://www.theblock.co/post/165872/sec-delays-decision-on-vanecks-latest-bitcoin-etf-application

https://www.wsj.com/articles/the-sec-treats-crypto-like-the-rest-of-the-capital-markets-disclosure-compliance-security-investment-mutual-fund-protections-blockfi-bankruptcy-bitcoin-11660937246?fbclid=IwAR088lz2i_ERvrBBVn3Ozd9qiuudG0MGbkPCePymbPncARc1oKQjX61S4q0

https://cointelegraph.com/news/south-korean-financial-majors-want-to-create-virtual-assets-exchange-in-2023-report

https://cointelegraph.com/news/mt-gox-rumors-panic-bitcoin-twitter-as-btc-price-returns-below-20k

 

 

You might also like

---

More from Crypto รายสัปดาห์

---